1. ผู้แต่งลึกซึ้งในปรัชญาและธรรมมะ  มีสอดแทรกอยู่ตลอดมากมาย เช่น
-ตอนที่7 ฉากที่นางเอกกับอี้อู้หยวน ประลองกันเสร็จ อวี้อู๋หยวนได้กล่าวว่า " ฟ้าใสไร้ธุลี  อาทิตย์สีดั่งทอง  ดื่มสุราต้องดื่มให้สำราญ  ชื่อเสียงลาภยศเหนื่อยหาไปใย คล้ายม้าดีวิ่งผ่าน คล้ายไฟจากหิน คล้ายตื่นจากฝัน มีเพียงยามขึ้นสู่จุดสูงสุด จึงเข้าใจแนวคิดนี้กระมัง "  ความหมายลึกซึ้งมาก ขึ้นกับผู้ดูแล้วว่ามีความเข้าใจแค่ไหน เอาแค่คำว่า "ฟ้าใสไร้ธุลี" นี่ก็หมายถึงจิตที่ปราศจากกิเลส เมื่อกำจัดกิเลสหมดสิ้น จิตเดิมแท้นั่นเป็นจิตประภัสสรใสไม่มีสิ่งเจือปน
-ตอนที่15  รูปปั้นอ๋องต่างๆ กับปรัญชาการปกครอง  "สัจจะ ปัญญา จารีต ภักดี คุณธรรม กตัญญู และตัวสุดท้ายคือ เมตตา" และสอนให้นึกถึงประชาชน
-ตอนที่16  ผู้แต่งมีความรู้ในธรรมะ  เปรียบทียบว่าคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจที่สุดก็คือใจตนเอง นั่นหมายถึงการกำจัดกิเลสที่เกิดขึ้นใจของเรา  ซึ่งพระเอกนั้นตัดได้ทุกอย่างยกเว้นนางเอก รู้ว่าต้องตัด พยายามจะตัด แต่ก็ตัดไม่ได้  ถือว่าลึกซึ้งกินใจเหลือเกิน
เป็นเพียงตัวอย่างฉากที่ประทับใจและนึกขึ้นได้ จริงๆแล้วมีสอดแทรกอยู่ตลอดในเรื่องเลยทีเดียว
2. ประทับใจมาก ตรงที่ไม่มีน้ำเน่าเข้าใจผิดเลย พระเอกและนากเองมีรักลึงซึ้งมั่นคง ช่วยเหลือเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง  ทั้งคู่เก่ง ฉลาด มีไหวพริบ ช่วยกันแก้ปัญหาตลอด  แถมเป็นยอดฝีมืออยู่แล้วทั้งคู่+มีการได้ฝึกวิชาสุดยอดมาเพิ่มเติมอีก 
3. พระเอกนางเอก ต่างก็มี2บทบาท ยุทธภพ+ปกครองทหารบ้านเมือง ในเนื้อเรื่องมีทั้งกำลังภายในและการรบทางทหาร  มีการหักเหลี่ยม หลอกล่อให้คิดตามตลอด  ว่าแต่ละฝ่าย แต่ละตัวละครจะทำยังไง พระเอกนางเอก จะทำยังไง ถือว่าน่าติดตามและดูแล้วเพลินมาก
4. ข้อนี้นานาจิตตัง  ส่วนตัวคิดว่า พระเอก นางเอกนั่น หล่อสวยมาก เคมีก็เข้ากันได้ดี   ที่สำคัญคือ จ้าวลู่ซือสวยน่ารักมากๆ ในตอนที่3 ใส่ชุดแดงรำ น่ารักวัวตายควายล้มกันไปเลยทีเดียว  
5. ชอบฉากที่พระเอกนึกเตรียมคำจะสารภาพกับนางเอก ตอนที่22 โรแมนติกมาก แต่งได้ดี กับ3ข้อที่จะถามกับนางเอก อะไรขาวกว่าหิมะที่นี้ อะไรร้อนกว่าเตาไฟ อะไรเย็นกว่าหินที่แช่หิมะ   ขาวนี่นึกไม่ยาก ก็ต้องนางเอก  ร้อนก็ใจกายพระเอกร้อนผ่าว   มายิ้มตอนอะไรเย็นกว่าหินที่แช่หิมะนี่ละ  ดูมีเหล่เหลี่ยมดีที่ต่อว่านางเอกก่อนว่าจะปากแข็งไม่พูดความในใจ อิอิ
6. เพลงประกอบเพราะดีครับ