ศิริราช' หนุนประกาศสธ. ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม 'สมาคมโภชนาการ' ออกข้อเสนอแนะ
17 มิ.ย.2565 - ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง มาตรการดำเนินการการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ว่า ทางคณะแพทย์ เล็งเห็นถึงทั้งประโยชน์และ ผลอันไม่พึงประสงค์ของการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ที่อาจส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มารับบริการของโรงพยาบาลในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช ,โรงพยาบาลศิริราช ปียมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาสัยมหิดล ขอสนับสนุนมาตรการควบคุมการใช้สมุนไพรกัญชา ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. ๒๕๖๕ และประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การ ห้ามจำหน่าย โฆษณา และบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือกัญชงในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล จึงขอประกาศมาตรการดำเนินการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อเป็น ต้นแบบของสถานพยาบาลที่ปลอดการใช้สมุนไพรกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซง และพืชในตระกูล Cannabis ดังนี้
1. ห้ามมิให้มีการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2. ห้ามมิให้มีการโฆษณา การส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรม การจัดจำหน่าย และการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูลCannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
3. ห้ามมิให้ประชาชนทั่วไป ผู้มารับบริการ บุคลากรและนักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซงและพืชในตระกูล Cannabis เพื่อสันทนาการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
4. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอสนับสนุนแนวทางการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เฉพาะในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ตามความเห็นของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ในบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง
5. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สนับสนุนให้มีการศึกษาและวิจัย ตลอดจนการนำสมุนไพรกัญชา และพืชในตระกูล Cannabis มาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด
ด้านศ.คลินิก ดร. แพทย์หญิงนลินี จงวิริยะพันธุ์ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ในนามสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ฯได้ออกแถลงการณ์สมาคมโภชนาการฯ เรื่อง ผลกระทบจากการบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยห่วง การปลดล็อคกัญชา จะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงและบริโภคกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่ มีส่วนผสมของกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับ สาร THC ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในกัญชา เกินขนาด จะมีผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะบุคคลที่มีความไวต่อสารนี้จะเกิดอาการแพ้แม้ได้รับในปริมาณไม่มาก และอาจรุนแรงถึงแก่ ชีวิตได้ ทั้งยังพบว่า THC ใช้เวลาอยู่ในร่างกายยาวนานหลายชั่วโมง ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ในทันทีจากการได้รับสารดังกล่าว จนอาจทำให้บริโภคในปริมาณที่เกินขนาดได้ ทางสมาคมฯจึง มีข้อเสนอแนะ ดังนี้....👇
1. การนำกัญชามาประกอบหรือปรุงอาหารนั้น ใช้ได้เพียงบางส่วนของต้นกัญชาเท่านั้น ส่วนที่แนะนำ
ให้นำมาใช้ประกอบหรือปรุงอาหารคือ ใบสดของกัญชา และเริ่มต้นไม่เกินครึ่งใบถึงหนึ่งใบ เพื่อประเมินผลข้างเคียงและการแพ้ส่วนประกอบในใบกัญชา ในขณะที่ช่อดอกของกัญชามี THC สูงและไม่เหมาะสมที่ จะนำมาใช้บริโภค
2. การปรุงประกอบอาหารด้วยความร้อนจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณสาร THC ดังนั้น หากเป็นการต้ม
แนะนำให้รับประทานเฉพาะส่วนน้ำ ไม่แนะนำให้รับประทานส่วนใบที่ผ่านการต้มแล้ว หากเป็นการปรุง
ประกอบอาหารด้วยน้ำมัน จะมีผลในการเพิ่ม THC จำนวนมาก และสาร THC ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงไม่ควรนำใบกัญชาประกอบอาหารที่ใช้น้ำมัน
3. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารกับประชาชนถึงผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดจากการ
บริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา
4. ขอให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดกัญชา โดยห้ามจำหน่ายหรือโฆษณาอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมที่มี
ส่วนผสมของกัญชา ภายในโรงเรียน
5. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุม กำกับ และเฝ้าระวังเพื่อไมให้เด็กที่อายุ
น้อยกว่า 20 ปี รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากกัญซามีผลต่อสมองเด็กและพัฒนาการของเด็กในระยะยาว
6. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารปริมาณที่เหมาะสมของใบกัญชาที่ใส่ในอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มอย่างชัดเจน โดยให้มีการกำกับและเฝ้าระวังการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มอย่างเข้มงวด
7. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใบกัญชา บังคับให้มีการระบุคำเตือนและแจ้งปริมาณสาร THC ต่อหนึ่งหน่วยบรรจุปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากการได้รับสาร THC มากเกินไป
8. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับการห้ามใช้หรือบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาในกลุ่มผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดชั้นรุนแรง ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตเวช ผู้ป่วยที่ใช้ยาวาร์ฟาริน กลุ่มยาละลายลิ่มเลือด กลุ่มยาลดไขมันในเลือด กลุ่มยากันชัก ควรหลีกเลี่ยงการใช้กัญชาโดยไม่มีข้อบ่งขี้ทางการแพทย์ เพราะสารในกัญชาจะทำให้เพิ่มปริมาณยา ซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพจากยาเกินขนาดได้ สำหรับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
9. ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตอาหาร ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ในการผลิตและขายอาหารหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยมีการแสดงข้อความว่า มีการใส่กัญชาเป็นส่วนผสม และหรือแสดงปริมาณ อย่างชัดเจน
10. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
หลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
11. ขอให้มีการติดตามประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและผลกระทบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
หลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
https://www.thaipost.net/general-news/163870/
ตอนนี้ใครๆก็ตามหาต้นกัญชามาปลูก
ไม่ใช่เพื่อเสพหรืออะไรหรอกค่ะ อยากรู้อยากเห็นต้นของกัญชา
อย่าให้ต้นไม้มีอิทธิพลเหนือมนุษย์ แต่มนุษย์ต้องรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
กัญชาเป็นพืชที่มีคะแนนนิยมทางการเมืองด้วยค่ะ
ดิฉันได้ข่าวพรรคเพื่อพ่อตามไล่หนู ตีงูเห่าเพราะกลัวกัญชาของหนูเอาคะแนนแลนด์สไลด์ไปหมด
💙มาลาริน/น่าสนใจ....ศิริราช' หนุนประกาศสธ. ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม 'สมาคมโภชนาการ' ออกข้อเสนอแนะ
17 มิ.ย.2565 - ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง มาตรการดำเนินการการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ว่า ทางคณะแพทย์ เล็งเห็นถึงทั้งประโยชน์และ ผลอันไม่พึงประสงค์ของการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis ที่อาจส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มารับบริการของโรงพยาบาลในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช ,โรงพยาบาลศิริราช ปียมหาราชการุณย์ และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาสัยมหิดล ขอสนับสนุนมาตรการควบคุมการใช้สมุนไพรกัญชา ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. ๒๕๖๕ และประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การ ห้ามจำหน่าย โฆษณา และบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือกัญชงในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล จึงขอประกาศมาตรการดำเนินการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อเป็น ต้นแบบของสถานพยาบาลที่ปลอดการใช้สมุนไพรกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซง และพืชในตระกูล Cannabis ดังนี้
1. ห้ามมิให้มีการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2. ห้ามมิให้มีการโฆษณา การส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรม การจัดจำหน่าย และการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูลCannabis ในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
3. ห้ามมิให้ประชาชนทั่วไป ผู้มารับบริการ บุคลากรและนักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญซงและพืชในตระกูล Cannabis เพื่อสันทนาการในพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
4. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอสนับสนุนแนวทางการใช้สมุนไพรควบคุมกัญชา สารสกัดจากกัญชา กัญชง และพืชในตระกูล Cannabis เฉพาะในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ตามความเห็นของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ในบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง
5. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สนับสนุนให้มีการศึกษาและวิจัย ตลอดจนการนำสมุนไพรกัญชา และพืชในตระกูล Cannabis มาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด
ด้านศ.คลินิก ดร. แพทย์หญิงนลินี จงวิริยะพันธุ์ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ในนามสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ฯได้ออกแถลงการณ์สมาคมโภชนาการฯ เรื่อง ผลกระทบจากการบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยห่วง การปลดล็อคกัญชา จะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงและบริโภคกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่ มีส่วนผสมของกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ได้รับ สาร THC ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ในกัญชา เกินขนาด จะมีผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะบุคคลที่มีความไวต่อสารนี้จะเกิดอาการแพ้แม้ได้รับในปริมาณไม่มาก และอาจรุนแรงถึงแก่ ชีวิตได้ ทั้งยังพบว่า THC ใช้เวลาอยู่ในร่างกายยาวนานหลายชั่วโมง ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ในทันทีจากการได้รับสารดังกล่าว จนอาจทำให้บริโภคในปริมาณที่เกินขนาดได้ ทางสมาคมฯจึง มีข้อเสนอแนะ ดังนี้....👇
1. การนำกัญชามาประกอบหรือปรุงอาหารนั้น ใช้ได้เพียงบางส่วนของต้นกัญชาเท่านั้น ส่วนที่แนะนำ
ให้นำมาใช้ประกอบหรือปรุงอาหารคือ ใบสดของกัญชา และเริ่มต้นไม่เกินครึ่งใบถึงหนึ่งใบ เพื่อประเมินผลข้างเคียงและการแพ้ส่วนประกอบในใบกัญชา ในขณะที่ช่อดอกของกัญชามี THC สูงและไม่เหมาะสมที่ จะนำมาใช้บริโภค
2. การปรุงประกอบอาหารด้วยความร้อนจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณสาร THC ดังนั้น หากเป็นการต้ม
แนะนำให้รับประทานเฉพาะส่วนน้ำ ไม่แนะนำให้รับประทานส่วนใบที่ผ่านการต้มแล้ว หากเป็นการปรุง
ประกอบอาหารด้วยน้ำมัน จะมีผลในการเพิ่ม THC จำนวนมาก และสาร THC ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงไม่ควรนำใบกัญชาประกอบอาหารที่ใช้น้ำมัน
3. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารกับประชาชนถึงผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดจากการ
บริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา
4. ขอให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดกัญชา โดยห้ามจำหน่ายหรือโฆษณาอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมที่มี
ส่วนผสมของกัญชา ภายในโรงเรียน
5. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุม กำกับ และเฝ้าระวังเพื่อไมให้เด็กที่อายุ
น้อยกว่า 20 ปี รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากกัญซามีผลต่อสมองเด็กและพัฒนาการของเด็กในระยะยาว
6. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อสารปริมาณที่เหมาะสมของใบกัญชาที่ใส่ในอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มอย่างชัดเจน โดยให้มีการกำกับและเฝ้าระวังการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มอย่างเข้มงวด
7. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใบกัญชา บังคับให้มีการระบุคำเตือนและแจ้งปริมาณสาร THC ต่อหนึ่งหน่วยบรรจุปริมาณที่สามารถบริโภคได้ต่อหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากการได้รับสาร THC มากเกินไป
8. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเพื่อควบคุมและกำกับการห้ามใช้หรือบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาในกลุ่มผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดชั้นรุนแรง ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตเวช ผู้ป่วยที่ใช้ยาวาร์ฟาริน กลุ่มยาละลายลิ่มเลือด กลุ่มยาลดไขมันในเลือด กลุ่มยากันชัก ควรหลีกเลี่ยงการใช้กัญชาโดยไม่มีข้อบ่งขี้ทางการแพทย์ เพราะสารในกัญชาจะทำให้เพิ่มปริมาณยา ซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพจากยาเกินขนาดได้ สำหรับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
9. ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตอาหาร ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ในการผลิตและขายอาหารหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยมีการแสดงข้อความว่า มีการใส่กัญชาเป็นส่วนผสม และหรือแสดงปริมาณ อย่างชัดเจน
10. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
หลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
11. ขอให้มีการติดตามประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและผลกระทบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
หลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
https://www.thaipost.net/general-news/163870/
ตอนนี้ใครๆก็ตามหาต้นกัญชามาปลูก
ไม่ใช่เพื่อเสพหรืออะไรหรอกค่ะ อยากรู้อยากเห็นต้นของกัญชา
อย่าให้ต้นไม้มีอิทธิพลเหนือมนุษย์ แต่มนุษย์ต้องรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
กัญชาเป็นพืชที่มีคะแนนนิยมทางการเมืองด้วยค่ะ
ดิฉันได้ข่าวพรรคเพื่อพ่อตามไล่หนู ตีงูเห่าเพราะกลัวกัญชาของหนูเอาคะแนนแลนด์สไลด์ไปหมด