A Better Tomorrow: โหด เลว ดี

สวัสดีครับทุกท่าน ! เชื่อว่าหลายท่าน อาจจะเคยได้ยินชื่อของภาพยนตร์ฮ่องกงยุคเก่า เรื่อง A Better Tomorrow (1986) หรือชื่อไทยว่า "โหด เลว ดี" ล่าสุด ผมได้พบหนังใน Netflix โดยบังเอิญ...

วันนี้ผมจึงอยากจะมาแนะนำภาพยนตร์ฮ่องกงคลาสสิคเรื่องนี้ ความยอดเยี่ยมของหนังยังเป็นต้นฉบับให้กับหนังยุคหลังหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงมีอิทธิพลต่อภาพยนตร์ของผู้กำกับใหญ่อย่าง Quentin Tarantino, Robert Rodriguez, และ พี่น้อง Wachowski (ผู้สร้าง The Matrix) อีกด้วย

เรื่องย่อ
A Better Tomorrow (1986) ได้รับการกำกับโดย จอห์น วู โหด เลว ดี เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงที่สร้างชื่อให้กับวู พร้อมกับทำให้แกผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในผู้กำกับแห่งยุคของฮ่องกงในเวลาต่อมา

เนื้อเรื่องของ A Better Tomorrow กล่าวถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ตัวละคร ได้แก่

- อาเห่า (ตี๋ หลุง) ลูกพี่ใหญ่ของแก๊งค์มาเฟียที่กำลังจะวางมือจากวงการ
- อาเฉีย (เลสลี่ จาง) น้องชายของอาเห่าที่สอบติดตำรวจ และมุ่งมั่นในการกำจัดแก๊งค์อาชญากรรม
- เสี่ยวหม่า (โจว เหวินฟะ) ลูกน้องคนสนิทของอาเห่าที่มีอารมณ์ร้อนแรง แต่เคารพในตัวพี่เห่าอย่างสุดหัวใจ

วันดีคืนดี ขณะที่อาเห่าปฏิบัติการครั้งสุดท้ายก่อนวางมือ... อาเห่าพลาดท่าถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจ ส่งผลให้ตัวเองติดคุก ในขณะที่เสี่ยวหม่า ตามไปล้างแค้นให้อาเห่า และถูกยิงจนขาเป๋ ส่วนอาเฉียต้องสูญเสียพ่อจากการแก้แค้นกันไปมาในวงการมาเฟีย ส่งผลให้อาเฉียแค้นในตัวอาเห่าเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งสามคนต่างมีปฏิสัมพันธ์อันซับซ้อน และท้ายที่สุด ความสัมพันธ์ของทั้งสามต่างมาบรรจบกัน เกิดเป็นมิตรภาพและความแค้นที่ยากจะลืมเลือน...

ความรู้สึกหลังชม
- ความประทับใจแรกที่น่าพูดถึง คือ "การผงาดของขึ้นของหนังมาเฟียฮ่องกงสไตล์จอห์น วู" โหด เลว ดี เล่าถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนของคนในรูปแบบต่าง ๆ คุณธรรมน้ำมิตร มิตรภาพ ความแค้น การทรยศหักหลัง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่เด่นชัดของหนังมาเฟียฮ่องกง แถมจะว่าไป ก็มีกลิ่นหนังกำลังภายใน โดยเฉพาะเล่นถึงประเด็น "จิตใจคน" อันยากหยั่งถึง

- จุดถัดมาที่ประทับใจ คือ  "ความสัมพันธ์ของคนอันผิดที่ทาง" ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องดูจะผิดที่ผิดทางไปกันหมด จนทำให้เกิดความขัดแย้งที่ต้องหักเหลี่ยม - เฉือนกันไปมา... หนังเล่นจุดนี้ได้น่าสนใจ และเมื่อถูกนำไปผสมฉากแอ็คชั่นดุเดือด ก็ทำให้ลายเซ็นต์ของจอห์น วู ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง (พานึกถึง Face/Off ผลงานดังอีกเรื่องที่มีลายเซ็นต์สไตล์เดียวกัน)
- มุมกล้องกับการ Slow-motion เป็นอีกส่วนที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับหนังได้ดี ที่สำคัญยังรีดความเท่ของนักแสดงได้ออกมาแบบเต็มประสิทธิภาพ อย่างซีนที่ติดตาที่สุด ซีนเสี่ยวหม่า (โจวเหวินฟะ) จุดบุหรี่ และ ซีนเข้าไปแก้แค้นให้ลูกพี่... บรรยากาศความเท่แบบดุเดือดเลือดพล่าน ทำให้ได้ใจผู้ชมไปเต็ม ๆ แถมเห็นว่าแว่นดำที่โจว เหวินฟะใส่ยังขายดีเทน้ำเทท่า จน Alain Delon ต้องเขียนจดหมายมาขอบคุณ 🤣
- ส่วนฉากแอ็คชั่นในเรื่อง แม้ว่ามีไม่มาก แต่ทุกซีนดุเดือด ดุดัน... บางซีน เควนตินคงนำไปใช้เป็น Ref ในหนังแกด้วย อย่างช็อตยิงกัน หรือช็อตยิงแล้วเลือดทะลักเป็นลูกใหญ่ รู้สึกว่าสไตล์ใกล้เคียงกันพอสมควร

- ในเรื่องนักแสดง ขอชื่นชมนักแสดงหลักทั้งสามคน และไม่มีจุดติใด ๆ ไม่ว่าจะ ตี๋ หลุง (อาเห่า), เลสลี่ จาง (อาเฉีย), โจว เหวินฟะ (เสี่ยวหม่า) ทั้งสามท่านแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม น่าจดจำ ส่วนนักแสดงอีกท่านที่เตะตาเป็นพิเศษก็ Waise Lee ในบทอาชาง บทของแกพัฒนาจากคาแรคเตอร์หนุ่มน้อย มาเป็นลูกพี่ใหญ่ได้เหี้ยมดี 
- จุดที่เป็นข้อเสีย ก็อาจจะเป็นสไตล์การดำเนินเรื่อง / การตัดต่อที่ยังเป็นแบบหนังยุคเก่า (หนังสร้างในปี 1984) เช่น การลำดับภาพ การตัดไปตัดมาแบบตรง ๆ ผสมกับใส่เพลง... หลายท่านอาจไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม ก็มีความคลาสสิค และคงหาแบบนี้ไม่ได้แล้วในปัจจุบัน

- สิ่งสุดท้ายที่อยากพูดถึง คือ "บรรยากาศความคลาสสิคของหนังฮ่องกง" โหด เลว ดี เป็นเสมือนบันทึกความทรงจำของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงอีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะชื่อเสียง ความโด่งดัง และคุณค่าเชิงภาพยนตร์... ทั้งหมดบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงได้ดีเยี่ยม แม้แต่บรรยากาศเมือง และผู้คนภายในเรื่อง... ดูไป ก็ย้อนยุค น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง
สรุป
A Better Tomorrow (1986) - สมกับเป็นหนังอมตะที่น่ายกย่อง... แม้ว่าจะดูในยุคนี้ แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นและคุณภาพของเรื่อง หนังมีหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง นักแสดง ฉากแอ็คชั่น โดยรวมแล้ว ทุกอย่างผสมกันอย่างลงตัว

ดังนั้นหากใครสนใจ ก็แนะนำนะครับ... เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ได้ชมกัน 👍

ป.ล. ผมยังไม่ได้ชมภาค 2-3 ไม่รู้ว่าดีเท่าภาค 1 หรือเปล่า... หากใครเคยชมแล้ว สามารถแนะนำได้นะครับ // ส่วนเวอร์ชั่นรีบูทปี 2018 อันนี้เห็นคะแนน IMDB ต่ำมาก ก็เลยไม่ได้ชมเลยครับ 😂

ป.ล.2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม