สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว Pantip ทุกคน ช่วงนี้ไม่ว่าจะเช้าสาย บ่าย เย็น เงยหน้ามองท้องฟ้าทีไร ก็มืดครึ้มและได้ยินเสียงฟ้าร้องมาแต่ไกลทุกที ก็เพราะว่าตอนนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนเป็นทางการแล้วจ้า เเน่นอนพอเข้าหน้านี้ปุ๊ป จะซักผ้าทีไรคิดหนักทู้กกกที เพราะกลัวผ้าอับ ทั้งฝนตก ทั้งตู้เสื้อผ้าชื้น พอเสื้อผ้าเหม็นอับ หยิบมาใส่ก็รู้สึกไม่มั่นใจตัวเอง สุดท้ายก็ต้องซักแต่เสียเวลามากกก

ดังนั้นเพื่อให้เสื้อผ้าไร้กลิ่นอับ สดชื่น มั่นใจ เราเลยจะมาแชร์ทริคดี ๆ จากเพื่อน ๆ ชาว Pantip ที่ได้เข้ามาร่วมโหวตผลโพล และแสดงความเห็น ในกิจกรรม Pantip x Downy & Ambi Pur ชวนแชร์เคล็ด (ไม่) ลับ กู้ชีพผ้าเหม็นอับ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 - 19 มิถุนายน 2565 กันถึง 414 คน! บอกเลยว่าไอเดียแต่ละคน นี่ไม่ธรรมดาและละเอียดยิบทีเดียว

มาค่ะ! ขอเปิดผลสำรวจสำหรับคำถามข้อแรกของ Pantip Poll กันดีกว่า  ประเดิมด้วยคำถามคลาสสิกที่ว่า “รู้หรือไม่ว่ากลิ่นอับบนผ้ามีสาเหตุมาจากแบคทีเรียสะสม” จากผลโหวตทั้งหมด พบว่ามีคนรู้ต้นเหตุของกลิ่นอับ อยู่ที่ร้อยละ 90 จำนวน 369 คนและคนไม่รู้ ร้อยละ 10 จากจำนวน 45 คน


ในขณะที่คำถามที่สอง หัวข้อว่า “วิธีที่เพื่อน ๆ ใช้เพื่อกำจัดแบคทีเรียและขจัดกลิ่นในเสื้อผ้า” ผลออกมาปรากฎว่า อันดับที่ 1 ที่ทุกคนใช้ขจัดมากที่สุด นั้นก็คือ… การใช้น้ำยาซักผ้าที่ผสมสารแอนตี้แบค ด้วยจำนวนคนที่โหวตถึง 212 คน คิดเป็น 51% ของจำนวนการโหวตทั้งหมด ส่วนอันดับที่ 2 ตากผ้ากลางแดดที่ร้อนมากกก ของประเทศไทย คิดเป็น 34% (140 คน) และอันดับที่ 3 เลือกที่จะใช้ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคกับน้ำยาซักผ้า คิดเป็น 9% (37 คน) นั่นเองค่ะ


มาถึงคำถามโค้งสุดท้ายที่ว่า “วิธีที่เพื่อน ๆ ใช้เพื่อกำจัดแบคทีเรียและกลิ่นอับบนโซฟา ผ้าม่าน เบาะ ฯลฯ” สำหรับผลสำรวจของ Pantip Poll ออกมาว่า 173 คน เลือกใช้สเปรย์ขจัดเชื้อโรคบนผ้า ด้วยจำนวนคนโหวตถึง 42% ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ในขณะที่อันดับสอง 129 คนเลือกเช็ดทำความสะอาดสิ่งของในบ้านสม่ำเสมอ คิดเป็น 31% และอันดับสาม 81 คน เห็นด้วยที่จะยกไปผึ่งแดด คิดเป็น 20% ค่ะ


จากผลโหวตทั้ง 3 คำถาม พอจะสรุปกันได้แล้วนะคะว่า วิธีที่เพื่อน ๆ เลือกมากเป็นอับดับหนึ่งคือ การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าที่ผสมสารแอนตี้แบค และสเปรย์ในการขจัดเชื้อโรคบนผ้า ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นอับนั้นเอง


เพื่อน ๆ ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารแอนตี้แบค ที่สามารถเปลี่ยนผ้าอับเป็นผ้าหอมมมได้แบบง่ายสุดๆ ทางเราภูมิใจนำเสนอ 3 ไอเทมตัวช่วยในช่วงหน้าฝน นั่นก็คือ ดาวน์นี่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำ สูตรแอนตี้แบค, ดาวน์นี่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม สูตรตากในที่ร่ม และ แอมบิ เพอร์ สเปรย์ฉีดผ้าหอม สูตรแอนตี้แบค บอกเลยว่า ทั้งสามตัวนี้จะเข้ามาช่วยเสริมความหอม เพิ่มความมั่นใจทุกครั้งที่ใส่เสื้อตัวเก่ง แถมยังไร้กลิ่นอับชื้นอีกด้วย


สำหรับตัวแรก ดาวน์นี่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำ สูตรแอนตี้แบค นั้นมีส่วนผสมของสารแอนตี้แบคทีเรีย สามารถขจัดกลิ่นอับและป้องกันการเกิดใหม่ของแบคทีเรีย แถมขจัดคราบฝังแน่นได้หมดจด กลิ่นยังหอมสดชื่นตลอดวันอีกด้วย

มาต่อกันที่ความหอมติดทนแบบคูณ 2 หลังซักผ้าต้องใช้ ดาวน์นี่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม สูตรตากในที่ร่ม หอมละมุนทั้งวัน ตอบโจทย์มากสำหรับวันไหนที่ฝนตก หรือซักตอนกลางคืน ถึงจะตากในที่ร่ม ผ้าก็หอมไม่ง้อแดดเลยค่ะ

เสื้อผ้าหอมแล้ว ก็อยากจะให้บ้านของเราหอมด้วยใช่มั้ยคะ นี่เลย แอมบิ เพอร์ สเปรย์ฉีดผ้าหอม สูตรแอนตี้แบค ใช้งานง่าย แค่ฉีดทิ้งไว้บนโซฟาผ้า ผ้าม่าน พรม หรืออะไรที่ลำบากจะเอาไปซัก ก็กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากแบคทีเรีย เพื่อผ้าหอมมมเหมือนได้ผ้าใหม่เลยค่าคุณผู้ช้มมม

และนอกจากนี้เพื่อน ๆ ชาว Pantip ยังมา comment แชร์ไอเดียดี ๆ บอกลาปัญหากลิ่นอับบนเสื้อผ้าง่าย ๆ กันแบบละเอียดยิบ อ่านกระทู้นี้จบ เสื้อผ้าหอมกันทั่วบ้านทั่วเมืองแน่นอนค่ะ เริ่มกันด้วยการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำค่ะ เพราะว่าการใช้เครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน อาจจะมีเศษตะกอน รวมถึงกลิ่นจากน้ำเหลือค้างในเครื่องซัก ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดกลิ่นอับนั้นเอง


ซึ่งหลายคนยังแนะนำให้ใช้เจลบอล หรือ ลูกบอลซักผ้า ที่แค่โยนลงถังแล้วซัก ผ้าก็สะอาดทันใจ ใช้งานง่ายไม่เลอะมืออีกด้วย ที่สำคัญดาวน์นี่เจลบอลยังมีเทคโนโลยีป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งสกปรกจากเครื่องซักผ้า กลับเข้ามาติดเสื้อผ้าของเราอีกครั้งด้วยนะคะคุณณณ


บางคอมเมนต์แนะนำให้ใช้สมุนไพรอบแห้ง ถุงหอม หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้หมดถุงแล้ว นำมาใส่ในตู้เสื้อผ้า เพราะสามารถดับกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้ดี นอกจากนี้เสื้อของเราก็จะหอมสดชื่นอีกด้วยค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่เคยลองใช้วิธี้นี้ ไอเดียนี้บอกเลยว่าเวิร์กมากค่ะ


และมาสายธรรมชาติกันหน่อยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่แพ้พวกสารเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ  ทริคนี้ใช้สมุนไพรไทยและผลไม้บางชนิด ไม่ว่าจะเป็นเปลือกมะนาว, เปลือกมะกรูด หรือจะเป็นสับปะรดมาหมักผ้าไว้ เพื่อแทนน้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็สามารถขจัดกลิ่นอับได้ดี รวมถึงกำจัดสิ่งสกปรกที่เกาะแน่นบนเสื้อให้หายไปได้ด้วย ซึ่งวิธีทั้งหมดที่เล่ามา นอกจากจะไม่มีสารตกค้างบนเสื้อแล้ว ยังไม่ทำให้เราคันมืออีกด้วยค่ะ


นอกจากนี้เคล็ดไม่ลับของสมาชิก Pantip บางคนก็ใช้ แอลกอฮอล์, วอดก้า, น้ำยาบ้วนปาก และน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มาแช่ผ้าก่อนซัก เพื่อกำจัดกลิ่นอับ ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถจัดการได้มีประสิทธิภาพเช่นกัน


หรือ จะลองใช้โปรแกรมน้ำอุ่นในเครื่องซักผ้า ในอุณหภูมิ 40 - 60 องศา ก็สามารถช่วยกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ที่เป็นต้นตอของกลิ่นอับได้ด้วยจ้า


สำหรับเครื่องปรุงอาหาร อย่าง น้ำส้มสายชู ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการลดกลิ่นอับเสื้อผ้าค่ะ ทั้งยังทำให้เนื้อผ้าดูสว่าง สดใส และนุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อีกหนึ่งวิธีที่ทีมงานก็คาดไม่ถึง ว่าจะช่วยจัดการปัญหาเสื้อเหม็นได้ นั่นก็คือ จับเสื้อใส่ถุงพลาสติก แล้วแช่ช่องแช่แข็งทันที เพราะความเย็น สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของกลิ่นอับได้ด้วยนะคะ  


และนี่ก็คือทริค (ไม่) ลับ ส่วนหนึ่งจากความเห็นทั้งหมดในกิจกรรม Pantip x Downy & Ambi Pur ชวนแชร์เคล็ด (ไม่) ลับ กู้ชีพผ้าเหม็นอับ ที่ทางเราได้รวบรวมกันมาวันนี้ค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่เข้ามาอ่านแล้ว เคยเจอกับปัญหาเสื้ออับในช่วงหน้าฝน ก็สามารถจดและนำไอเดียของ สมาชิก Pantip ไปลองใช้ดูค่ะ หรือจะลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของ Downy และ Ambi Pur ที่สามารถขจัดปัญหาดังกล่าวได้ รับรองหายเหม็นแน่นอน !

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากลองใช้ หรือซื้อ ดาวน์นี่ และแอมบิ เพอร์ สูตรแอนตี้แบค ไว้ติดที่บ้านและคอนโด ตอนนี้ก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัว ได้แล้วตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และทางออนไลน์ค่ะ ทางทีมงานต้องขอไหว้ย่อและขอบคุณสมาชิก Pantip ทุกคนที่ได้เข้ามาช่วยกันกู้ผ้าเหม็นอับ ให้กลับมาหอมอีกครั้ง และขอแสดงความยินดีกับผู้โชคดีทั้ง 55 ท่าน ที่ได้รับรางวัลจากกิจกรรม Pantip x Downy & Ambi Pur ชวนแชร์เคล็ด (ไม่) ลับ กู้ชีพผ้าเหม็นอับ ทั้งรางวัลใหญ่เครื่องซักผ้า Samsung และอีก 50 ท่านที่ได้รับชุดผลิตภัณฑ์ Downy & Ambi Pur Antibac ส่งตรงถึงบ้านเลยค่ะ แต่สำหรับสมาชิกคนไหนที่ไม่ได้รางวัล ก็สามารถติดตามกิจกรรมอื่น ๆ ได้นะคะ เพราะ Pantip ยังคงมีกิจกรรมดี ๆ สนุกสุด ๆ แบบนี้ รอทุกคนมาเล่นและลุ้นรางวัลกันรัว ๆ ได้ตลอดทุกเดือนที่ Pantip Activities อีกแน่นอน ! สำหรับวันนี้เราต้องขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีค่ะ

[Advertorial]