สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ทำแบบนี้ได้เหรอครับ ต้องขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นมั้ย ถึงรัฐจะเป็นผถห.รายใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของคนเดียวนะ
ถุงมือไฟฟ้า ถูกใจ, ninepon ถูกใจ, Synonym11 ถูกใจ, anegi ถูกใจ, นกปิ๊ดตาลิวเบิร์ด ถูกใจ, ค่ง หยาง เจี่ยน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4775468 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1417579 ถูกใจ, Love Chemistry ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1170793 ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
£££ โรงกลั่นยอมจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันเดือนละ 7,000 ล้านบาท
วันที่ 16 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่าการประชุมทีมเศรษฐกิจฉุกเฉิน ในวันนี้ (16 มิ.ย. 65) มีมติ ให้ต่อมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงาน ไปอีก 3 เดือน และให้โรงกลั่นน้ำมัน จ่ายเงินค่าการกลั่น ผ่านการขอความร่วมมือ ให้โรงกลั่นน้ำมันนำส่งค่าการกลั่นส่วนเกินจากอัตราปกติ เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อนำมาอุดหนุน ราคาน้ำมันภายในประเทศให้ลดต่ำลง ลิตรละ 1 บาท
ทั้งนี้ โรงกลั่นทั้ง 6 โรง ประกอบด้วย TOP, IRPC, PTTGC, BCG, ESSO, SPRC จะจ่ายเงินอุดหนุนน้ำมันเป็นเวลา 3 เดือน คาดว่าจะได้เงินประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน โดยอุดหนุนน้ำมันดีเซล 5,000-6,000 ล้านบาท/เดือน น้ำมันเบนซิน 1,000 ล้านบาท/เดือน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มาตรการพลังงานเดิมจะต่อออกไปอีก 3 เดือน ส่วนมาตรการที่เพิ่มเติม คือ มาตรการขอความร่วมมือจากกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในการนำส่งกำไรส่วนหนึ่งที่เกิดจากการกลั่นน้ำมันส่วนเกิน ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในช่วงวิกฤตราคาน้ำมันแพงระยะเวลา 3 เดือน หรือ ก.ค.-ก.ย.2565
ซึ่งการเก็บค่าการกลั่นเข้ากองทุนน้ำมันฯ แบ่งออกเป็นน้ำมันดีเซล ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท/เดือน และเบนซินประมาณ 1,000 ล้านบาท/เดือน ซึ่งในส่วนของเบนซินจะนำมาเป็นส่วนลดราคาให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินทันที 1 บาทต่อลิตร
prachachart