พอดีเห็นว่า ผมน่าจะเอารีวิวซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ที่เพิ่งฉายจบ ที่ลงไว้ในกระทู้รวม
https://ppantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ

รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 123 Going to you at a speed of 493km มี 16 EP EP ละประมาณ 60 นาที / Disney+

ได้ข่าวว่าจะมีซีรีส์เกี่ยวกับแบดมินตัน ที่พัคจูฮยอน นางเอกฝีมือจัดจ้านแต่อาภัพพระเอกจะเล่นคู่กับ แชจงฮย็อบ ซึ่งดูจากแนวแล้วก็คงไม่อาภัพอีกรอบหรอกน่า รวมถึงผมเป็นคนเล่นแบดมินตัน และดูการแข่งขันแบดมินตันเป็นประจำ ก็เลยอยากรู้ว่าเรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ส่วน Racket Boys ซีรีส์แบดมินตันเรื่องก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ดู55

แต่พอชื่อเรื่องออกมาเท่านั้นแหล่ะ ????? นี่คือชื่อซีรีส์เรอะ! "Going to you at a speed of 493km" ตั้งชื่อบ้าบออะไรกัน ทั้งที่เดิมซีรีส์เรื่องนี้เอามาจากนิยายญี่ปุ่นชื่อ Love All Play ซึ่งชื่อนี้ก็ดี ไม่รู้อะไรดลใจให้ตั้งชื่อแปลกประหลาดขนาดนั้น

OK พอมาดูที่มาของ 493 km น่าจะหมายถึงความเร็วสถิติโลกของลูกตบของแบดมินตันที่ 493 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น่าจะมาจากการพยายามทำลายสถิติโลกในปี 2013 ของทาง Yonex ซึ่งไม่ใช่การแข่งขันจริง สถิตินี้ทำไว้โดย Tan Boon Hoeng ชาวมาเลเซีย ดูได้จากที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=7C56kivaOV4 ส่วนสถิติโลกของลูกตบที่เกิดขึ้นในการแข่งขันจริงนั้นเกิดชึ้นในปี 2017 โดย Mads Pieler Kolding ชาวเดนมาร์ค ที่ความเร็ว 426 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

จริงๆ ยอมรับว่ากลัวที่จะดูซีรีส์กีฬาที่รู้จักดีแบบแบดมินตัน เพราะคงไม่เหมือนตอนดู Twenty-Five Twenty-One ที่แน่นอนว่าผมไม่รู้หรอกว่าฟันดาบท่าทางที่แสดงถูกต้อง 100% หรือไม่ แต่แบดมินตันผมพอจะดูรู้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้พยายามใช้การตัดต่อช่วย โดยคนดูแทบจะไม่เห็นลูกที่ออกจากหน้าไม้ของนักแสดง ลูกที่เคลื่อนที่น่าจะใช้ stand-in ที่เป็นนักกีฬาเป็นคนตี ดูแล้วก็พยายามทำใจ แต่เพื่อนในก๊วนแบดผมบอกว่าทนดูไม่ไหว มันไม่สมจริง55

เนื้อเรื่องช่วงแรกของเรื่องนี้สนุกดีนะครับ มันเป็นดราม่าผสมความหวานกุ๊กกิ๊ก แต่ในการแข่งขันก็สนุกตื่นเต้นพอใช้ได้ ช่วงแรกนี่ดูแล้วติดพอสมควรเลยหล่ะ แต่ที่แน่ๆ คนดูจะได้รู้อยู่แล้วว่า ดราม่าอันหนักหน่วงที่เรื่องนี้ปูเรื่องไว้ยังไม่มาถึง

พอช่วงกลางเรื่อง มันดราม่าจัดมากๆครับ เป็นแนวกด เหยียบ กระทืบซ้ำ กระหน่ำซ้ำเติมความรักของคู่พระเอกนางเอกแบบเอาตาย มันลากยาวนานมากด้วยครับ ผมเชื่อว่าถึงช่วงนี้หลายคนอาจตัดสินใจเทเรื่องนี้ไปเลยเพราะไม่เห็นเขาจะตีแบดกันแล้ว แน่นอนว่าคนดูจะไม่เห็นทางออกของปัญหาใดๆได้เลย

ช่วงท้าย ไม่รู้ว่าคนเขียนบทกับผู้กำกับเขาชอบความทรมานหรือไงก็ไม่ทราบ แก้ปัญหาที่ 1 อันที่ 2 ก็มา มาเรื่อยๆจนแทบจะถึงตอนจบ คือคนดูต้องมีความอดทนสูงมากทีเดียวที่จะดูให้จบ ถึงจะเริ่มกลับมาตีแบดกัน ก็มียังปัญหาตามมาซ้ำเติมอีก กว่าจะดูแล้วรู้สึกเหมือนหายใจสะดวกขึ้น ไม่โดนจับกดน้ำ ก็ตอนสุดท้ายนั่นแหล่ะ

นี่คือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจในบทของเรื่องนี้ครับ เรื่องนี้มีประเด็นทางกีฬาที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการพูดถึงแบดมินตันประเภทคู่ผสม ซึ่งแทบจะเป็นกีฬาคู่ชายหญิงไม่กี่ชนิดบนโลกที่ได้รับความนิยม ที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่นอกจากเป็นคู่เล่น แล้วถ้ามันเลยเถิดไปจนเป็นคู่รัก มันจะเป็นอย่างไร รวมถึงประเด็นนักกีฬาอาชีพระดับสโมสร ที่เล่นเพื่อเงินเดือน การบาดเจ็บของนักกีฬา รวมทั้งการตัดสินใจเลิกเล่นของนักกีฬา เป็นประเด็นที่น่าสนใจทั้งนั้น

แต่กลับเอาเวลาส่วนใหญ่ไปขยี้ปมปัญหาหลักของเรื่อง บอกเลยว่าพักจูฮยอนใน Mouse เยินอย่างไร เรื่องนี้ก็ยังคงเยินแบบนั้น มันหนักหนาเสียจนสงสัยว่า นางเอก พัคแทยัง มีจิตใจที่แข็งแกร่งขนาดไหนกันถึงไม่เป็นบ้าไปเสียก่อน ซีรีส์ที่ดูสนุกๆ น่ารักๆช่วงแรก กลายเป็นอะไรไปก็ไม่รู้เฉยเลย เฮ้อ

พระเอก - แชจงฮย็อบ นายก๋วยเตี๋ยวจาก Nevertheless ที่สาวๆชื่นชอบ เรื่องนี้ได้เป็นพระเอกเต็มตัว แสดงได้ดีครับ แต่ท่าตบลูกที่ต้องดูว่าตบลูกได้แรงมากๆนั้น มันยังไม่ค่อยจริงเท่าไหร่ มันฝึกยากครับ เข้าใจได้

นางเอก - พัคจูฮยอน ได้พระเอกเป็นคนปกติซะที แต่บทน้องเขามันเป็นบทของคนที่มีปัญหาระดับควรจะเป็นบ้าแต่ทนมาได้ ขอร้องเถอะครับ เรื่องต่อๆไป ไปเล่นรอมคอมบ้างนะ อยากเห็นการแสดงแบบไม่ดราม่าของเธอเยอะๆ

Love Line - เป็นความรักต้องห้าม มันโหดตรงที่ไม่ว่ามองในมุมไหน ก็เจ็บกันทุกคน เข้าใจทุกคน และไม่เห็นหนทางลงเอยได้เลย

เพลงประกอบ - ผมชอบเพลงของเรื่องนี้หลายเพลงเลยนะ แต่เพลงที่ฟังแล้วเข้ากับเรื่องมากๆ ก็เพลงในฉากเปิดตอนนั่นแหล่ะ

เรื่องนี้นักแสดงคนอื่นน่าสนใจหลายคนเลยครับ ผมชอบคู่รองและคู่อื่นๆทั้งหมด แต่บอกเลยว่า พัคจีฮยอน ที่เล่นเป็นพี่สาวพระเอกน่ะ เป็นคนที่เล่นบทร้ายลึกได้ร้ายกาจมากนะครับ ใน Do You Like Brahms? เธอก็ร้ายลึก ผมหวังว่าเธอจะได้มาเล่นเป็นนางรองที่เป็นคนดีบ้าง

บอกเลยว่าการดูซีรีส์เรื่องนี้ เหนื่อย55 ดูไป ถอนหายใจไป บางช่วงแทบจะทนดูให้มันผ่านๆไป ไม่ใช่ไม่ดี แต่คนดูเหนื่อยครับ ใครดูมาแล้ว ก็อดทนนะครับ ตอนจบใช้ได้อยู่55 ใครอยากลองความหนักหนาก็เชิญดูได้ครับ