กระทู้นี้ค่อนข้างยาวนะคะ และอันนี้คือกระทู้แรกที่หนูเขียนนะคะ ผิดพลาดอะไรขออภัยจิงๆค่ะ (ขอระบายนิสนุง😅)
คือหนูอยากจะสอบถามอ่ะค่ะว่าเพื่อนๆพี่ๆเคยอึดอัดใจกับการที่ต้องอยู่หรือใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนบ้างมั้ยคะ? แล้วถ้าเคยตอนนั้นมีวิธีจัดการความรู้สึกนี้ยังไงกันบ้าง แล้วก็ หนูอยากจะถามเพื่อนๆพี่ๆนิดนึงค่ะว่าถ้าเจอแบบนี้จะทำยังไงดี ไม่ให้อึดอัดใจจนไม่ไหว
หนูขอเล่าก่อนนะคะว่าที่มาที่ไปก่อนเรามาอยู่กับรูมเมทคนนี้ได้ยังไง (เราเรียนอยู่มหาลัยนะคะ)
เริ่มจากตอนแรกเลยก็คือ เราเช่าหอพักอยู่คนเดียวมาก่อนซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากเลยค่ะ เพราะเราอยู่คนเดียวอิสระมากกก แต่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับค่าไฟเพราะหอพัก ค่าไฟก็จะแพงกว่าคอนโด ซึ่งอยู่ไปเราเริ่มไม่ไหวกับค่าไฟเพราะแค่ค่าห้องก็หกพันแล้ว ค่าไฟก็เคยพุ่งถึง สี่พันกว่า เราเลยคุยกับผู้ปกครองว่าเราอยากย้ายนะไม่ไหวจิงๆ ซึ่งผู้ปกครองเราก็ให้ค่ะ ต่อมาเราก็มาคุยๆกับเพื่อนในกลุ่มเราดูซึ่งเรารู้จักกันแค่ 4-5 เดือนเองค่ะ เพราะเพิ่งหาเพื่อนได้ตอนไปที่ม.(ช่วงโควิดเรียนออนไลน์😅) เราก็คุยกันถูกคออยู่นะคะ เลยคิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกันได้ ประกอบกับตอนนั้นเพื่อนคนนี้สัญญาเช่าที่คอนโดก็หมดแล้ว เราเลยตัดสินใจมาเป็นเมทกับคนนี้ค่ะ ซึ่งห้องก็เป็นแบบ 2 ห้องนอน(43ตรม.) ห้องราคา 9,000฿ ตกคนละแค่ 4,500 แต่ว่าก็ค่อนข้างที่จะแคบมากๆเลยค่ะ ทางเดินในห้องนอนแทบไม่มีเลยย แต่เราก็คิดว่าเราอยู่ได้แน่ๆเพราะห้องเก่าเราก็ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่นัก🤣 และตอนก่อนจะย้ายเพื่อนคนนี้ก็ดูเร่งเราเป็นพิเศษเลยค่ะแค่เราก็เข้าใจนะคะ เพราะเขาหมดสัญญาเช่าห้องแล้ว ทำให้ช่วงนั้นเราหัวหมุนเลยค่ะเพราะย้ายกะทันหันมากๆ ทั้งที่หอพักยังไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ของก็ยังไม่ได้เก็บ ตัวเราก็มีน้องเหมียวต้องดูแล ปวดหัวสุดๆ แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะแอบเสียดายเงินค่ามัดจำที่หอพักเพราะเราอยู่ไม่ถึงกำหนดอีกทั้งย้ายกะทันหันยังต้องเสียเงินค่าห้องค่าไฟให้หออีก เสียดายเงินมาก😢
พอจบเรื่องที่หอพัก เรื่องเก็บของไม่ใช่ปัญหาค่ะเราเก็บได้สบายย😁 แต่มาถึงเรื่องค่ามัดจำห้องใหม่ซึ่งเป็นคอนโด รูมเมทคนนี้มีปัญหาด้านการเงินค่ะ พ่อเราสงสารเพราะเขาไม่มีพ่อแม่ดูแลเลยบอกว่าจะออกค่ามัดจำห้องให้ก่อนแล้วค่อยคืนพ่อเรา ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยนะคะแต่ก็สงสารเพื่อนก็เลยยอมๆไปค่ะ พอถึงวันที่เข้ามาอยู่ วันแรกเรารู้ปกติค่ะแต่พอมาวันหลังๆเราเริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะเอาจิงๆเราแทบไม่ได้คุยอะไรกันสักเท่าไหร่เลยค่ะ ปกติเราเป็นคนที่คุยเก่งนะคะ และถึงแม้ว่าจะเป็น 2 ห้องนอน แต่ห้องที่นี่แปลกค่ะ เพราะมีหน้ามากั้นตรงกลางนะหว่างห้องทำให้เปิดหน้าเข้าหากันได้ ทำให้เวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวแต่ยังดีที่มีสติ๊กเกอร์สีดำแปะอยู่ทำให้ไม่ได้เห็นหน้ากันจะๆ
แต่เราก็มีปัญหาที่ดูแล้วจะแก้ไขไม่ได้ค่ะ ก็คือรูมเมทเรากรนเสียงดังมากๆ ซึ่งไม่ว่าจะนอนตะแคงก็ไม่หยุดกรนแม้แต่น้อย และใช่ค่ะ…เสียงมันก็มาถึงห้องเราไม่ได้ดังมากแต่เราก็ได้ยินเลยอ่ะค่ะ ซึ่งเราเคยบอกเชาไปแล้วแต่มันก็แก้ไขไม่ได้เลยค่ะ เพราะเขาก็เป็นคนที่อ้วนมาก การกรนเลยแก้ไขได้ยากมากๆยกเว้นไปหาหมอ มันก็สร้างความรำคาญให้เรานะคะ บางทีมันดังมากจนเราต้องใส่หูฟังนอนเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อ่า😥
เรื่องนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยดีนะคะ ด้วยความที่เมทเราค่อนข้างที่จะอ้วน ทำให้เขามีกลิ่นตัวที่แรงมากๆเลยค่ะ ทุกครั้งที่เขาเหงื่อออกคือ เราไม่ไหวเลยค่ะ ขนาดเปิดแอร์ก็ยังเอาไม่อยู่ ทำให้เขาต้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนค่ะ เพราะเขาก็ไม่มีพัดลม ซึ่งเราก็แอบกังวลนิดๆว่าเดือนนี้ค่าไฟจะเท่าไหร่น้า😅 ถึงแม้จะเป็นค่าไฟบ้านแต่เปิดทั้งวันแบบนี้ก็ไม่ได้เด้อ เอาจิงๆไม่กล้าบอกเขานะคะว่าเขากลิ่นตัวแรงมากๆ เพราะเราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่เดือนเองยังไม่ค่อยสนิทกันด้วยซ้ำ
มาอีกเรื่องนึงค่ะ อย่างที่เราบอกตอนแรกนะคะว่ารูมเมทมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้เขาต้องทำงานค่ะ และเขาก็ทำงานขายอาหารในคอนโดค่ะ ก็คือทำอาหารขายให้ลูกบ้านในคอนโด (ขายยำค่ะมีแค่ยำมาม่ากับวุ้นเส้น) ซึ่งเขาก็ใช้เตาไฟฟ้าค่ะ ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าเตาไฟฟ้ากินไฟมากเอาเรื่อง🤣 แล้วเวลาทำก็ทำในห้องนี่แหละค่ะ แล้วก็จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งอาหารให้ลูกค้า ซึ่งเวลาที่เขาเปิดร้านก็คือตั้งแต่ 6โมงจนถึงเที่ยงคืน ตี1 เลยค่ะ ส่วนตัวเราเป็นคนนอนดึกอยู่แล้วเลยคิดว่าไม่น่าเป็นไร แต่บางทีวันไหนที่เราอยากอยู่เงียบๆ กลางคืนก็จะได้ยินเสียงทำอาหาร เสียงเปิดปิดประตูอยู่หลายครั้ง เรารำคาญตรงนี้มากๆ เราก็เข้าใจว่าเขามีภาระต้องดูแลตัวเองให้รอด ถึงตรงนี้เราก็อยากย้อนเวลาบอกตัวเองว่าเราคิดผิดมากๆ อยู่คนเดียวก็ดีอยู่แล้ว🥲
**เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียง 20 วันเท่านั้นค่ะ ทั้งเรื่องย้ายหอออกและเข้า หนูย้ายมาคอนโดกับเขาแค่อาทิตย์เดียวเอง แค่นี้หนูก็อึดอัดมากค่ะ จะย้ายห้องก็ไม่ได้พ่อหนูก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น😢**
รบกวนเพื่อนๆพี่ๆแนะนำหนูได้เลยนะคะ แต่อย่าซ้ำเติมหนูเลยน้าหนูตัดสินใจผิดจิงๆค่ะ🙏😢
อึดอัดใจกับการอยู่กับรูมเมทมาก อยากสอบถาม+ระบายหน่อยค่ะ
คือหนูอยากจะสอบถามอ่ะค่ะว่าเพื่อนๆพี่ๆเคยอึดอัดใจกับการที่ต้องอยู่หรือใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนบ้างมั้ยคะ? แล้วถ้าเคยตอนนั้นมีวิธีจัดการความรู้สึกนี้ยังไงกันบ้าง แล้วก็ หนูอยากจะถามเพื่อนๆพี่ๆนิดนึงค่ะว่าถ้าเจอแบบนี้จะทำยังไงดี ไม่ให้อึดอัดใจจนไม่ไหว
หนูขอเล่าก่อนนะคะว่าที่มาที่ไปก่อนเรามาอยู่กับรูมเมทคนนี้ได้ยังไง (เราเรียนอยู่มหาลัยนะคะ)
เริ่มจากตอนแรกเลยก็คือ เราเช่าหอพักอยู่คนเดียวมาก่อนซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากเลยค่ะ เพราะเราอยู่คนเดียวอิสระมากกก แต่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับค่าไฟเพราะหอพัก ค่าไฟก็จะแพงกว่าคอนโด ซึ่งอยู่ไปเราเริ่มไม่ไหวกับค่าไฟเพราะแค่ค่าห้องก็หกพันแล้ว ค่าไฟก็เคยพุ่งถึง สี่พันกว่า เราเลยคุยกับผู้ปกครองว่าเราอยากย้ายนะไม่ไหวจิงๆ ซึ่งผู้ปกครองเราก็ให้ค่ะ ต่อมาเราก็มาคุยๆกับเพื่อนในกลุ่มเราดูซึ่งเรารู้จักกันแค่ 4-5 เดือนเองค่ะ เพราะเพิ่งหาเพื่อนได้ตอนไปที่ม.(ช่วงโควิดเรียนออนไลน์😅) เราก็คุยกันถูกคออยู่นะคะ เลยคิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกันได้ ประกอบกับตอนนั้นเพื่อนคนนี้สัญญาเช่าที่คอนโดก็หมดแล้ว เราเลยตัดสินใจมาเป็นเมทกับคนนี้ค่ะ ซึ่งห้องก็เป็นแบบ 2 ห้องนอน(43ตรม.) ห้องราคา 9,000฿ ตกคนละแค่ 4,500 แต่ว่าก็ค่อนข้างที่จะแคบมากๆเลยค่ะ ทางเดินในห้องนอนแทบไม่มีเลยย แต่เราก็คิดว่าเราอยู่ได้แน่ๆเพราะห้องเก่าเราก็ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่นัก🤣 และตอนก่อนจะย้ายเพื่อนคนนี้ก็ดูเร่งเราเป็นพิเศษเลยค่ะแค่เราก็เข้าใจนะคะ เพราะเขาหมดสัญญาเช่าห้องแล้ว ทำให้ช่วงนั้นเราหัวหมุนเลยค่ะเพราะย้ายกะทันหันมากๆ ทั้งที่หอพักยังไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ของก็ยังไม่ได้เก็บ ตัวเราก็มีน้องเหมียวต้องดูแล ปวดหัวสุดๆ แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะแอบเสียดายเงินค่ามัดจำที่หอพักเพราะเราอยู่ไม่ถึงกำหนดอีกทั้งย้ายกะทันหันยังต้องเสียเงินค่าห้องค่าไฟให้หออีก เสียดายเงินมาก😢
พอจบเรื่องที่หอพัก เรื่องเก็บของไม่ใช่ปัญหาค่ะเราเก็บได้สบายย😁 แต่มาถึงเรื่องค่ามัดจำห้องใหม่ซึ่งเป็นคอนโด รูมเมทคนนี้มีปัญหาด้านการเงินค่ะ พ่อเราสงสารเพราะเขาไม่มีพ่อแม่ดูแลเลยบอกว่าจะออกค่ามัดจำห้องให้ก่อนแล้วค่อยคืนพ่อเรา ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยนะคะแต่ก็สงสารเพื่อนก็เลยยอมๆไปค่ะ พอถึงวันที่เข้ามาอยู่ วันแรกเรารู้ปกติค่ะแต่พอมาวันหลังๆเราเริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะเอาจิงๆเราแทบไม่ได้คุยอะไรกันสักเท่าไหร่เลยค่ะ ปกติเราเป็นคนที่คุยเก่งนะคะ และถึงแม้ว่าจะเป็น 2 ห้องนอน แต่ห้องที่นี่แปลกค่ะ เพราะมีหน้ามากั้นตรงกลางนะหว่างห้องทำให้เปิดหน้าเข้าหากันได้ ทำให้เวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวแต่ยังดีที่มีสติ๊กเกอร์สีดำแปะอยู่ทำให้ไม่ได้เห็นหน้ากันจะๆ
แต่เราก็มีปัญหาที่ดูแล้วจะแก้ไขไม่ได้ค่ะ ก็คือรูมเมทเรากรนเสียงดังมากๆ ซึ่งไม่ว่าจะนอนตะแคงก็ไม่หยุดกรนแม้แต่น้อย และใช่ค่ะ…เสียงมันก็มาถึงห้องเราไม่ได้ดังมากแต่เราก็ได้ยินเลยอ่ะค่ะ ซึ่งเราเคยบอกเชาไปแล้วแต่มันก็แก้ไขไม่ได้เลยค่ะ เพราะเขาก็เป็นคนที่อ้วนมาก การกรนเลยแก้ไขได้ยากมากๆยกเว้นไปหาหมอ มันก็สร้างความรำคาญให้เรานะคะ บางทีมันดังมากจนเราต้องใส่หูฟังนอนเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อ่า😥
เรื่องนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยดีนะคะ ด้วยความที่เมทเราค่อนข้างที่จะอ้วน ทำให้เขามีกลิ่นตัวที่แรงมากๆเลยค่ะ ทุกครั้งที่เขาเหงื่อออกคือ เราไม่ไหวเลยค่ะ ขนาดเปิดแอร์ก็ยังเอาไม่อยู่ ทำให้เขาต้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนค่ะ เพราะเขาก็ไม่มีพัดลม ซึ่งเราก็แอบกังวลนิดๆว่าเดือนนี้ค่าไฟจะเท่าไหร่น้า😅 ถึงแม้จะเป็นค่าไฟบ้านแต่เปิดทั้งวันแบบนี้ก็ไม่ได้เด้อ เอาจิงๆไม่กล้าบอกเขานะคะว่าเขากลิ่นตัวแรงมากๆ เพราะเราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่เดือนเองยังไม่ค่อยสนิทกันด้วยซ้ำ
มาอีกเรื่องนึงค่ะ อย่างที่เราบอกตอนแรกนะคะว่ารูมเมทมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้เขาต้องทำงานค่ะ และเขาก็ทำงานขายอาหารในคอนโดค่ะ ก็คือทำอาหารขายให้ลูกบ้านในคอนโด (ขายยำค่ะมีแค่ยำมาม่ากับวุ้นเส้น) ซึ่งเขาก็ใช้เตาไฟฟ้าค่ะ ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าเตาไฟฟ้ากินไฟมากเอาเรื่อง🤣 แล้วเวลาทำก็ทำในห้องนี่แหละค่ะ แล้วก็จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งอาหารให้ลูกค้า ซึ่งเวลาที่เขาเปิดร้านก็คือตั้งแต่ 6โมงจนถึงเที่ยงคืน ตี1 เลยค่ะ ส่วนตัวเราเป็นคนนอนดึกอยู่แล้วเลยคิดว่าไม่น่าเป็นไร แต่บางทีวันไหนที่เราอยากอยู่เงียบๆ กลางคืนก็จะได้ยินเสียงทำอาหาร เสียงเปิดปิดประตูอยู่หลายครั้ง เรารำคาญตรงนี้มากๆ เราก็เข้าใจว่าเขามีภาระต้องดูแลตัวเองให้รอด ถึงตรงนี้เราก็อยากย้อนเวลาบอกตัวเองว่าเราคิดผิดมากๆ อยู่คนเดียวก็ดีอยู่แล้ว🥲
**เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียง 20 วันเท่านั้นค่ะ ทั้งเรื่องย้ายหอออกและเข้า หนูย้ายมาคอนโดกับเขาแค่อาทิตย์เดียวเอง แค่นี้หนูก็อึดอัดมากค่ะ จะย้ายห้องก็ไม่ได้พ่อหนูก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น😢**
รบกวนเพื่อนๆพี่ๆแนะนำหนูได้เลยนะคะ แต่อย่าซ้ำเติมหนูเลยน้าหนูตัดสินใจผิดจิงๆค่ะ🙏😢