อันที่จริงแค่ได้ยินชื่อ ThinkPad หลายคนก็เตรียมควักกระเป๋ารูดบัตรแล้ว แต่จะทำรีวิวทั้งทีก็ขอให้ผมได้มีโอกาสบอกเล่าความดีงามในแต่ละส่วนให้อ่านกันครับ โดย ThinkPad P14s Gen 2 จัดว่าเกิดมาเพื่อคนทำงานโดยแท้ แบบที่เข้าใจคนทำงานอย่างแท้จริง รู้ว่าในการใช้งานจริงมีปัญหาอะไรและต้องการอะไร ทำให้รุ่นนี้มีความครบเครื่องสูงมาก ตั้งแต่การออกแบบ, การอัพเกรด, รวมไปถึงเรื่องระยะเวลาการรับประกัน



การออกแบบตัวเครื่องที่เข้าใจคนใช้งานจริง

ThinkPad P14s Gen 2 เลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันในแต่ละส่วน เพื่อให้เครื่องมีความแข็งแรงทนทาน แต่ยังรักษาความบางเบาสวยงามในแบบ ThinkPad ส่วนพอร์ตด้านข้างมีการเว้นระยะห่างไว้แบบเข้าใจคนใช้งานจริง เพราะถ้าวางพอร์ตไว้ใกล้กันเกินไปก็จะเกิดปัญหาสายเบียดกัน หรือถอดเสียบได้ยาก



พอร์ตที่ให้มาก็ครบถ้วนตามยุคสมัยด้วย Thunderbolt 4 ( USB-C ) จำนวน 2 ช่อง, USB ขนาดปรกติจำนวน 2 ช่อง แบ่งเป็นด้านละ 1 ช่อง, HDMI ขนาดเต็ม, ช่องเสียบหูฟัง, microSD Card Reader



ในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามสเปคแจ้งไว้ว่าใช้งานได้สูงสุด 9.7 ชั่วโมง ซึ่งผมใช้งานจริงแบบที่เปิดนั่นทำนี่ไปด้วยก็อยู่ได้ราวๆ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนครับ ส่วนขนาดของ USB-C Adapter 65W ก็ถือว่าพกพาได้ง่าย หรือถ้าเน้นความสะดวกจะใช้สายชาร์จร่วมกับอุปกรณ์อื่นก็ได้ครับ



หน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด FHD แบบ Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะยกไปนั่งทำงานตามสถานที่ต่างๆ แล้วมีแสงส่องเข้าหน้าจอสะท้อนเข้าตา เพราะหน้าจอแบบนี้จะลดแสงที่สะท้อนบนหน้าจอ ช่วยให้เรามองเห็นได้ชัดเจนกว่า



องศาการกางหน้าจอเป็นอีกจุดที่หลายคนซีเรียส ซึ่งรุ่นนี้กางสุดได้แทบจะแบนราบไปกับโต๊ะเลย เมื่อเทียบสิ่งที่จัดมาให้กับน้ำหนักตัวเครื่อง 1.46 กก. ก็ถือว่า ThinkPad P14s Gen 2 สมดุลระหว่างฟังชั่นก์การใช้งานที่ครบถ้วนในน้ำหนักที่ไม่มากเกินไป

ประสิทธิภาพการทำงานแบบ Workstation

กลุ่มลูกค้าดั้งเดิมของ ThinkPad ก็คือคนทำงาน แบบที่ถือแล้วรู้เลยว่าคนนี้ต้องเป็นสาย IT, Enterprise ไม่ก็ Management แน่ๆ นั่นหมายความว่านอกจากจะเป็นแล็ปท็อปที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือแล้ว ก็ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีและครบเครื่องจนทำให้คนกลุ่มนี้ชื่นชอบ

เช่นกันกับ ThinkPad P14s Gen 2 ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการทำงานแบบ Workstation ในขนาดที่พกพาได้ง่าย เลยเลือกใช้สเปค Intel Core i7-1165G7, NVIDIA Quadro T500 4GB, RAM 16 GB on-board อัพเกรดเพิ่มได้อีก 32GB รวมสูงสุด 48GB, SSD NVMe M.2 512GB อัพได้สูงสุด 2TB

จากการทดสอบความเร็วของ SSD NVMe อยู่ที่ประมาณ 3540/2950 MB/s ซึ่งถือว่าการอ่านเขียนไฟล์ทำได้รวดเร็ว ทำให้ผลลัพธ์ในการใช้งานจริงก็เปิดไฟล์หรือรันโปรแกรมได้ลื่นด้วย



ในภาพรวมแล้วสเปคแบบนี้ก็ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่งานเอกสารอย่าง Excel ที่มีจำนวน row มหาศาล ไปจนถึงงานด้านกราฟิกพื้นฐาน โดยสเปค NVIDIA Quadro T500 ออกแบบมาให้ใช้พลังงานสูงสุดที่ 25 W เท่านั้น ช่วยใช้ประหยัดแบตเตอรี่และใช้งานต่อเนื่องได้นานยิ่งขึ้น แต่เนื่องด้วยรุ่นนี้ออกแบบและ Optimize มาเพื่อการทำงานเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเอาไปเล่นเกมเท่าไร







ในกรณีที่อยู่ในออฟฟิศก็สามารถทำ Workstation เต็มรูปแบบด้วยการเสียบปลั๊ก, ต่อจอ, เมาส์, คีย์บอร์ด และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมไปถึงการต่อ eGPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานกราฟิก

ในการ VDO Conference หรืองานด้านความบันเทิง ก็มีลำโพงแบบ 2W x2 พร้อมระบบเสียง Dolby ซึ่งให้เสียงที่ดังและฟังได้ชัดเจน พร้อมกับไมค์ 2 ตัวและกล้องความละเอียด 720p ที่มี IR



และยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือวางไว้ข้าง Touchpad ปิดท้ายเพิ่มความมืออาชีพด้วยการแถม Windows 10 Pro มาให้

เสน่ห์ของ trackpoint วงการนี้เข้าแล้วออกยาก

การเลือกซื้อแล็ปท็อปที่เน้นการพกพา สิ่งสำคัญสำหรับผมก็คือ Touchpad เพราะเรามักจะไม่ได้ต่อเมาส์ ซึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมของ ThinkPad P14s Gen 2 ก็คือการเลือกพื้นผิวของ Touchpad ที่ละมุนนิ้วมาก ทำให้การลากเลื่อนทำได้ราบรื่นไม่ฝืดหนืดเหนียว



แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งกับการออกแบบมาตลอด ก็คือปุ่มควบคุมสีแดงที่วางไว้กลางแป้นพิมพ์ เพราะมันเปรียบเสมือนสิ่งยึดเหนียวจิตใจของแฟนๆ ThinkPad ที่ไม่สามารถมูฟออนไปที่อื่นได้ ด้วยการควบคุมที่ง่ายและแม่นยำพร้อมปุ่มแบบ Physical ที่ยกเอียงรับปลายนิ้ว แทนการใช้งานคลิกซ้าย, คลิกขวา, และปุ่มกลางเมาส์ ช่วยลดความผิดพลาดในการสั่งงานได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการ Drag Mouse หรือการ Scroll

และ trackpoint นี้จะมีบทบาทชัดเจนเมื่อเราต้องทำงานระหว่างเดินทาง เพราะการใช้ Touchpad ระหว่างการนั่งบนรถก็จะมีปัญหาเวลารถเคลื่อนตัวหรือเบรค เพราะเป็นเรื่องยากที่เราจะควบคุมนิ้วเราให้มั่นคง ในขณะที่การวางปลายนิ้วลงบนปุ่มแดงเป็นเหมือนการการันตีความแม่นยำ โอกาสที่จะกดผิดเลื่อนพลาดมีน้อยลงไปมาก หรือแม้กระทั่งการวางบนตักหรือนอนเล่นบนเตียง ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ

และใครที่กังวลว่าระหว่างที่ควบคุมด้วย trackpoint แล้วมือเผลอไปโดน Touchpad แล้วจะลั่นรึเปล่า คำตอบคือ  ThinkPad P14s Gen 2 ฉลาดพอที่จะปิดการรับคำสั่งชั่วคราวจาก Touchpad ครับ

การจัดวางปุ่มแป้นพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อการพิมพ์สัมผัส

ส่วนที่ผมซีเรียสมากในการเลือกซื้อแล็ปท็อปอีกจุดคือแป้นพิมพ์ครับ เพราะมันคือส่วนของการป้อนข้อมูลที่ติดต่อกับผู้ใช้งานโดยตรง ลักษณะแป้นพิมพ์รุ่นนี้มีปุ่มที่ลึกพอควร ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการกด โดยมีแรงดีดที่ไม่แข็งมากไม่ต้องออกแรงกดเยอะ



จุดที่น่าสนใจก็คือการวางปุ่ม Fn และ Ctrl ที่ค่ายนี้เลือกจะวาง Fn ไว้ที่ริมสุด แต่ในกรณีที่เราไม่คุ้นชินก็สามารถปรับตั้งค่าสลับ 2 ปุ่มนี้ได้ เช่นกันกับการเลือกค่า Default ของ F1-F12 ว่าจะให้เป็นปุ่ม Function หรือจะให้เป็นปุ่มปรับเสียง, ปรับแสง ฯลฯ



การเว้นระยะปุ่ม F1-F12 มีการแบ่งระยะเหมือนแป้นพิมพ์มาตรฐาน ที่จะเว้นช่องทุกๆ 4 ปุ่ม ทำให้การการพิมพ์สัมผัสสามารถรูดนิ้วหาปุ่มได้ง่าย ในกรณีที่ไม่ได้พิมพ์สัมผัสหรือต้องการมองแป้นก็มีไฟ Backlit ที่ปรับระดับความสว่างได้

แล็ปท็อปที่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว

ในยุคที่การเชื่อมต่ออะไรก็ง่ายไปหมด บางครั้งก็ง่ายจนเกินไป ทำให้เรากังวลว่าอาจจะเผลอไปเปิดไมค์หรือเปิดกล้องโดยไม่ตั้งใจ ซึ่ง ThinkPad P14s Gen 2 จะช่วยให้เราอุ่นใจได้แบบไร้กังวล ด้วยปุ่ม Privacy Shutter เลื่อนปิดกล้อง ที่เห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้เปิดหรือปิดกล้องอยู่ และที่ปุ่ม F4 ก็ใช้ในการควบคุมการเปิดปิดไมค์ได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวให้เราแล้ว ยังใช้แทนการ Mute ไมค์ได้เช่นกัน



ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี

ThinkPad P14s Gen 2 มาพร้อมกับการรับประกัน 1 ปี แต่สามารถซื้อเพิ่มได้สูงสุดเป็น 3 ปี

ความรู้สึกจากการใช้งาน ThinkPad P14s Gen 2

นอกจากข้อมูลในเชิงสเปคแล้วก็มีสิ่งที่อยากบอกเล่าเพิ่มเติม เริ่มตั้งแต่ภาพลักษณ์ของ ThinkPad ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนมาก ซึ่งผมเองเป็นคนที่เลือกใช้สินค้าเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ด้วย แค่ผมหยิบ ThinkPad P14s Gen 2 ไปประชุมกับลูกค้า ถ้าเจอคนที่เป็นแฟน ThinkPad นี่ก็เกิดประเด็นพูดคุย กลายเป็นติดต่องานง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ชอบ ThinkPad ก็จะเป็นบุคลากรด้านไอทีและฝ่ายบริหาร



ถัดมาคือประสบการณ์ด้านการทำงาน ซึ่งตัวผมเองทำงานหลายอย่างแต่แบ่งบทบาทใหญ่ๆ ได้ 3 อย่างคือ Content Creator, Project Manager, Web Developer โดยงานด้าน Content Creator ก็จะเป็นการแต่งภาพและตัดต่อวีดีโอ ส่วนงาน Project Manager ของบริษัทผมจะเน้นที่การใช้ Lark เป็นหลัก รวมไปถึงงานด้าน Excel และ PowerPoint ส่วน Web Developer จะเน้นไปที่การทำ WordPress ซึ่ง ThinkPad P14s Gen 2 ก็ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกการทำงานของผม

ด้านการพกพาก็มีน้ำหนักที่ไม่มากเกินไป จัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามยุคสมัย แต่จุดที่น่าสนใจก็คือพื้นผิววัสดุภายนอกที่ให้ความรู้สึกทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำให้ผมกล้าหยิบกล้าใช้กล้าพกพาแบบไม่ต้องละเมียดมากนัก



และที่โลโก้ ThinkPad บนฝาเครื่องก็มี Breathing Light สีแดงตรงตัว i เพื่อบอกว่าเครื่องยังเปิดอยู่ ทำให้รู้สถานะการทำงานเผื่อลืมปิดเครื่อง เพราะการประชุมสำคัญในเวลาคับขัน การลืมปิดเครื่องอาจทำให้แบตเตอรี่ไม่เพียงพอต่อการนำเสนองานที่ชี้ชะตาหน้าที่การงานเรา ดังนั้นการมี Breathing Light เตือนว่ายังไม่ได้ Shut Down จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมครับ



ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่ผมชื่นชอบคือการนอนทำงาน แม้ว่าผมจะมีโต๊ะปรับระดับกับเก้าอี้ที่ส่งเสริมเรื่องสรีรศาสตร์ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอต่อไลฟ์สไตล์ของผมที่ทำงานตั้งแต่ตื่นจนนอน ดังนั้นผมเลยชอบนอนทำงาน ซึ่ง ThinkPad P14s Gen 2 ตอบโจทย์เรื่องนี้มาก โดยปัจจัยสำคัญมาจากหน้าจอที่กางได้เยอะ ทำให้ปรับองศาได้เหมาะกับการมองจอ รวมถึงปุ่มแดงที่ควบคุมได้แม่นยำกว่า และมีระยะการวางมือที่เหมาะกว่า Touchpad ที่ชิดกับขอบเครื่อง เพราะการนอนเล่นแล็ปท็อป ตัวเครื่องก็จะไหลมาชนกับท้องเรา ถ้าเราควบคุมด้วย Touchpad มือเราก็จะเบียดกับท้องเราครับ ซึ่งการใช้งานด้วยท่าทางนี้จะเห็นความดีงามของปุ่มแดงขึ้นมาทันที


บทสรุปรีวิว ThinkPad P14s Gen 2

ในภาพรวม ThinkPad P14s Gen 2 ก็ยังคงเซ็กซี่ในสายตาคนสายไอที แต่ความเป็นจริงแล้วด้วยสเปคและคุณสมบัติต่างๆ ก็ไม่ได้ตีกรอบว่าต้องเป็นสายอาชีพนี้เท่านั้น เพราะมันครอบคลุมการทำงานและไลฟ์สไตล์ของคนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ และยังสามารถซื้อประกันเพิ่มได้สูงสุดถึง 3 ปีเพิ่มความอุ่นใจได้ครับ

สามารถหาซื้อ ThinkPad P14s Gen 2 ได้ที่ https://www.lenovo.com บน Lenovo Online Store ส่งฟรีทั่วไทย พร้อมผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

ติดต่อสอบถาม โทรฟรีเบอร์ 1800-011-936