เรื่องของเรามีอยู่ว่า แรกเริ่มเรารู้จักกับพี่บี(นามสมมุติ)แบบผิวเผินจากพี่ๆในกลุ่มที่สนิทกันในตอนนั้นเรากับพี่เค้าก็ต่างมีแฟนอยู่แล้วเลยไม่ได้อะไรกันแค่ได้รู้จักว่าชื่ออะไรเป็นใครอะไรยังไงแค่นั้นแล้วก็ต่างคนต่างก็แยกย้ายหายจากกันไป
จนเวลาผ่านไป 3 เดือนกว่าๆ เรากับพี่บีก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เรากับพี่บีต่างก็โสดกันทั้งคู่เลยทำให้เราคุยกันได้มากกว่าเดิมจากแค่คนรู้จักกันเพียงแค่ชื่อก็กลายเป็นว่าได้รู้จักอะไรหลายๆอย่างจากเค้าและได้คุยกันมากขึ้นจนเราเริ่มหวั่นไหวกับพี่บีจะเรียกว่าชอบก็ได้ ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะเก็บความรู้สึกนั้นไว้คนเดียวแล้วทำตัวให้เป็นปกติทุกอย่างแต่ความชอบมันก็ดันมีเพิ่มมากขึ้นจนเป็นเราเองที่ต้องไปปรึกษากับพี่ๆว่าเราชอบพี่บีควรทำยังไงดีเราก็ทำตามจนได้คุยกับพี่บีมากขึ้นกว่าเดิมจากวันละครั้งก็กลายเป็นทุกวันและแน่นอนว่าความรู้สึกของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขออธิบายก่อนว่าพี่บีนิสัยเป็นยังไง ต้องบอกก่อนว่าพี่บีเนี่ยเป็นคนไทยแต่ไปเรียนโทต่อที่ญี่ปุ่นและทำงานเสริมด้วย ตัวพี่บีเป็นคนค่อนข้างติสและมีความคิดไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไหร่แถมไม่เข้าใจเรื่องผู้หญิงเลยว่าถ้าผู้หญิงตอบแบบนี้หมายความว่ายังไง เป็นคนพูดตรงๆ ใช้ความคิดตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยสนใจใคร เอาง่ายๆคือเอาตัวเองเป็นที่ตั้งก็ว่าได้แต่กับเพื่อนฝูงครอบครัวก็เต็มร้อยแต่กับเรื่องความรักเหมือนไม่อินเท่าไหร่
หลังจากที่เรากับพี่บีได้คุยกันมากขึ้นมุกหยอดจีบอะไรหวานๆก็ตามมาเรื่อยๆจนเราเริ่มแปลกใจว่าทำไมพี่บีถึงมาหยอดมุกจีบใส่เราจนพี่บีพูดออกมาเองว่า "ชอบเรา" พี่บีบอกว่าเรามีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันและเป็นคนน่ารัก เราก็เลยสารภาพความรู้สึกตัวเองออกไปว่าแอบชอบมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่ได้อยากรีบร้อนที่จะคบกันเพราะตอนนี้เรายังไม่พร้อมตัวพี่บีเองก็ยังไม่พร้อม ด้วยเรื่องของระยะทางและเวลา เราก็เข้าใจเลยเลือกที่จะอยู่กันแบบเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนทำทุกอย่างเหมือนแฟนกันแต่ไม่ใช่แฟน ในช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงที่มีความสุขมากๆเราและพี่บีต่างก็คิดว่าถ้าความสัมพันธ์มันไปได้มากกว่านี้ก็คงดีตัวพี่บีเองก็พูดออกมาว่าเออต่อจากนี้เราจะเป็นอะไรกันก็ช่างมัน
จนกระทั่งเราทะเลาะกับพี่บีเรียกได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายของความสุขครั้งนี้เลยก็ว่าได้ ตอนแรกก็เคลียกันไปแล้วแต่ก็เหมือนกับว่าตัวพี่บีไม่โอเคกับเรื่องครั้งนี้มากเลยตีตัวห่างเราไม่ตอบแชท ไม่คุยด้วย เป็นอาทิตย์เลยค่ะ ตอนนั้นเราก็เครียดว่ามันเป็นเพราะอะไรจนได้มารู้จากปากพี่ๆว่าพี่บี "คิดกับเราแค่คนที่ชอบกันไม่ได้อยากจะได้มาเป็นแฟนกัน แล้วในตอนที่ทะเลาะกันตอนนั้นเราไม่ได้เป็นอะไรกันเค้าต้องตามง้อหรอ" ด้วยความที่ชอบอ่ะไม่อยากยอมแพ้ก็เลยยอมถอยและเว้นระยะห่างให้กับพี่บี จนเราได้มีโอกาสคุยกันอีกครั้งเราเลยตัดสินใจถามความรู้สึกเค้าไปตรงๆเลยว่ายังชอบกันอยู่มั้ย พี่บีก็ตอบว่า "ก็ยังชอบอยู่ เธอเป็นคนน่ารัก นิสัยดีเป็นคนเก่ง แต่ก็ไม่ได้อยากกลับไปคุยกันแบบเมื่อก่อนแล้วเพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ"
ตอนนั้นเรากับพี่บีคุยเช้าทุกวันมันเลยทำให้พี่บีมีเวลาพักผ่อนน้อย แต่ที่คุยกันยันเช้าตัวพี่บีเองก็ไม่ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ต้องการ) ในตอนนั้นเราก็เข้าใจนะว่าเวลาเราต่างกันทางเราตี2 แต่ทางเค้าจะเช้าแล้วและต้องไปทำงานต่อเลิกงานกลับมาก็ไปเรียนต่อที่ผ่านมาเราก็คิดมาตลอดแต่ด้วความโลภเลยมองข้ามเรื่องนั้นไป ในตอนนั้นเราขอแค่ใจยังตรงกันอยู่ก็พอไม่ขออะไรมากเลยเรากับพี่บีก็คุยกันมาเรื่อยๆแต่ไม่ได้บ่อยมาก
จนเวลาผ่านไปกระทั่งถึงวันเกิดพี่บีระหว่างนั้นเราก็ได้คุยกันแต่ไม่ได้คุยกันมากอารมณ์แบบว่างก็ตอบแบบนั้นเราก็ไม่ได้อะไรก็ทำของขวัญวันเกิดแบบที่ว่าเราคิดและทำขึ้นเองแล้วส่งไปให้พี่บีที่ญี่ปุ่น อยากเซอร์ไพร์แหละเลยนัดพี่บีมาก่อนถึงวันเกิด 1 วัน (เราคอลกันในกลุ่มนะคะ)ตอน 3 ทุ่มไทย = 5 ทุ่มของญี่ปุ่น เราก็นัดกับพี่ๆไว้อย่างดีๆ เวลา 3 ทุ่มไทยพี่ๆก็มารวมตัวกันจน 3ทุ่มครึ่งพี่บีก็ยังไม่มาพี่ๆเลยขอแยกย้ายไปนอน ณ ตอนนั้นเราก็ใจเสียแล้วแผนที่วางไว้พังหมดเลยก็แอบนอยด์นิดๆเพราะยากเป็นคนแรกที่อวยพรวันเกิดให้เค้ามีความสุขตลอดปีแต่มันไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้เราก็เลยนั่งคุยกับพี่ๆที่ยังอยู่จนกระทั่งเวลาเลยมาถึง 4 ทุ่มกว่า(ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆของญี่ปุ่น) พี่บีก็เข้ามาในตอนนั้นเราตกใจและดีใจมากที่พี่บีมา พี่บีก็บอกว่าเพิ่งกลับถึงบ้านไปม.มาด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยมากๆแต่เราก็อ่ะ มาแล้วก็เริ่มเลยละกัน หลังจากอวยพรแกะของขวัญกันเสร็จวันนั้นพี่บีก็อยู๋คุยกับเราจนเกือบเช้า มันทำให้ใจเราฟูมากคิดว่าหลังจากนี้มันคงจะดีขึ้นรึป่าวไม่ต้องถึงขั้นเป็นเหมือนก่อนหน้านั้นแต่แค่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว
หลังจากวันเกิดพี่บีเรากับพี่บีมก็ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะพี่บีไม่ว่างต้องทำงานส่งม.บางทีกลับบ้านตี2 ตี3 ก็มี พอว่างถึงจะได้คุยกันแต่ในความรู้สึกของเรา เราคิดว่าพี่บีเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปยังไงไม่รู้แต่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นเราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกปติแหละ จนวันนี้นึกคิดอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆเราก็ถามพี่บีไปว่า "ยังชอบกันอยู่มั้ย" และคำตอบที่ได้กลับมามันทำให้เราไปต่อไม่ถูกเลย พี่บีตอบว่า "เค้าเฉยๆกับเธอแล้วอ่ะ จะบอกว่าไม่ได้ชอบแล้วก็ได้" ในตอนนั้นเราก็สตั๊นไปเลยแต่ก็ยังแสร้งทำเป็นว่า อ๋อ ไม่เป็นไร เค้ายังชอบเธออยู่นะ พี่บีก็บอกว่า เดี๋ยวเธอก็ลืมเค้า แล้วพี่บีก็เงียบหายไป
ในตอนนี้ความรู้สึกมันตีกันไปหมดเราควรจะพอแค่นี้หรือจะสู้ต่อไปดีแล้วมันก็จะมีคำถามตามมาว่าสู้ไปเพื่ออะไรละในเมื่อเค้าไม่ได้ชอบเราแล้ว เราชอบพี่บีจริงๆและชอบมากๆชอบแบบชนิดที่ว่าเรามองข้ามข้อเสียของเค้าไป ต่อให้เค้ามีข้อเสียมากแค่ไหนเราก็หาอะไรต่างๆนานามาหักล้างมันได้ ถ้าเป็นแฟนคนก่อนๆเวลามีเรื่องอะไรเราก็พร้อมปะทะตลอดแต่กับพี่บีเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลยเรียกได้ว่าเรายอมให้เค้าทุกอย่างเลยก็ว่าได้
เราไม่อยากเลิกชอบเค้าและก็ยังอยากจะเป็นคนที่ได้ยืนข้างๆเค้าอยู่ มันพอจะเป็นไปได้มั้ยมันจะมีสักวันรึป่าว
โดนปฏิเสธ ตัดใจก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ไม่ได้ ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ขอแชร์หน่อยค่ะ
จนเวลาผ่านไป 3 เดือนกว่าๆ เรากับพี่บีก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เรากับพี่บีต่างก็โสดกันทั้งคู่เลยทำให้เราคุยกันได้มากกว่าเดิมจากแค่คนรู้จักกันเพียงแค่ชื่อก็กลายเป็นว่าได้รู้จักอะไรหลายๆอย่างจากเค้าและได้คุยกันมากขึ้นจนเราเริ่มหวั่นไหวกับพี่บีจะเรียกว่าชอบก็ได้ ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะเก็บความรู้สึกนั้นไว้คนเดียวแล้วทำตัวให้เป็นปกติทุกอย่างแต่ความชอบมันก็ดันมีเพิ่มมากขึ้นจนเป็นเราเองที่ต้องไปปรึกษากับพี่ๆว่าเราชอบพี่บีควรทำยังไงดีเราก็ทำตามจนได้คุยกับพี่บีมากขึ้นกว่าเดิมจากวันละครั้งก็กลายเป็นทุกวันและแน่นอนว่าความรู้สึกของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขออธิบายก่อนว่าพี่บีนิสัยเป็นยังไง ต้องบอกก่อนว่าพี่บีเนี่ยเป็นคนไทยแต่ไปเรียนโทต่อที่ญี่ปุ่นและทำงานเสริมด้วย ตัวพี่บีเป็นคนค่อนข้างติสและมีความคิดไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไหร่แถมไม่เข้าใจเรื่องผู้หญิงเลยว่าถ้าผู้หญิงตอบแบบนี้หมายความว่ายังไง เป็นคนพูดตรงๆ ใช้ความคิดตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยสนใจใคร เอาง่ายๆคือเอาตัวเองเป็นที่ตั้งก็ว่าได้แต่กับเพื่อนฝูงครอบครัวก็เต็มร้อยแต่กับเรื่องความรักเหมือนไม่อินเท่าไหร่
หลังจากที่เรากับพี่บีได้คุยกันมากขึ้นมุกหยอดจีบอะไรหวานๆก็ตามมาเรื่อยๆจนเราเริ่มแปลกใจว่าทำไมพี่บีถึงมาหยอดมุกจีบใส่เราจนพี่บีพูดออกมาเองว่า "ชอบเรา" พี่บีบอกว่าเรามีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันและเป็นคนน่ารัก เราก็เลยสารภาพความรู้สึกตัวเองออกไปว่าแอบชอบมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่ได้อยากรีบร้อนที่จะคบกันเพราะตอนนี้เรายังไม่พร้อมตัวพี่บีเองก็ยังไม่พร้อม ด้วยเรื่องของระยะทางและเวลา เราก็เข้าใจเลยเลือกที่จะอยู่กันแบบเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนทำทุกอย่างเหมือนแฟนกันแต่ไม่ใช่แฟน ในช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงที่มีความสุขมากๆเราและพี่บีต่างก็คิดว่าถ้าความสัมพันธ์มันไปได้มากกว่านี้ก็คงดีตัวพี่บีเองก็พูดออกมาว่าเออต่อจากนี้เราจะเป็นอะไรกันก็ช่างมัน
จนกระทั่งเราทะเลาะกับพี่บีเรียกได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายของความสุขครั้งนี้เลยก็ว่าได้ ตอนแรกก็เคลียกันไปแล้วแต่ก็เหมือนกับว่าตัวพี่บีไม่โอเคกับเรื่องครั้งนี้มากเลยตีตัวห่างเราไม่ตอบแชท ไม่คุยด้วย เป็นอาทิตย์เลยค่ะ ตอนนั้นเราก็เครียดว่ามันเป็นเพราะอะไรจนได้มารู้จากปากพี่ๆว่าพี่บี "คิดกับเราแค่คนที่ชอบกันไม่ได้อยากจะได้มาเป็นแฟนกัน แล้วในตอนที่ทะเลาะกันตอนนั้นเราไม่ได้เป็นอะไรกันเค้าต้องตามง้อหรอ" ด้วยความที่ชอบอ่ะไม่อยากยอมแพ้ก็เลยยอมถอยและเว้นระยะห่างให้กับพี่บี จนเราได้มีโอกาสคุยกันอีกครั้งเราเลยตัดสินใจถามความรู้สึกเค้าไปตรงๆเลยว่ายังชอบกันอยู่มั้ย พี่บีก็ตอบว่า "ก็ยังชอบอยู่ เธอเป็นคนน่ารัก นิสัยดีเป็นคนเก่ง แต่ก็ไม่ได้อยากกลับไปคุยกันแบบเมื่อก่อนแล้วเพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ"ตอนนั้นเรากับพี่บีคุยเช้าทุกวันมันเลยทำให้พี่บีมีเวลาพักผ่อนน้อย แต่ที่คุยกันยันเช้าตัวพี่บีเองก็ไม่ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ต้องการ) ในตอนนั้นเราก็เข้าใจนะว่าเวลาเราต่างกันทางเราตี2 แต่ทางเค้าจะเช้าแล้วและต้องไปทำงานต่อเลิกงานกลับมาก็ไปเรียนต่อที่ผ่านมาเราก็คิดมาตลอดแต่ด้วความโลภเลยมองข้ามเรื่องนั้นไป ในตอนนั้นเราขอแค่ใจยังตรงกันอยู่ก็พอไม่ขออะไรมากเลยเรากับพี่บีก็คุยกันมาเรื่อยๆแต่ไม่ได้บ่อยมาก
จนเวลาผ่านไปกระทั่งถึงวันเกิดพี่บีระหว่างนั้นเราก็ได้คุยกันแต่ไม่ได้คุยกันมากอารมณ์แบบว่างก็ตอบแบบนั้นเราก็ไม่ได้อะไรก็ทำของขวัญวันเกิดแบบที่ว่าเราคิดและทำขึ้นเองแล้วส่งไปให้พี่บีที่ญี่ปุ่น อยากเซอร์ไพร์แหละเลยนัดพี่บีมาก่อนถึงวันเกิด 1 วัน (เราคอลกันในกลุ่มนะคะ)ตอน 3 ทุ่มไทย = 5 ทุ่มของญี่ปุ่น เราก็นัดกับพี่ๆไว้อย่างดีๆ เวลา 3 ทุ่มไทยพี่ๆก็มารวมตัวกันจน 3ทุ่มครึ่งพี่บีก็ยังไม่มาพี่ๆเลยขอแยกย้ายไปนอน ณ ตอนนั้นเราก็ใจเสียแล้วแผนที่วางไว้พังหมดเลยก็แอบนอยด์นิดๆเพราะยากเป็นคนแรกที่อวยพรวันเกิดให้เค้ามีความสุขตลอดปีแต่มันไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้เราก็เลยนั่งคุยกับพี่ๆที่ยังอยู่จนกระทั่งเวลาเลยมาถึง 4 ทุ่มกว่า(ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆของญี่ปุ่น) พี่บีก็เข้ามาในตอนนั้นเราตกใจและดีใจมากที่พี่บีมา พี่บีก็บอกว่าเพิ่งกลับถึงบ้านไปม.มาด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยมากๆแต่เราก็อ่ะ มาแล้วก็เริ่มเลยละกัน หลังจากอวยพรแกะของขวัญกันเสร็จวันนั้นพี่บีก็อยู๋คุยกับเราจนเกือบเช้า มันทำให้ใจเราฟูมากคิดว่าหลังจากนี้มันคงจะดีขึ้นรึป่าวไม่ต้องถึงขั้นเป็นเหมือนก่อนหน้านั้นแต่แค่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว
หลังจากวันเกิดพี่บีเรากับพี่บีมก็ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะพี่บีไม่ว่างต้องทำงานส่งม.บางทีกลับบ้านตี2 ตี3 ก็มี พอว่างถึงจะได้คุยกันแต่ในความรู้สึกของเรา เราคิดว่าพี่บีเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปยังไงไม่รู้แต่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นเราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกปติแหละ จนวันนี้นึกคิดอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆเราก็ถามพี่บีไปว่า "ยังชอบกันอยู่มั้ย" และคำตอบที่ได้กลับมามันทำให้เราไปต่อไม่ถูกเลย พี่บีตอบว่า "เค้าเฉยๆกับเธอแล้วอ่ะ จะบอกว่าไม่ได้ชอบแล้วก็ได้" ในตอนนั้นเราก็สตั๊นไปเลยแต่ก็ยังแสร้งทำเป็นว่า อ๋อ ไม่เป็นไร เค้ายังชอบเธออยู่นะ พี่บีก็บอกว่า เดี๋ยวเธอก็ลืมเค้า แล้วพี่บีก็เงียบหายไป
ในตอนนี้ความรู้สึกมันตีกันไปหมดเราควรจะพอแค่นี้หรือจะสู้ต่อไปดีแล้วมันก็จะมีคำถามตามมาว่าสู้ไปเพื่ออะไรละในเมื่อเค้าไม่ได้ชอบเราแล้ว เราชอบพี่บีจริงๆและชอบมากๆชอบแบบชนิดที่ว่าเรามองข้ามข้อเสียของเค้าไป ต่อให้เค้ามีข้อเสียมากแค่ไหนเราก็หาอะไรต่างๆนานามาหักล้างมันได้ ถ้าเป็นแฟนคนก่อนๆเวลามีเรื่องอะไรเราก็พร้อมปะทะตลอดแต่กับพี่บีเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลยเรียกได้ว่าเรายอมให้เค้าทุกอย่างเลยก็ว่าได้
เราไม่อยากเลิกชอบเค้าและก็ยังอยากจะเป็นคนที่ได้ยืนข้างๆเค้าอยู่ มันพอจะเป็นไปได้มั้ยมันจะมีสักวันรึป่าว