อาจจะยาวนะคะ..จะพยายามย่อมากที่สุดค่ะ (ขอผู้ที่มีเวลาอ่านนะคะ)
คบหากับสามีคนนี้มา2ปีแรก(แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีปัญหาเรื่องมือที่สามเลยการเลิกลากันได้1เดือน ซึ่งทราบข่าวว่าเขาก็พาผู้หญิงคนนั้นมาที่ล้านแต่เราทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส แล้วเขากลับมาขอคืนดีและครั้งนี้ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายคุยกันและทางเราคุยกันจนมั่นใจเลยยอมกลับมาคืนดีและทางผู้ใหญ่ให้มีการหมั้นหมายและจดทะเบียนสมรสไว้ค่ะ
ต่อมาคบหากันหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วได้ประมาณ1-2ปี จนช่วงประมาณสิ้นปี64ทางเราจับได้ว่าสามีแอบแชทพูดคุยกับ ผญ.อื่น และจับได้มาเรื่อยๆแต่เราไม่มีหลักฐาน เพราะเขาเปลี่ยนรหัสมือถือ และไม่ให้เราจับมือถือเลยค่ะ เรารับรู้เรื่องนี้มาตลอด เขาแอบคุย บางทีแอบโทรคุยกัน มีครั้งนึงสามีออกจากบ้านไป2คืน3วันไม่มีใครติดต่อได้เลย แล้วก็กลับมา แต่ไม่บอกอะไร มีออกไปร้านอาหารที่มีเด็กมานั่งด้วย กลับเข้าบ้านตี3-4ก็มีค่ะ เราอดทนกับพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด และรับรู้เรื่องผู้หญิงคนอื่นที่เขาแอบคุยอีก แต่แค่ไม่มีหลักฐาน ช่วง1-2เดือนแรกร้องไห้ทุกวัน แล้วเราก็ค่อยๆทำใจ ปล่อยผ่านบ้าง แต่ก็ทุกข์ใจมาตลอด ทำอะไรไม่ถูกใจ พูดไม่ดี ไม่สนใจ กินเที่ยว แม้กระทั่งเขาบวชยังมีผู้หญิงโทรมาที่เบอร์มือถือเขา ซึ่งตอนแรกผู้หญิงคงคิดว่าสามีเราจะรับ แต่เป็นเรา ผู้หญิงคนนั้นก็รีบวาง แต่โทรมาอีกบอกโทรมาถามเรื่องงาน(ตอน3-4ทุ่ม ซึ่งแม่สามีก็อยู่กับเรา) เราก็ทุกข์ใจแล้วอดทนอยู่แบบนั้นมา จนปลายเดือนพฤษภาคม65ที่ผ่านมา เราอดทนจนถึงขั้นสุด เราเลือกที่จะกลับบ้านตัวเอง ซึ่งปกติถ้าครั้งไหนเราอดทนอยู่จุดนั้นไม่ได้เราก็จะกลับบ้าน แล้วเขาก็จะมารับกลับตลอด และรอบนี้เราเองคิดว่าขอไปพักใจก่อนซักพักเขาอาจจะคิดได้บ้าง และอีกอย่างที่เราเลือกกลับบ้านเพราะเราตั้งใจจะมาบวชแก้บนเบญจเพส(ซึ่งเขาเองก็เป็นคนไปส่งเราบน เขารับรู้ว่าเราต้องกลับมาแก้บน) พอเรากลับมาบ้าน เขาทักมาแค่ประโยคเดียวในแชทว่า ยังไง ซึ่ง3วันแรกเราเลือกจะอยู่สงบสติเพราะต้องบวชเลยไม่ได้ติดต่ออะไรไป จน7วันผ่านไป เราบวชอะไรเสร็จ ก็เข้าดูเฟสบุ๊ค เขามีการกินเที่ยวร้านเหล้า ร้านอาหาร และไม่ใจสนใจ หรือแคร์อะไรเราเลย จนเพื่อนก็ส่งรูปเขานั่งกับผู้หญิงมา เราเลยโทรไปถามเขาบอกแค่ว่าจ้างมาเอ็นเตอร์เทนไม่เชื่อก็แล้วแต่ เราก็เลยถามว่าทำอะไรขนาดนี้ อยากได้อิสระเหรอ อยากหย่าเหรอ ถ้าอยากได้เราจะคืนอิสระให้ หย่าให้ เขาก็ตอบแค่ " อ่าว..เลือกเองนะ " แล้วเขาก็ไม่อะไรเหมือนเดิม เราก็ต่างคนต่างเงียบไปเลย จนวันที่10มิถุนาเขาทักมา บอกอยู่คนเดียวได้แล้ว เขาตัดใจตั้งแต่วันที่เราออกมาแล้ว บอกให้เราหยุดเถอะ แล้วเขาก็ลบรูป สถานะแต่งงาน และลบเพื่อนเราออกจากเฟสบุ๊ค ซึ่งเราเองก็บอกเขาไปได้แค่ว่า "เราไม่จบแบบนี้หรอก มันไม่ได้จบง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว" แล้วต่างคนต่างเงียบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราเองก็รู้ค่ะว่าเขามีคนอื่นอยู่ เพราะมีญาติเขา หลานเขา ที่ยังติดต่อกับเราบอกกับเราว่าเห็นสามีเราคุยกับผู้หญิงอื่น แต่รอบนี้ยังไม่พามาที่บ้าน
ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาทักมาถามว่า "เรื่องของนี่ยังไง" เหมือนต้องการให้เราไปเก็บของออก เพื่อจะพาคนอื่นเข้ามาเหมือนรอบที่แล้ว แต่เราก็ถามกลับไปแค่ว่า "ต้องการให้ไปขนของออกเหรอ" เขาตอบกลับมาว่า "แล้วเรื่องของเรานี่ยังไง" เราก็ตอบไปแค่ว่า "เราบอกไปแล้ว"
ซึ่งเราบอกกับเขาไปในวันที่เขาทักมาขอจบว่า เราไม่ได้อยากเลิก อยากจบ แล้วมันก็ยังไม่จบ และจะไม่จบง่ายๆแบบนี้) แล้วเขาก็ตอบมาว่า"บอกว่า.." ซึ่งเราก็ไม่ได้อ่านหรือตอบกลับไป เขาก็เงียบจนถึงทุกวันนี้
เราอยากรู้ค่ะว่ากรณีแบบนี้เราทำอะไรได้บ้างคะ
แล้วเราเป็นฝ่ายผิดมั้ยที่อดทนไม่ได้แล้วกลับมาบ้านตัวเอง ซึ่งไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ เราคิดว่าเขาจะคิดได้บ้าง คิดว่าถ้าเขาได้อยู่กับตัวเองจะคิดได้บ้างค่ะ แต่กลับกลายเป็นมาขอจบแบบนี้ค่ะ เราไปไม่เป็นเลย ของเราก็ยังยุที่บ้านเขานะคะ
การหย่าร้าง
คบหากับสามีคนนี้มา2ปีแรก(แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีปัญหาเรื่องมือที่สามเลยการเลิกลากันได้1เดือน ซึ่งทราบข่าวว่าเขาก็พาผู้หญิงคนนั้นมาที่ล้านแต่เราทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส แล้วเขากลับมาขอคืนดีและครั้งนี้ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายคุยกันและทางเราคุยกันจนมั่นใจเลยยอมกลับมาคืนดีและทางผู้ใหญ่ให้มีการหมั้นหมายและจดทะเบียนสมรสไว้ค่ะ
ต่อมาคบหากันหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วได้ประมาณ1-2ปี จนช่วงประมาณสิ้นปี64ทางเราจับได้ว่าสามีแอบแชทพูดคุยกับ ผญ.อื่น และจับได้มาเรื่อยๆแต่เราไม่มีหลักฐาน เพราะเขาเปลี่ยนรหัสมือถือ และไม่ให้เราจับมือถือเลยค่ะ เรารับรู้เรื่องนี้มาตลอด เขาแอบคุย บางทีแอบโทรคุยกัน มีครั้งนึงสามีออกจากบ้านไป2คืน3วันไม่มีใครติดต่อได้เลย แล้วก็กลับมา แต่ไม่บอกอะไร มีออกไปร้านอาหารที่มีเด็กมานั่งด้วย กลับเข้าบ้านตี3-4ก็มีค่ะ เราอดทนกับพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด และรับรู้เรื่องผู้หญิงคนอื่นที่เขาแอบคุยอีก แต่แค่ไม่มีหลักฐาน ช่วง1-2เดือนแรกร้องไห้ทุกวัน แล้วเราก็ค่อยๆทำใจ ปล่อยผ่านบ้าง แต่ก็ทุกข์ใจมาตลอด ทำอะไรไม่ถูกใจ พูดไม่ดี ไม่สนใจ กินเที่ยว แม้กระทั่งเขาบวชยังมีผู้หญิงโทรมาที่เบอร์มือถือเขา ซึ่งตอนแรกผู้หญิงคงคิดว่าสามีเราจะรับ แต่เป็นเรา ผู้หญิงคนนั้นก็รีบวาง แต่โทรมาอีกบอกโทรมาถามเรื่องงาน(ตอน3-4ทุ่ม ซึ่งแม่สามีก็อยู่กับเรา) เราก็ทุกข์ใจแล้วอดทนอยู่แบบนั้นมา จนปลายเดือนพฤษภาคม65ที่ผ่านมา เราอดทนจนถึงขั้นสุด เราเลือกที่จะกลับบ้านตัวเอง ซึ่งปกติถ้าครั้งไหนเราอดทนอยู่จุดนั้นไม่ได้เราก็จะกลับบ้าน แล้วเขาก็จะมารับกลับตลอด และรอบนี้เราเองคิดว่าขอไปพักใจก่อนซักพักเขาอาจจะคิดได้บ้าง และอีกอย่างที่เราเลือกกลับบ้านเพราะเราตั้งใจจะมาบวชแก้บนเบญจเพส(ซึ่งเขาเองก็เป็นคนไปส่งเราบน เขารับรู้ว่าเราต้องกลับมาแก้บน) พอเรากลับมาบ้าน เขาทักมาแค่ประโยคเดียวในแชทว่า ยังไง ซึ่ง3วันแรกเราเลือกจะอยู่สงบสติเพราะต้องบวชเลยไม่ได้ติดต่ออะไรไป จน7วันผ่านไป เราบวชอะไรเสร็จ ก็เข้าดูเฟสบุ๊ค เขามีการกินเที่ยวร้านเหล้า ร้านอาหาร และไม่ใจสนใจ หรือแคร์อะไรเราเลย จนเพื่อนก็ส่งรูปเขานั่งกับผู้หญิงมา เราเลยโทรไปถามเขาบอกแค่ว่าจ้างมาเอ็นเตอร์เทนไม่เชื่อก็แล้วแต่ เราก็เลยถามว่าทำอะไรขนาดนี้ อยากได้อิสระเหรอ อยากหย่าเหรอ ถ้าอยากได้เราจะคืนอิสระให้ หย่าให้ เขาก็ตอบแค่ " อ่าว..เลือกเองนะ " แล้วเขาก็ไม่อะไรเหมือนเดิม เราก็ต่างคนต่างเงียบไปเลย จนวันที่10มิถุนาเขาทักมา บอกอยู่คนเดียวได้แล้ว เขาตัดใจตั้งแต่วันที่เราออกมาแล้ว บอกให้เราหยุดเถอะ แล้วเขาก็ลบรูป สถานะแต่งงาน และลบเพื่อนเราออกจากเฟสบุ๊ค ซึ่งเราเองก็บอกเขาไปได้แค่ว่า "เราไม่จบแบบนี้หรอก มันไม่ได้จบง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว" แล้วต่างคนต่างเงียบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราเองก็รู้ค่ะว่าเขามีคนอื่นอยู่ เพราะมีญาติเขา หลานเขา ที่ยังติดต่อกับเราบอกกับเราว่าเห็นสามีเราคุยกับผู้หญิงอื่น แต่รอบนี้ยังไม่พามาที่บ้าน
ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาทักมาถามว่า "เรื่องของนี่ยังไง" เหมือนต้องการให้เราไปเก็บของออก เพื่อจะพาคนอื่นเข้ามาเหมือนรอบที่แล้ว แต่เราก็ถามกลับไปแค่ว่า "ต้องการให้ไปขนของออกเหรอ" เขาตอบกลับมาว่า "แล้วเรื่องของเรานี่ยังไง" เราก็ตอบไปแค่ว่า "เราบอกไปแล้ว"ซึ่งเราบอกกับเขาไปในวันที่เขาทักมาขอจบว่า เราไม่ได้อยากเลิก อยากจบ แล้วมันก็ยังไม่จบ และจะไม่จบง่ายๆแบบนี้) แล้วเขาก็ตอบมาว่า"บอกว่า.." ซึ่งเราก็ไม่ได้อ่านหรือตอบกลับไป เขาก็เงียบจนถึงทุกวันนี้
เราอยากรู้ค่ะว่ากรณีแบบนี้เราทำอะไรได้บ้างคะ
แล้วเราเป็นฝ่ายผิดมั้ยที่อดทนไม่ได้แล้วกลับมาบ้านตัวเอง ซึ่งไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ เราคิดว่าเขาจะคิดได้บ้าง คิดว่าถ้าเขาได้อยู่กับตัวเองจะคิดได้บ้างค่ะ แต่กลับกลายเป็นมาขอจบแบบนี้ค่ะ เราไปไม่เป็นเลย ของเราก็ยังยุที่บ้านเขานะคะ