🔎 ย้อน 30 ความทรงจำ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 30 ปีผ่านไป คนไทยไม่เคยลืมเธอ ❤


ครบรอบ 30 ปี "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 
จากนักร้อง "บ้านนอก" สู่ "ราชินีเพลงลูงทุ่ง" 
กับ 30 ความทรงจำ กว่าพันบทเพลง 
ชีวิตยิ่งกว่านิยาย 
ที่บรรดามิตรรักแฟนคลับไม่ลืมเลือน 

13 มิ.ย. ของทุกปี ถือเป็นวันครบรอบ
การจากไปของราชินีเพลงลูกทุ่ง 
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" 
ที่แม้วันเวลาจะผ่านไปครบ 3 ทศวรรษ 
แต่ราชินีเพลงลูกทุ่งผู้นี้ 
ก็อยู่ในความจำของใครหลายคน 
โดยเฉพาะมิตรรักแฟนเพลง ต่างต้องจดจำ
น้ำเสียง และลีลาการขับกล่อมได้เป็นอย่างดี 
รวมถึงมีแฟนๆ รุ่นใหม่ ที่เป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน
พูดถึงและยกเป็นแบบอย่าง
ในการร้องเพลงเสมอ ๆ
 
สำหรับประวัติ "แม่ผึ้ง" พุ่มพวง ดวงจันทร์ 
คือที่สุดของชีวิตเด็กสาวคนหนึ่ง
ที่ยิ่งกว่านิยาย 
จากนักร้องบ้านนอกในไร่อ้อย 
สู่ราชินีลูกทุ่งขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ 

แม้ผ่านไป 30 ปี แต่ บทเพลง 
น้ำเสียง และลีลา ยังคงตราตรึงในหัวใจ
คนรักเสียงลูกทุ่งตลอดมา 

-----------------------------------------------
30 ความทรงจำ 
สำหรับคนรัก "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 
1.รำพึง จิตรหาญ
คือชื่อเดิมของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ 
"แม่ผึ้ง" หรือ พุ่มพวง ชื่อในเวลาต่อมา
หลังเข้าสู่เส้นทางนักร้อง
เธอเป็นบุตรคนที่ 5 จาก พี่น้องทั้งหมด 12 คน
 
2.แม่ผึ้ง พุ่มพวง
เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504
ที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท
 
3.แต่เดิมแม่ผึ้ง มีชื่อในวงการ
คือ น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย, น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ
ต่อมา
ครูเพลงชื่อดังในยุคนั้น คือ ครูมนต์เมืองเหนือ เป็นคนตั้งชื่อใหม่ ให้ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 

4.เมื่อพุ่มพวง อายุได้ 15 ปี พ่อได้ยกให้
เป็นบุตรบุญธรรมของ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ
นักร้องและนักเเต่งเพลงชื่อดังในยุคนั้น
 
5. สิ่งที่น่าแปลกและผู้คนทั้งโลกตะลึง
เมื่อทราบว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
เธออ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่กลับจำเนื้อเพลง บทหนังและบทละคร ได้อย่างแม่นยำ
มีความใสซื่อ จริงใจ และเป็นนักร้องที่สามารถเอนเตอร์เทนแฟนเพลง ได้ดีเยี่ยม
เธอจำได้อย่างไร!! 

6.บทเพลงแรกที่ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ร้องและได้บันทึกอัดลงแผ่นเสียงเป็นชุดแรก
คือ เพลง "แก้วรอพี่" 
 
7.ปี 2521
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จากเพลง "อกสาวเหนือสะอื้น"

8.ปี 2525 
เป็นปีที่ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เริ่มมีชื่อเสียง 
โดยหลายคนคุ้นหูกับเพลงดังที่เป็นอมตะ
มาถึงปัจจุบัน อย่าง สาวนาสั่งแฟน , 
นัดพบหน้าอำเภอ , อื้อฮือหล่อจัง, 
กระแซะเข้ามาซิ , ดาวเรืองดาวโรย , 
คนดังลืมหลังควาย เป็นต้น
 
9.ปี 2526 
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยเริ่มเป็นนักแสดงเล่นคู่กับ "ยอดรัก สลักใจ" ในเรื่อง"สงครามเพลง"
ซึ่งกำกับโดย คุณฉลอง ภักดีวิจิตร
มีเพลงประกอบชื่อ “ดาวเรืองราวโรย”
ที่ลพ บุรีรัตน์เป็นผู้แต่งให้พุ่มพวงร้องในเรื่อง

10.ครูลพ บุรีรัตน์
ถือเป็นครูเพลงคู่บุญของคุณพุ่มพวง ที่เข้าใจและใช้ความสามารถในการเรียนรู้เธอมากที่สุด
หลังทราบคุณพุ่มพวง อ่านหนังสือไม่ได้ แต่มีความจำและสมองดีเป็นเลิศ ยากจะหาตัวจับได้ 

11.เคยมีกระแสข่าว "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 
เคยคบหาดูใจกับ ธีระพล แสนสุข-สามีคนแรก ที่เป็นนักแซกโซโฟนของวงดนตรีไวพจน์
จากนั้นก็แยกทางกัน
 
12.พุ่มพวง ดวงจันทร์
เคยตั้งวงดนตรีของตนเอง
โดยการสนับสนุนของ คารม คมคาย
นักจัดรายการวิทยุ มนต์เมืองเหนือ
แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
จึงมาสังกัดบริษัทเสกสรรเทป - แผ่นเสียง
และกลับมาประสบความสำเร็จมากขึ้น
เมื่อ "ปรีชา อัศวฤกษ์นันท์" ให้ตั้งวงร่วมกับ
"เสรี รุ่งสว่าง" ในชื่อวง เสรี-พุ่มพวง 

13.ปี 2527
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้ร่วมแสดงภาพยนต์กับ "ไกรสร แสงอนันต์" หรือ "ไกรสร ลีละเมฆินทร์" ก่อนคบหาและมีบุตรด้วยกัน 1 คน
คือ "ภัควรรธน์ ลีละเมฆินทร์" หรือ "น้องเพชร"
ที่ต่อมาก็ก้าวสู่วงการนักร้องลูกทุ่ง
ตามรอยเท้าของเธอ 

14.อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุด
คือ "อื้อฮือ หล่อจัง" โด่งดังมากในปี 2528
กับภาพลักษณ์ลูกทุ่งสมัยใหม่
แหวกตลาดเพลงลูกทุ่งไทย
และมีเพลงดังมากมาย
อย่าง กระแซะเข้ามาซิ เป็นเพลงขาย
สามารถทำยอดขายได้ถึง 1.5 ล้านตลับ
ซึ่งขณะนั้นราคาตลับละ 70 บาท คิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 105 ล้านบาทกันเลยทีเดียว 

15.ปี 2534
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" เริ่มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือ โรคแพ้ภูมิตนเอง ที่ทุกคนต่างสงสัย
ว่าโรคอะไรและมาจากสาเหตุใด
และปัจจุบันผู้คนยังเรียกโรคเอสแอลอี
ว่าโรคพุ่มพวง 

16.ไกรสร สามีเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
ให้พุ่มพวง และยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่
ให้กับพุ่มพวง ด้วยการนำวงดนตรีของพุ่มพวง
เปิดคอนเสิร์ตการกุศล หน้าพระพักตร์
พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ
(พระอิสริยยศขณะนั้น)
ที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี เมื่อปี 2529
ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ให้กับวงการลูกทุ่งไทย 

17.ปี 2534 
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ถือเป็นเกียรติสูงสุดอีกครั้งในชีวิต เพราะเธอได้เป็นผู้ขับร้องเพลง "ส้มตำ" เพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐา
ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
 
18.พุ่มพวง เป็นนักร้องลุกทุ่งหญิงคนเดียว
ที่เดินทางไปเปิดการแสดงที่สหรัฐอเมริกา
ตามคำเชิญของแฟนเพลงแดนไกลบ่อยที่สุด
สถิติจากร้านจำหน่ายเพลงของคนไทย
ในลอสแองเจลิส ปี 2533 - 34
แจ้งว่ามียอดจำหน่ายสูงสุดถึง 1 ล้านตลับ 

19.วันที่ 13 มี.ค. 2535 มีข่าวปรากฏ
ตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
มีปัญหารักร้าวกับไกรสร (สามี)
และอาการป่วยเป็นโรคไตขั้นรุนแรง
จนต้องเข้าโรงพยาบาล
 
20.วันที่ 20 มี.ค. 2535 "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน จ.จันทบุรี และย้ายไปที่โรงพยาบาลศิริราช
แพทย์ตรวจพบว่า เธอป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาการขั้นรุนแรง
ลุกลามไปถึงไต 

21.เวลา 20.55 น. ของคืนวันที่ 13 มิ.ย. 2535 "พุ่มพวง ดวงจันทร์" จากครอบครัว
แฟนเพลง และพวกเราคนไทยไปอย่างสงบ
ขณะที่เธอมีอายุเพียง 31 ปี
 
22.วันที่ 25 มิ.ย. 2535
เป็นวันที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ของพุ่มพวง ดวงจันทร์ "ราชินีเพลงลูกทุ่ง"
โดยงานจัดขึ้นที่ วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธี
มีประชาชนมาร่วมส่งราชินีลูกทุ่งนับแสนคน 

23.แม้ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" จะจากไป 
แต่แฟนเพลงยังคงคิดถึงเธอ บทเพลงของเธอยังคงขับขานผ่านรายการวิทยุ
ทั้งภาพเอฟเอ็มและเอเอ็มอยู่เสมอ
มีคนที่รักเธอได้พยายามรวบรวมชื่อเพลง
ผลงานของเธอไว้ ดังข้อมูลแจ้งว่า
บทเพลงที่ผึ้งร้องไว้มีมากกว่า 500 เพลง
ยังไม่นับรวมสมัยเริ่มเข้าวงการช่วงแรกๆ
อีกราว 300-400 เพลง
นั่นหมายความว่า นักร้องสาวบ้านนอกคนนี้
เธอร้องเพลงไว้ราวๆ 1,000 เพลง
 
24.หลังจาก "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้เสียชีวิตลง แฟนเพลง รวมถึงศิลปินอื่นๆ ที่นับถือ "แม่ผึ้ง"  และครอบครัวได้สร้างหุ่นขี้ผึ้งเป็นตัวแทนของเธอ
ปัจจุบันมีหุ่นรูปเหมือนของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" อยู่ 7 หุ่น
โดยตั้งอยู่ที่ วัดทับกระดานจำนวน 6 หุ่น และ
อีก 1 หุ่น อยู่ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ 

25.เรื่องราวของแม่ผึ้ง พุ่มพวง 
ไม่ได้มีแค่เรื่องร้องเพลงเท่านั้น แฟนเพลง 
และบรรดาคนรักการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง ก็มักเดินทางมาที่วัดทับกระดาน เพื่อขอเลขเด็ด หลายคนที่โชคดี
ก็กลับมาแก้บนด้วยของสวยๆ งามๆ
เช่น เสื้อผ้ารองเท้า โต๊ะเครื่องแป้ง เป็นต้น
 
26.แม้ "แม่ผึ้ง" พุ่มพวง จะไม่ได้รับเลือก
เป็นศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์
แต่เมื่อ วันที่ 15 สิงหาคม 2552
กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีมติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์
หรือรำพึง จิตรหาญ เป็น "ปริยศิลปิน"
ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน 

27.วันที่ 13 มิ.ย. ของทุก ๆ ปี 
สมาชิกครอบครัวจิตหาญ สามีและลูกชายคือน้องเพชร ทายาทของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" 
จะพร้อมใจกันจัดงานรำลึกการจากไปของเธอ ซึ่งในแต่ละปี นอกจากจะมีการทำบุญ และคอนเสิร์ตของบรรดาศิลปินที่รัก
และเคารพพุ่มพวงมาร่วมงานแล้ว ยังมีแฟนคลับที่เหนียวแน่นมาร่วมงานด้วยทุกปี 
 
28.วันที่ 13 มิ.ย. 2565 ปีนี้ 
ถือเป็นวาระครบรอบ 30 ปี
ที่ "แม่ผึ้ง" พุ่มพวง ดวงจัทร์ ราชินีลูกทุ่ง
ได้จากโลกนี้ไป
เชื่อว่าแฟนเพลงจะยังคงรัก
และคิดถึงเธอตลอดมาและตลอดไป

29.สำหรับพิธีการทำบุญอุทิศส่วนกุศล 
มีขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา (วันที่ 13 มิ.ย.นี้ ) 
เช่นเคย ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จะมีการสวด
เจริญพระพุทธมนต์ สวดมาติกา บังสุกุล 
ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์กว่า 100 รูป รวมทั้ง การมอบทุนการศึกษาของพุ่มพวง
ให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดี
และทอดผ้าป่าสามัคคีเหมือนเช่นทุกปี
ที่ได้ปฎิบัติสืบทอดผ่านมาเพื่อทำบุญให้กับเธอ

30.นอกจากที่วัดทับกระดาน 
ในปี 2565 น้องเพชร พุ่มพวง ลูกชาย และ 
นายไกรสร ยังจัดทำบุญ
ครบรอบ 30 ปี การเสียชีวิตของ พุ่มพวง
ที่วัดภาษี เอกมัยซอย 23 กรุงเทพฯ
ซึ่งปีนี้ จะมีการจัดพิธีแบบเรียบง่าย
เริ่มด้วยพิธีบวงสรวงในเวลา 09.09 น. จากนั้น เวลา 11.00 น. เป็นพิธีถวายภัตตาหารเพล
แต่ไม่มีคอนเสิร์ตเหมือนทุกปี
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่