เดนิส ลอว์
หากจะหานักเตะที่เป็นขวัญใจแฟนบอลทั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชื่อของ เดนิส ลอว์ คือคนนั้น
เจ้าของฉายา "ราชาสตั๊ดเหินหาว" ย้ายมาจากโตริโนเมื่อปี 1962 ด้วยค่าตัว 115,000 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติของสหราชอาณาจักร ณ เวลานั้นด้วย และกลายเป็นการลงทุนของปีศาจแดงที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ลอว์ กลายมาเป็นสามประสานแนวรุกตัวเก่งร่วมกับ จอร์จ เบสต์ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ภายใต้การคุมทัพของบรมกุนซือย่าง เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้
ผลงานการยิง 237 ประตู จากการลงเล่น 404 เกม ส่งให้เขากลายเป็นตำนานแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และได้มีรูปปั้นตั้งตระหง่านอยู่หน้าสนามร่วมกับ เบสต์ และ ชาร์ลตัน อีกด้วย
น่าเสียดายที่ปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาพลาดการมีส่วนร่วมในเกมประวัติศาสตร์ของสโมสร อย่างนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 1968 ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปครั้งแรก
แม้ว่าต่อมา เขาจะย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกลายเป็นคนยิงประตูส่งแมนฯ ยูไนเต็ดตกชั้นในปี 1974 แต่แฟนบอลปีศาจแดงก็ไม่เคยถือโทษโกรธเขาเลยแม้แต่น้อย
ไบรอัน ร็อบสัน
'กัปตันมาร์เวล' ถือเป็นขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดงในช่วงยุคทศวรรษ 1980 อย่างแท้จริง
ในยุคนั้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดผลงานลุ่ม ๆ ดอนๆ ไบรอัน ร็อบสัน คือผู้ที่แบกความหวังของสโมสรไว้บนบ่าของเขา
เขาคือแบบฉบับของมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนขนานแท้ ที่พร้อมจะบวกกับคู่แข่งแบบไม่เกรงกลัวการบาดเจ็บ รวมถึงยังมีลูกไกลเป็นทีเด็ดด้วย
ร็อบสัน ยังเป็นกุญแจสำคัญในการก่อสร้างสร้างทีมช่วงแรกในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนสุดท้ายมาปลดล็อคคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกใน
ปี 1993 ยุติการรอคอบแชมป์ลีกสูงสุดมายาวนานถึง 26 ปี
ค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ของเขานั้นเกินคำว่าคุ้มไปแล้ว หากมองถึงความทุ่มเทเกินร้อยที่ ร็อบสัน มอบให้กับทีม แม้อาจจะประสบความสำเร็จน้อยไปนิดก็ตาม
เอริค คันโตนา
เขาคือการซ็นสัญญาที่ดีที่สุดตลอดกาลของยูไนเต็ดหรือไม่? เชื่อว่ามีหลายคนที่คิดแบบนี้
ค่าตัวเพียงแค่ 1.2 ล้านปอนด์ ที่ปีศาจแดงซื้อตัว เอริค คันโตนา มาจากลีดส์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นค่าตัวที่ถูกอย่างมาก เพราะนี่คือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่เข้ามาเติมเต็มยุคทองยุคแรกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อย่างแท้จริง
"ก็องโต้" ยังทำสถิติเป็นนักเตะคนเดียวที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเดิมครั้งสุดท้ายอย่างดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1992 แล้วมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดโฉมใหม่ในชื่อว่า พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 1993 ได้ต่อเนื่องกันด้วย
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เป็นตำนานเล่าขาน ก็คือการกระโดดกังฟูคิกใส่แฟนบอลคริสตัล พาเลซ จนโดนโทษแบนยาวถึง 8 เดือน
ใน 5 ฤดูกาลของ คันโตนา ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาคว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัย ครั้งเดียวที่ทีมพลาดแชมป์ก็คือฤดูกาลที่เขาถูกแบนยาว
นี่คือไอคอนตลอดกาลของปีศาจแดงมาจนถึงทุกวันนี้ที่แท้จริง
ปีเตอร์ ชไมเคิล
ค่าตัว 550,000 ปอนด์ เพื่อแลกกับผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ถือเป็นการลงทุนที่เกินคำว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่เป็นสุดยอดผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดเท่านั้น ชไมเคิล ยังถูกยกให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในช่วงยุคทศวรรษ 1990 อีกด้วย
เจ้าของฉายา "ยักษ์เดนส์" มีท่าเซฟกระโดดเซฟเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คู่แข่งยิงอย่างไรก็ไม่ผ่านการป้องกันของเขา รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในเกมสวนกลับเร็วของทีม ด้วยการขว้างบอลเร็วที่ทั้งไกลและแม่นยำเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว
ชไมเคิล ปิดฉากการเล่นให้ยูไนเต็ดได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเป็นกัปตันทีมผู้ชูถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลที่สโมสรสร้างประวัติศาสตร์คว้าได้ถึงสามแชมป์
คริสเตียโน โรนัลโด้
ดาวรุ่งจากโปรตุเกส ต้องมารับช่วงต่อสวมเสื้อหมายเลข 7 ของตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม
ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับนักเตะที่ต่อมากลายเป็นหนึ่งในสุดยอดแข้งของโลกลูกหนัง เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่เกินคาดของปีศาจแดงอย่างแท้จริง
แม้ว่าจะอาจจะถูกวิจารณ์อย่างหนักกับสไตล์การเล่นในช่วงแรก แต่ภายใต้การหนุนหลังของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เชื่อมั่นในตัวเขาเสมอมา สุดท้าย CR7 ก็พัฒนาตัวเองจากปีกจอมสับพร่ำเพรื่อกลายมาเป็นเครื่องจักรถล่มประตูสุดอันตราย
ฟอร์มสุดยอดของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องเป็นในฤดูกาล 2007-2008 ด้วยผลงาน 42 ประตูในทุกรายการ พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์รายการใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
โรนัลโด้ อำลาทีมไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้นด้วย และยังพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นจนกลายมาเป็นนักเตะที่สุดยอดยิ่งกว่าสมัยอยู่กับปีศาจแดงเสียอีก
ปัจจุบันในวัย 37 ปี โรนัลโด้กลับมาสานต่อตำนานที่ปีศาจแดงอีกครั้ง และเมื่อดูจากอายุของเขาในตอนนี้ ก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อที่เขายังรักษาฟอร์มการเล่นระดับสูงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
เวย์น รูนีย์
จากดาวรุ่งจอมบ้าดีเดือด สุดท้าย รูนีย์ อำลาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปในฐานะดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร
รูนีย์ ถือเป็นกุญแจที่เข้ามาสร้างยุคทองสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเขาก็ตอบแทนค่าตัว 27 ล้านปอนด์ที่ปีศาจแดงกระชากมาจากเอฟเวอร์ตัน ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ความทุ่มเทเกินร้อยของเขา ยังเป็นสิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดคิดถึงเสมอจนถึงทุกวันนี้
รอย คีน
กองกลางชาวไอริช ย้ายมาจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติอังกฤษ ณ เวลานั้น 3.75 ล้านปอนด์
ลูกพี่คีโน่กลายมาเป็นกัปตันทีมในยุคที่สโมสรประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และถือเป็นสุดยอดมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนแห่งยุคทศวรรษ 1990 อย่างแท้จริง
สิ่งที่น่าเสียดายของเขา คือการพลาดลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1999 เนื่องจากติดโทษแบน แต่ผลงานของเขาในรอบรองชนะเลิศนัดสองกับยูเวนตุสนั้น ยังเป็นความสุดยอดที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลปีศาจแดงเสมอมา
เดนิส เออร์วิน
ค่าตัว 625,000 ปอนด์ ที่จ่ายให้แก่โอลด์แฮม แอธเลติก แลกกับการได้แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร ถือเป็นการลงุทนที่คุ้มค่าอย่างยิ่งของยูไนเต็ด
นี่คือนักเตะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยกย่องอย่างมากในมาตรฐานฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอของเขา เพราะตลอดการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แทบจะไม่เคยเห็น เออร์วิน ฟอร์มตกลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
และที่น่าประหลาดใจก็คือ สุดยอดแบ็คซ้ายของยูไนเต็ด ความจริงแล้วเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าขวาอีกด้วย
เนมานยา วิดิช
ปีศาจแดงคว้าตัวกองหลังชาวเซอร์เบียมาด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ในช่วงต้นปี 2006 ท่ามกลางความประหลาดใจ เพราะแทบไม่มีใครได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขามาก่อนเลย
วิดิช ใช้เวลาปรับตัวอยู่กว่าครึ่งปี ก่อนจะเป็นมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมแกร่งที่จับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้อย่างลงตัว
จุดเด่นของเขาคือการพร้อมที่จะเข้าปะทะอย่างเกรงกลัวต่อการบาดเจ็บ และภาพการเลือดตกยางออกของเขา ก็เป็นสิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดเห็นกันจนชินตา
หากจะยกให้เขาและ เฟอร์ดินานด์ เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่สุดยอดที่สุดตลอดกาลของสโมสร ก็ไม่ใช่เรื่องการเกินเลยไปนักอย่างแน่นอน
แพ็ดดี้ ครีแลนด์
แฟนบอลรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขามากนัก แต่นี่คือสมาชิกคนสำคัญในยุคของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ อย่างแท้จริง
มนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมจ่ายค่าตัวให้กับเซลติกไปในราคา 56,000 ปอนด์ เมื่อปี 1963 ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมากในสมัยนั้น เพื่อให้ได้ตัวมิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์มาเสริมทัพ ในช่วงที่ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ กำลังสร้างทีมใหม่หลังผ่านโศกนาฏกรรมเมื่อ 5 ปีก่อนหน้านี้
จุดเด่นของ ครีแลนด์คือความทุ่มเทเกินร้อยเพื่อทีมเสมอ ขณะที่บทบาทนอกสนามเขาก็เป็นที่รักของทุกคนภายในสโมสร ด้วยบุคลิกที่เป็นคนสนุกสนานเฮฮา สร้างบรรยากาศที่ดีภายในทีม
ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุมากถึง 83 ปีแล้ว แต่สุขภาพของเขาก็ยังแข็งแรงดี และยังรับงานเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับ MUTV ช่องของสโมสรอยู่เรื่อย ๆ
credit : www.goal.com/th
คันโตนา, โรนัลโด้, รูนีย์! 10 การเซ็นสัญญาที่ดีสุดตลอดกาลของแมนฯ ยูฯ
เดนิส ลอว์
หากจะหานักเตะที่เป็นขวัญใจแฟนบอลทั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชื่อของ เดนิส ลอว์ คือคนนั้น
เจ้าของฉายา "ราชาสตั๊ดเหินหาว" ย้ายมาจากโตริโนเมื่อปี 1962 ด้วยค่าตัว 115,000 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติของสหราชอาณาจักร ณ เวลานั้นด้วย และกลายเป็นการลงทุนของปีศาจแดงที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ลอว์ กลายมาเป็นสามประสานแนวรุกตัวเก่งร่วมกับ จอร์จ เบสต์ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ภายใต้การคุมทัพของบรมกุนซือย่าง เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้
ผลงานการยิง 237 ประตู จากการลงเล่น 404 เกม ส่งให้เขากลายเป็นตำนานแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และได้มีรูปปั้นตั้งตระหง่านอยู่หน้าสนามร่วมกับ เบสต์ และ ชาร์ลตัน อีกด้วย
น่าเสียดายที่ปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาพลาดการมีส่วนร่วมในเกมประวัติศาสตร์ของสโมสร อย่างนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 1968 ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปครั้งแรก
แม้ว่าต่อมา เขาจะย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกลายเป็นคนยิงประตูส่งแมนฯ ยูไนเต็ดตกชั้นในปี 1974 แต่แฟนบอลปีศาจแดงก็ไม่เคยถือโทษโกรธเขาเลยแม้แต่น้อย
ไบรอัน ร็อบสัน
'กัปตันมาร์เวล' ถือเป็นขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดงในช่วงยุคทศวรรษ 1980 อย่างแท้จริง
ในยุคนั้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดผลงานลุ่ม ๆ ดอนๆ ไบรอัน ร็อบสัน คือผู้ที่แบกความหวังของสโมสรไว้บนบ่าของเขา
เขาคือแบบฉบับของมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนขนานแท้ ที่พร้อมจะบวกกับคู่แข่งแบบไม่เกรงกลัวการบาดเจ็บ รวมถึงยังมีลูกไกลเป็นทีเด็ดด้วย
ร็อบสัน ยังเป็นกุญแจสำคัญในการก่อสร้างสร้างทีมช่วงแรกในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนสุดท้ายมาปลดล็อคคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกใน
ปี 1993 ยุติการรอคอบแชมป์ลีกสูงสุดมายาวนานถึง 26 ปี
ค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ของเขานั้นเกินคำว่าคุ้มไปแล้ว หากมองถึงความทุ่มเทเกินร้อยที่ ร็อบสัน มอบให้กับทีม แม้อาจจะประสบความสำเร็จน้อยไปนิดก็ตาม
เอริค คันโตนา
เขาคือการซ็นสัญญาที่ดีที่สุดตลอดกาลของยูไนเต็ดหรือไม่? เชื่อว่ามีหลายคนที่คิดแบบนี้
ค่าตัวเพียงแค่ 1.2 ล้านปอนด์ ที่ปีศาจแดงซื้อตัว เอริค คันโตนา มาจากลีดส์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นค่าตัวที่ถูกอย่างมาก เพราะนี่คือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่เข้ามาเติมเต็มยุคทองยุคแรกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อย่างแท้จริง
"ก็องโต้" ยังทำสถิติเป็นนักเตะคนเดียวที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเดิมครั้งสุดท้ายอย่างดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1992 แล้วมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดโฉมใหม่ในชื่อว่า พรีเมียร์ลีก เมื่อปี 1993 ได้ต่อเนื่องกันด้วย
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เป็นตำนานเล่าขาน ก็คือการกระโดดกังฟูคิกใส่แฟนบอลคริสตัล พาเลซ จนโดนโทษแบนยาวถึง 8 เดือน
ใน 5 ฤดูกาลของ คันโตนา ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาคว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัย ครั้งเดียวที่ทีมพลาดแชมป์ก็คือฤดูกาลที่เขาถูกแบนยาว
นี่คือไอคอนตลอดกาลของปีศาจแดงมาจนถึงทุกวันนี้ที่แท้จริง
ปีเตอร์ ชไมเคิล
ค่าตัว 550,000 ปอนด์ เพื่อแลกกับผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ถือเป็นการลงทุนที่เกินคำว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่เป็นสุดยอดผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดเท่านั้น ชไมเคิล ยังถูกยกให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในช่วงยุคทศวรรษ 1990 อีกด้วย
เจ้าของฉายา "ยักษ์เดนส์" มีท่าเซฟกระโดดเซฟเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คู่แข่งยิงอย่างไรก็ไม่ผ่านการป้องกันของเขา รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นในเกมสวนกลับเร็วของทีม ด้วยการขว้างบอลเร็วที่ทั้งไกลและแม่นยำเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว
ชไมเคิล ปิดฉากการเล่นให้ยูไนเต็ดได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเป็นกัปตันทีมผู้ชูถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลที่สโมสรสร้างประวัติศาสตร์คว้าได้ถึงสามแชมป์
คริสเตียโน โรนัลโด้
ดาวรุ่งจากโปรตุเกส ต้องมารับช่วงต่อสวมเสื้อหมายเลข 7 ของตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม
ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับนักเตะที่ต่อมากลายเป็นหนึ่งในสุดยอดแข้งของโลกลูกหนัง เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่เกินคาดของปีศาจแดงอย่างแท้จริง
แม้ว่าจะอาจจะถูกวิจารณ์อย่างหนักกับสไตล์การเล่นในช่วงแรก แต่ภายใต้การหนุนหลังของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เชื่อมั่นในตัวเขาเสมอมา สุดท้าย CR7 ก็พัฒนาตัวเองจากปีกจอมสับพร่ำเพรื่อกลายมาเป็นเครื่องจักรถล่มประตูสุดอันตราย
ฟอร์มสุดยอดของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องเป็นในฤดูกาล 2007-2008 ด้วยผลงาน 42 ประตูในทุกรายการ พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์รายการใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
โรนัลโด้ อำลาทีมไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติโลก ณ เวลานั้นด้วย และยังพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นจนกลายมาเป็นนักเตะที่สุดยอดยิ่งกว่าสมัยอยู่กับปีศาจแดงเสียอีก
ปัจจุบันในวัย 37 ปี โรนัลโด้กลับมาสานต่อตำนานที่ปีศาจแดงอีกครั้ง และเมื่อดูจากอายุของเขาในตอนนี้ ก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อที่เขายังรักษาฟอร์มการเล่นระดับสูงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
เวย์น รูนีย์
จากดาวรุ่งจอมบ้าดีเดือด สุดท้าย รูนีย์ อำลาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปในฐานะดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร
รูนีย์ ถือเป็นกุญแจที่เข้ามาสร้างยุคทองสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเขาก็ตอบแทนค่าตัว 27 ล้านปอนด์ที่ปีศาจแดงกระชากมาจากเอฟเวอร์ตัน ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ความทุ่มเทเกินร้อยของเขา ยังเป็นสิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดคิดถึงเสมอจนถึงทุกวันนี้
รอย คีน
กองกลางชาวไอริช ย้ายมาจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติอังกฤษ ณ เวลานั้น 3.75 ล้านปอนด์
ลูกพี่คีโน่กลายมาเป็นกัปตันทีมในยุคที่สโมสรประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และถือเป็นสุดยอดมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนแห่งยุคทศวรรษ 1990 อย่างแท้จริง
สิ่งที่น่าเสียดายของเขา คือการพลาดลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1999 เนื่องจากติดโทษแบน แต่ผลงานของเขาในรอบรองชนะเลิศนัดสองกับยูเวนตุสนั้น ยังเป็นความสุดยอดที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลปีศาจแดงเสมอมา
เดนิส เออร์วิน
ค่าตัว 625,000 ปอนด์ ที่จ่ายให้แก่โอลด์แฮม แอธเลติก แลกกับการได้แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร ถือเป็นการลงุทนที่คุ้มค่าอย่างยิ่งของยูไนเต็ด
นี่คือนักเตะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยกย่องอย่างมากในมาตรฐานฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอของเขา เพราะตลอดการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แทบจะไม่เคยเห็น เออร์วิน ฟอร์มตกลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
และที่น่าประหลาดใจก็คือ สุดยอดแบ็คซ้ายของยูไนเต็ด ความจริงแล้วเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าขวาอีกด้วย
เนมานยา วิดิช
ปีศาจแดงคว้าตัวกองหลังชาวเซอร์เบียมาด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ในช่วงต้นปี 2006 ท่ามกลางความประหลาดใจ เพราะแทบไม่มีใครได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขามาก่อนเลย
วิดิช ใช้เวลาปรับตัวอยู่กว่าครึ่งปี ก่อนจะเป็นมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมแกร่งที่จับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้อย่างลงตัว
จุดเด่นของเขาคือการพร้อมที่จะเข้าปะทะอย่างเกรงกลัวต่อการบาดเจ็บ และภาพการเลือดตกยางออกของเขา ก็เป็นสิ่งที่แฟนบอลยูไนเต็ดเห็นกันจนชินตา
หากจะยกให้เขาและ เฟอร์ดินานด์ เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่สุดยอดที่สุดตลอดกาลของสโมสร ก็ไม่ใช่เรื่องการเกินเลยไปนักอย่างแน่นอน
แพ็ดดี้ ครีแลนด์
แฟนบอลรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขามากนัก แต่นี่คือสมาชิกคนสำคัญในยุคของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ อย่างแท้จริง
มนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมจ่ายค่าตัวให้กับเซลติกไปในราคา 56,000 ปอนด์ เมื่อปี 1963 ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมากในสมัยนั้น เพื่อให้ได้ตัวมิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์มาเสริมทัพ ในช่วงที่ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ กำลังสร้างทีมใหม่หลังผ่านโศกนาฏกรรมเมื่อ 5 ปีก่อนหน้านี้
จุดเด่นของ ครีแลนด์คือความทุ่มเทเกินร้อยเพื่อทีมเสมอ ขณะที่บทบาทนอกสนามเขาก็เป็นที่รักของทุกคนภายในสโมสร ด้วยบุคลิกที่เป็นคนสนุกสนานเฮฮา สร้างบรรยากาศที่ดีภายในทีม
ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุมากถึง 83 ปีแล้ว แต่สุขภาพของเขาก็ยังแข็งแรงดี และยังรับงานเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับ MUTV ช่องของสโมสรอยู่เรื่อย ๆ
credit : www.goal.com/th