ดินแดงค่ำนี้ ตัวแทนม็อบขอความร่วมมือ ‘อย่าใช้ความรุนแรง’ วอนผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3396664
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กลุ่มคนแดงปฏิวัติจัดกิจกรรมการชุมนุม
“ราษฎรไล่ตู่” โดยวางแผนเดินเท้าจากแยกด่วนดินแดงไปที่พักหลวงของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 ถ.วิภาวดีรังสิต (อ่านข่าว
‘ราษฎรไล่ตู่’ มาแล้ว รองโฆษกตร.รับ ‘ดินแดง’ เสี่ยงสุด เตือน ‘อย่าออกมาเอามันส์’ เค ร้อยล้าน ปรากฏตัว ก่อนถูกพาขึ้นรถ)
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อเวลา 18.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรไล่ลุง ประกอบด้วย กลุ่ม 14 ขุลพลคนของราษฎร lll , ทะลุแก๊สล่องนภา,เพื่อกัญปฏิวัติ และประชาชนทั่วไป ตั้งขบวน พร้อมโบกธงแสดงสัญลักษณ์ พร้อมชู 3 นิ้ว โดนตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์โดยการวิดพื้น อย่างไรก็ตาม หลังจากกลุ่มราษฎรไล่ลุงขยับเตรียมเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขยับตรึงกำลังให้เข้มขึ้นด้วยเช่นกัน
จากนั้น สถานการณ์ยังคงเป็นไปอย่างสงบ กระทั่งเวลาประมาณ 19.40 น. ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมประกาศผ่านโทรโข่งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าให้มีเหตุรุนแรงอย่างวานนี้ วอนผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องของท่านด้วย
โฆษกเพื่อไทย ห่วงจนท.ใช้ความรุนแรง จี้ถามทำตามหลักสากลหรือไม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7106342
โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกแถลงเป็นห่วงประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงปราบปราม จี้ตำรวจออกมาชี้แจง ว่าได้ดำเนินการ ตามหลักสากลหรือไม่
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของประชาชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 65 ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ว่า
เรากังวลใจจากการชุมนุมของประชาชน แต่กลับปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธรุนแรงปราบปรามประชาชน จึงเกิดคำถามว่าได้ดำเนินการตามหลักสากลหรือไม่ เราขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อประชาชนอย่างดีที่สุด
เพราะประชาชนเหล่านี้เพียงต้องการแสดงออกทางการเมือง ที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจงถึงเครื่องมือที่ใช้กับประชาชนว่ารุนแรงระดับใด เพราะสร้างความไม่สบายใจให้พรรคเพื่อไทย และประชาชนทั่วไป
‘ณัฐชา’ ลั่นซักฟอกครั้งสุดท้าย รบ.รักษาหายไม่ทันเลือกตั้ง เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ชิงยุบสภาก่อนถกเอเปค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3396104
‘ณัฐชา’ ลั่นซักฟอกครั้งสุดท้าย รบ.เจ็บสาหัส รักษาหายไม่ทันเลือกตั้ง เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ชิงยุบสภาก่อนถกเอเปค
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ รวม 10 คน จะมุ่งเป้าเรื่องใดเป็นพิเศษว่า จะอภิปรายผู้ที่เป็นนั่งร้านค้ำยันให้กับรัฐบาล พล.อ.
ประยุทธ์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการของรัฐ การเอื้อประโยชน์เรื่องของตำแหน่งทางการเมือง ถ้ารื้อนั่งร้านของพรรคร่วมรัฐบาลได้ พล.อ.ประยุทธ์คงจะอยู่ไม่ถึงการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค (APEC) ในช่วงปลายนี้แน่นอน อาจจะชิงยุบสภาก่อนด้วยซ้ำ
รอบนี้มีรายชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีมากกว่ารอบก่อนๆ รอบก่อนหน้าแทงไปที่หัวใจ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.
ประยุทธ์ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือพี่น้องกลุ่ม 3 ป. ที่สืบทอดอำนาจมา รอบนี้รู้ว่าแม้กลุ่ม 3 ป.จะโดนกระแสสังคมกดดันมากเพียงใด รวมทั้งมีความไม่ไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากแค่ไหน แต่กลุ่ม 3 ป.คงไม่สนใจว่าประชาชนเดือดร้อนมากแค่ไหน จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเท่าใด ฉะนั้น พรรคฝ่ายค้านจึงเลือกที่จะถอดสลักนั่งร้านที่ค้ำยัน กลุ่ม 3 ป. คือ พรรคร่วมรัฐบาล
แต่รอบนี้ส่วนตัวคิดว่าหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าแจกกล้วยจนสามารถผ่านไม่ไว้วางใจไปได้ แต่ก็อยู่ไม่ได้จนถึงสิ้นปีอย่างแน่นอน อาจจะต้องชิงยุบสภาก่อน
เมื่อถามย้ำว่ามีประเด็นอะไรเป็นพิเศษในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย นาย
ณัฐชากล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีที่มีชื่อเตรียมตัวไว้ เพราะขนาดรัฐมนตรี 2 คน ที่โดนชี้มูลเรื่องของที่ดิน อันนี้เป็นแค่เรื่องโหมโรง ไม่ต้องรอถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐมนตรีที่เหลืออยู่รับรองว่าเรื่องหนักกว่าแน่นอน ฉะนั้นอาจจะต้องส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดต่อ ในฐานการทำความผิดที่ต้องรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เป็นอยู่ ดูได้จากความหวาดกลัวของ พล.อ.
ประยุทธ์ที่ไม่กล้าปรับ ครม. ขนาดว่างอยู่ 2 ตำแหน่งยังไม่กล้าปรับ เพราะรู้ว่าไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากพอ พล.อ.
ประยุทธ์รู้ว่าถ้าเกิดปรับ ครม. นั่งร้านอาจจะพังลงมาได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่แตะต้องในส่วนนี้ถึงแม้ตำแหน่งรัฐมนตรีจะว่างอยู่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมุ่งเป้า 10 คนที่เป็นแกนหลักค้ำยัน พล.อ.
ประยุทธ์ รับรองว่า ครั้งนี้บาดเจ็บสาหัสแน่นอน
เมื่อถามว่าจะเน้นที่กลุ่ม 3 ป.เลยหรือไม่ นาย
ณัฐชากล่าวว่า การอภิปรายความล้มเหลวของกล่ม 3 ป.มีแน่นอน ทั้งความผิด รวมถึงความรู้สึกของประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ รอบนี้จะตีกว้าง คือองค์ประกอบของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำรัฐบาล อภิปรายครั้งนี้จึงสำคัญที่สุด เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายและเข้าใกล้การเลือกตั้งมากที่สุด มีผลต่อการเลือกตั้งของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าการอภิปรายจะเป็นบาดแผลต่อพรรคร่วมรัฐบาลจนส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นาย
ณัฐชากล่าวว่า ใช่ บาดแผลที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ต้องเปิดบาดแผลกว้างและรักษาไม่ทันช่วงหาเสียงอย่างแน่นอน
เมื่อถามกลุ่ม 16 และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) จะเป็นกลุ่มที่พลิกเกมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ นาย
ณัฐชากล่าวว่า ทั้งกลุ่ม 16 รวมถึง ร.อ.
ธรรมนัส เพิ่งโหวตสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรค ก.ก. คิดว่าเมื่อใกล้จะถึงการเลือกตั้ง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ทุกคนสังกัดพรรคการเมือง เป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เข้าใกล้การเลือกตั้งมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรค ศท. กลุ่ม 16 กลุ่มพรรคเล็ก การเข้ามาหรือการมีอยู่ของคุณในครั้งหน้า ขึ้นอยู่กับมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนที่มาจากการเลือกตั้ง การลงมติที่ใกล้การเลือกตั้งมากเท่าใด จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของ ส.ส.แต่ละคนว่าจะสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่าทำงานอย่างไรในสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่ามีฝ่ายรัฐบาลมาสอบถามประเด็นการอภิปราย หรือต่อรองให้ถอนรายชื่อผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้างหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ทุกครั้งก็มีตลอด ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรค ก.ก.จะไม่เปิดเผยว่าจะอภิปรายใครบ้าง และหัวข้อเป็นเรื่องอะไร เป็นมาตรฐานของพรรค ก.ก. ทุกครั้งที่ตนจะอภิปรายใครก็มีคนโทรมาถามตลอด แต่ไม่ได้บอกอะไรไป การทำงานของพรรคยืนยันว่าไม่มีการบอกข้อสอบก่อนแน่นอน
“ร้านโชห่วย”โอดซื้อสินค้าแพงแต่ขายเท่าเดิม
https://www.thansettakij.com/economy/528505
“ร้านโชห่วย”โอดซื้อสินค้าแพงแต่ขายเท่าเดิม อั้นไม่ไหวต้องปรับขึ้นบางรายการ อย่างเครื่องดื่มชูกำลังจากเดิมขาย12บาท ปรับเป็น14บาท เพราะราคาซื้อมาสูงขึ้น ขณะที่ร้านค้าส่งรับมาแพงขายถูกอยู่ไม่ได้ ด้านผู้บริโภคจี้รัฐเร่งหามาตรการพยุงค่าครองชีพให้ชัดเจนกว่านี้
สินค้าแพง ทั้งอุปโภคบริโภค เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยและอีกหลายประเทศที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน การขาดแคลนวัตถุดิบกระทบต่อการผลิตและจำหน่ายสินค้า ซึ่งแน่นอนว่า ราคาสินค้าที่ผู้ผลิตขอปรับขึ้น ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่โดยเฉพาะร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีก หรือร้านโชห่วยที่ต้องซื้อสินค้าเพื่อมาจำหน่ายต่อให้
กับผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าที่แพงขึ้นแต่ต้องขายราคาเท่าเดิม เนื่องจากสินค้าบางรายการ อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม เครื่องชูกำลัง ผงซักฟอกและอื่นๆที่ซื้อมาในราคาที่สูงขึ้นยังไม่สามารถปรับราคาได้ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องขายตามราคาเท่านั้น
“ฐานเศรษฐกิจ”ได้สำรวจราคาสินค้าในร้านค้าส่งและร้านค้าปลึก และประชาชนทั่วไปพบว่า สินค้าส่วนใหญ่ปรับราคาขึ้นไปแล้วบ้าง เช่น อาหารสำเร็จที่เดิมถุงละ30-40บาท มีการปรับราคา5-10บาท โดยร้านอาหารตามสั่งแจ้งว่าราคาก๊าชหุงต้มที่สูงถึงถังละ450บาทต่อ15กก. รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารบางอย่างก็ปรับตัวสูงขึ้น
เช่นเดียวกับร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแพงขึ้นแถบทุกอย่าง จากการสอบถามร้านค้าส่งใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย โดยเจ้าของร้านบอกว่า ราคาสินค้าปรับขึ้นแทบทุกอย่าง
ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำหวาน ของใช้ในบ้าน ซึ่งยอมรับว่าต้องปรับราคาขายส่งกับร้านค้าปลีกหรือร้านโชห่วยด้วยเช่นกันไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้ โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้นจะปรับขึ้นประมาณ10-20บาทต่อลัง
ขณะที้เจ้าของร้านค้าโชห่วยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาสินค้าปรับขึ้น อย่างเครื่องดื่มชูกำลังเดิมซื้อมาลังละ 220-230บาทขายเฉลี่ยขาวดละ10-12บาท แต่ตอนนี้ราคาซื้อต่อลัง ขยับมาเป็น260บาทต่อลัง ซึ่งจะต้องขายขวดละ14-15บาทต่อขวด ซื้อก็ต้องบอกลูกค้าล่วงหน้าว่าจะขายราคาใหม่ เพราะซื้อมาในราคา สูงขึ้น ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขายราคาหน้าซองคือ6บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่าสินค้าที่ซื้อมาขายแพงขึ้นทุกอย่างไม่ซื้อก็ไม่มีของขาย ซึ่งอยากให้รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเร่งด่วน เพราะของแพงแต่คนซื้อไม่มีเงิน ร้านค้าก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งคงต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นในบางรายการ
นอกจากนี้ยังได้สอบถามประชาชนทั่วไป ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแพงขึ้นเกือบทุกอย่าง ทั้งอาหารสด หมูสด ไก่สด อาหารสำเร็จรูปจากเดิมซื้อถุงละ30-40บาทตอนนี้ร้านค้าต่างของปรับขึ้นราคาถึงละ5-10บาทเพราะ ต้นทุนเพิ่มขึ้น อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องค่าครองชีพประชาชนมให้มากกว่านี้ และการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด หรืองานมหกรรมสินค้าลดราคา อาจจะช่วยได้เพียงระยะสั้นๆเท่านั้นแต่ในระยะยาวประชาชนเองยังต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงกว่ารายได้
JJNY : 5in1 ตัวแทนม็อบขอ‘อย่าใช้ความรุนแรง’│พท.ห่วงจนท.ใช้ความรุนแรง│ณัฐชาเชื่อชิงยุบสภา│“โชห่วย”โอด│ยูเครนลุ้นสถานะใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3396664
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กลุ่มคนแดงปฏิวัติจัดกิจกรรมการชุมนุม “ราษฎรไล่ตู่” โดยวางแผนเดินเท้าจากแยกด่วนดินแดงไปที่พักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งอยู่ภายในกรมทหารราบที่ 1 ถ.วิภาวดีรังสิต (อ่านข่าว ‘ราษฎรไล่ตู่’ มาแล้ว รองโฆษกตร.รับ ‘ดินแดง’ เสี่ยงสุด เตือน ‘อย่าออกมาเอามันส์’ เค ร้อยล้าน ปรากฏตัว ก่อนถูกพาขึ้นรถ)
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อเวลา 18.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรไล่ลุง ประกอบด้วย กลุ่ม 14 ขุลพลคนของราษฎร lll , ทะลุแก๊สล่องนภา,เพื่อกัญปฏิวัติ และประชาชนทั่วไป ตั้งขบวน พร้อมโบกธงแสดงสัญลักษณ์ พร้อมชู 3 นิ้ว โดนตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์โดยการวิดพื้น อย่างไรก็ตาม หลังจากกลุ่มราษฎรไล่ลุงขยับเตรียมเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขยับตรึงกำลังให้เข้มขึ้นด้วยเช่นกัน
จากนั้น สถานการณ์ยังคงเป็นไปอย่างสงบ กระทั่งเวลาประมาณ 19.40 น. ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมประกาศผ่านโทรโข่งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าให้มีเหตุรุนแรงอย่างวานนี้ วอนผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องของท่านด้วย
โฆษกเพื่อไทย ห่วงจนท.ใช้ความรุนแรง จี้ถามทำตามหลักสากลหรือไม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7106342
โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกแถลงเป็นห่วงประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงปราบปราม จี้ตำรวจออกมาชี้แจง ว่าได้ดำเนินการ ตามหลักสากลหรือไม่
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของประชาชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 65 ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ว่า
เรากังวลใจจากการชุมนุมของประชาชน แต่กลับปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธรุนแรงปราบปรามประชาชน จึงเกิดคำถามว่าได้ดำเนินการตามหลักสากลหรือไม่ เราขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อประชาชนอย่างดีที่สุด
เพราะประชาชนเหล่านี้เพียงต้องการแสดงออกทางการเมือง ที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ออกมาชี้แจงถึงเครื่องมือที่ใช้กับประชาชนว่ารุนแรงระดับใด เพราะสร้างความไม่สบายใจให้พรรคเพื่อไทย และประชาชนทั่วไป
‘ณัฐชา’ ลั่นซักฟอกครั้งสุดท้าย รบ.รักษาหายไม่ทันเลือกตั้ง เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ชิงยุบสภาก่อนถกเอเปค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3396104
‘ณัฐชา’ ลั่นซักฟอกครั้งสุดท้าย รบ.เจ็บสาหัส รักษาหายไม่ทันเลือกตั้ง เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ชิงยุบสภาก่อนถกเอเปค
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ รวม 10 คน จะมุ่งเป้าเรื่องใดเป็นพิเศษว่า จะอภิปรายผู้ที่เป็นนั่งร้านค้ำยันให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการของรัฐ การเอื้อประโยชน์เรื่องของตำแหน่งทางการเมือง ถ้ารื้อนั่งร้านของพรรคร่วมรัฐบาลได้ พล.อ.ประยุทธ์คงจะอยู่ไม่ถึงการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค (APEC) ในช่วงปลายนี้แน่นอน อาจจะชิงยุบสภาก่อนด้วยซ้ำ
รอบนี้มีรายชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีมากกว่ารอบก่อนๆ รอบก่อนหน้าแทงไปที่หัวใจ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือพี่น้องกลุ่ม 3 ป. ที่สืบทอดอำนาจมา รอบนี้รู้ว่าแม้กลุ่ม 3 ป.จะโดนกระแสสังคมกดดันมากเพียงใด รวมทั้งมีความไม่ไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากแค่ไหน แต่กลุ่ม 3 ป.คงไม่สนใจว่าประชาชนเดือดร้อนมากแค่ไหน จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเท่าใด ฉะนั้น พรรคฝ่ายค้านจึงเลือกที่จะถอดสลักนั่งร้านที่ค้ำยัน กลุ่ม 3 ป. คือ พรรคร่วมรัฐบาล
แต่รอบนี้ส่วนตัวคิดว่าหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าแจกกล้วยจนสามารถผ่านไม่ไว้วางใจไปได้ แต่ก็อยู่ไม่ได้จนถึงสิ้นปีอย่างแน่นอน อาจจะต้องชิงยุบสภาก่อน
เมื่อถามย้ำว่ามีประเด็นอะไรเป็นพิเศษในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย นายณัฐชากล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีที่มีชื่อเตรียมตัวไว้ เพราะขนาดรัฐมนตรี 2 คน ที่โดนชี้มูลเรื่องของที่ดิน อันนี้เป็นแค่เรื่องโหมโรง ไม่ต้องรอถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐมนตรีที่เหลืออยู่รับรองว่าเรื่องหนักกว่าแน่นอน ฉะนั้นอาจจะต้องส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดต่อ ในฐานการทำความผิดที่ต้องรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เป็นอยู่ ดูได้จากความหวาดกลัวของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่กล้าปรับ ครม. ขนาดว่างอยู่ 2 ตำแหน่งยังไม่กล้าปรับ เพราะรู้ว่าไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากพอ พล.อ.ประยุทธ์รู้ว่าถ้าเกิดปรับ ครม. นั่งร้านอาจจะพังลงมาได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่แตะต้องในส่วนนี้ถึงแม้ตำแหน่งรัฐมนตรีจะว่างอยู่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมุ่งเป้า 10 คนที่เป็นแกนหลักค้ำยัน พล.อ.ประยุทธ์ รับรองว่า ครั้งนี้บาดเจ็บสาหัสแน่นอน
เมื่อถามว่าจะเน้นที่กลุ่ม 3 ป.เลยหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า การอภิปรายความล้มเหลวของกล่ม 3 ป.มีแน่นอน ทั้งความผิด รวมถึงความรู้สึกของประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ รอบนี้จะตีกว้าง คือองค์ประกอบของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำรัฐบาล อภิปรายครั้งนี้จึงสำคัญที่สุด เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายและเข้าใกล้การเลือกตั้งมากที่สุด มีผลต่อการเลือกตั้งของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าการอภิปรายจะเป็นบาดแผลต่อพรรคร่วมรัฐบาลจนส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ใช่ บาดแผลที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ต้องเปิดบาดแผลกว้างและรักษาไม่ทันช่วงหาเสียงอย่างแน่นอน
เมื่อถามกลุ่ม 16 และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) จะเป็นกลุ่มที่พลิกเกมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ทั้งกลุ่ม 16 รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส เพิ่งโหวตสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรค ก.ก. คิดว่าเมื่อใกล้จะถึงการเลือกตั้ง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ทุกคนสังกัดพรรคการเมือง เป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เข้าใกล้การเลือกตั้งมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรค ศท. กลุ่ม 16 กลุ่มพรรคเล็ก การเข้ามาหรือการมีอยู่ของคุณในครั้งหน้า ขึ้นอยู่กับมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนที่มาจากการเลือกตั้ง การลงมติที่ใกล้การเลือกตั้งมากเท่าใด จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของ ส.ส.แต่ละคนว่าจะสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่าทำงานอย่างไรในสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่ามีฝ่ายรัฐบาลมาสอบถามประเด็นการอภิปราย หรือต่อรองให้ถอนรายชื่อผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้างหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ทุกครั้งก็มีตลอด ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรค ก.ก.จะไม่เปิดเผยว่าจะอภิปรายใครบ้าง และหัวข้อเป็นเรื่องอะไร เป็นมาตรฐานของพรรค ก.ก. ทุกครั้งที่ตนจะอภิปรายใครก็มีคนโทรมาถามตลอด แต่ไม่ได้บอกอะไรไป การทำงานของพรรคยืนยันว่าไม่มีการบอกข้อสอบก่อนแน่นอน
“ร้านโชห่วย”โอดซื้อสินค้าแพงแต่ขายเท่าเดิม
https://www.thansettakij.com/economy/528505
“ร้านโชห่วย”โอดซื้อสินค้าแพงแต่ขายเท่าเดิม อั้นไม่ไหวต้องปรับขึ้นบางรายการ อย่างเครื่องดื่มชูกำลังจากเดิมขาย12บาท ปรับเป็น14บาท เพราะราคาซื้อมาสูงขึ้น ขณะที่ร้านค้าส่งรับมาแพงขายถูกอยู่ไม่ได้ ด้านผู้บริโภคจี้รัฐเร่งหามาตรการพยุงค่าครองชีพให้ชัดเจนกว่านี้
สินค้าแพง ทั้งอุปโภคบริโภค เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยและอีกหลายประเทศที่ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน การขาดแคลนวัตถุดิบกระทบต่อการผลิตและจำหน่ายสินค้า ซึ่งแน่นอนว่า ราคาสินค้าที่ผู้ผลิตขอปรับขึ้น ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่โดยเฉพาะร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีก หรือร้านโชห่วยที่ต้องซื้อสินค้าเพื่อมาจำหน่ายต่อให้
กับผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าที่แพงขึ้นแต่ต้องขายราคาเท่าเดิม เนื่องจากสินค้าบางรายการ อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม เครื่องชูกำลัง ผงซักฟอกและอื่นๆที่ซื้อมาในราคาที่สูงขึ้นยังไม่สามารถปรับราคาได้ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องขายตามราคาเท่านั้น
“ฐานเศรษฐกิจ”ได้สำรวจราคาสินค้าในร้านค้าส่งและร้านค้าปลึก และประชาชนทั่วไปพบว่า สินค้าส่วนใหญ่ปรับราคาขึ้นไปแล้วบ้าง เช่น อาหารสำเร็จที่เดิมถุงละ30-40บาท มีการปรับราคา5-10บาท โดยร้านอาหารตามสั่งแจ้งว่าราคาก๊าชหุงต้มที่สูงถึงถังละ450บาทต่อ15กก. รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารบางอย่างก็ปรับตัวสูงขึ้น
เช่นเดียวกับร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแพงขึ้นแถบทุกอย่าง จากการสอบถามร้านค้าส่งใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย โดยเจ้าของร้านบอกว่า ราคาสินค้าปรับขึ้นแทบทุกอย่าง
ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำหวาน ของใช้ในบ้าน ซึ่งยอมรับว่าต้องปรับราคาขายส่งกับร้านค้าปลีกหรือร้านโชห่วยด้วยเช่นกันไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้ โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้นจะปรับขึ้นประมาณ10-20บาทต่อลัง
ขณะที้เจ้าของร้านค้าโชห่วยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าราคาสินค้าปรับขึ้น อย่างเครื่องดื่มชูกำลังเดิมซื้อมาลังละ 220-230บาทขายเฉลี่ยขาวดละ10-12บาท แต่ตอนนี้ราคาซื้อต่อลัง ขยับมาเป็น260บาทต่อลัง ซึ่งจะต้องขายขวดละ14-15บาทต่อขวด ซื้อก็ต้องบอกลูกค้าล่วงหน้าว่าจะขายราคาใหม่ เพราะซื้อมาในราคา สูงขึ้น ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขายราคาหน้าซองคือ6บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่าสินค้าที่ซื้อมาขายแพงขึ้นทุกอย่างไม่ซื้อก็ไม่มีของขาย ซึ่งอยากให้รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเร่งด่วน เพราะของแพงแต่คนซื้อไม่มีเงิน ร้านค้าก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งคงต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นในบางรายการ
นอกจากนี้ยังได้สอบถามประชาชนทั่วไป ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ของแพงขึ้นเกือบทุกอย่าง ทั้งอาหารสด หมูสด ไก่สด อาหารสำเร็จรูปจากเดิมซื้อถุงละ30-40บาทตอนนี้ร้านค้าต่างของปรับขึ้นราคาถึงละ5-10บาทเพราะ ต้นทุนเพิ่มขึ้น อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องค่าครองชีพประชาชนมให้มากกว่านี้ และการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด หรืองานมหกรรมสินค้าลดราคา อาจจะช่วยได้เพียงระยะสั้นๆเท่านั้นแต่ในระยะยาวประชาชนเองยังต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงกว่ารายได้