ใครกำลังหาซื้อโซฟาอยู่ Chic Mom and Fab Family จะมาแนะนำร้านขายโซฟาสวยๆ ที่ chic chic cool cool (ชิค ชิค คูล คูล)
ที่สำคัญต้องเน้นดูดวิญญาณเวลาพักผ่อนและรองรับหลังเวลาดูทีวี และที่สุดที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยคือ ราคาดี ที่สำคัญคือให้บริการดี๊ดี มารีวิวกันค่ะ
ด้วยความที่ตอนนี้ครอบครัว Chic Mom มีลูกๆ 2 คน ก็เลยอยากได้โซฟาเพิ่มอีกซักตัวไว้นั่งดูทีวีตรงห้องนั่งเล่นค่ะ เพราะงานบ้านก็แสนเหนื่อย ทำงานก็แสนจะหนัก กลับมาพักกับครอบครัว ก็อยากที่จะพักแบบสบายจริงๆ และที่สำคัญก็เราติด Netfilx มากๆ คุณสามีเลยรีเควสขอโซฟาแบบปรับระดับได้ (Power recliner sofa) เพื่อการนั่งและการนอนดูซีรีย์เรื่องโปรดได้สบายๆ เพราะซีรีย์เรื่องนึงอาจจะต้องใช้เวลาดูกันแบบข้ามวันข้ามคืน ยังไม่รวมการที่เราติดลมแบบดูหลาย EP. ที่อาจจะต้องใช้เวลา 2-4 ชม.
การที่เราจะหาโซฟาดีๆ นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เคยลองแล้วค่ะ โซฟาแบบปกติเปลี่ยนท่าแต่ละที จะกลับมาให้องศาความสบายแบบเดิมนั้นในการจัดรูปแบบหมอนก็ยากเย็นสุดๆ แถมพอนั่งนานๆ ก็มีความเมื่อยก้น และชาขาอีก บางทีก็เป็นเหน็บทั้งขาและก้นเลยค่ะ คิดว่าหลายๆ คนก็น่าจะเคยเจอปัญหาแบบเดียวกันบ้างนะคะ
เลยตกลงและคุยกันกับคุณพ่อบ้านค่ะ เนื่องจากที่บ้านเราก็มีโซฟาแบบปกติอยู่แล้ว ถ้าซื้ออันที่ 2 มาก็คิดว่าน่าจะเอาเป็นแบบเน้นตอบโจทย์การใช้งาน ที่สามารถนั่งยาวๆ ได้ และที่สำคัญ โซฟาตัวนี้ที่ซื้อใหม่ ต้องตอบโจทย์การนอนที่ต้องดีเพื่อให้เราหลับหรือนอนได้สบายที่สุด และต้องรองรับรูปแบบท่านั่งปรับได้ทั้งแบบท่านั่งปกติและนอนเอน ถ้าใช้แบบครั้งละไม่นานคงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเอามาดู หนังและ Netfilx ด้วยแล้วนั้น มันต้องดีกว่าเดิม ยิ่งได้แบบที่เค้าบอกกันมาว่า ดูดวิญญานได้เลยยิ่งดี เพราะนอกจากที่นอนที่เราใช้เวลาต่อวัน 8-10 ชม.แล้วนั้น โซฟาก็ไม่แพ้กันนะคะ เคยนับเล่นๆ วันละ 3-5 ชม. ตอนดูหนัง แต่ถ้าในวันปกติ 1-2 ชม. ต้องมีอย่างแน่นอน พอเราสรุปสิ่งที่ต้องการมา จบ ครบตามนี้แหละ
อ่อ สำคัญมาก เบื่อมากกับการซื้อของที่ไม่มีรับประกันหลังการขาย
เพราะวันนี้ใช้ไปคุยดีแต่พอมีปัญหา เซลหนีหายไปหมด หาซ่อมที่ไหนก็ยาก และยิ่งเป็น โซฟาที่เป็นแบบกลไกด้วยแล้ว
จะซื้อทั้งทีต้องมีรับประกันหลังการขายด้วย ถึงจะอุ่นใจเพราะถ้าเสียไปจะได้มีคนมาดูแล และที่สำคัญจะได้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นถ้าเกิดมีปัญหาจะได้เปลี่ยนซ่อมเคลมได้คะ
หลังจาก search คะ หาข้อมูลและปรึกษาเพื่อนๆ สายแต่งบ้าน ก็รู้สึกว่าต้องจัดหนังอิตาลีแล้วหล่ะ เพราะชอบความเนียนนุ่มเป็นพิเศษ แต่เรื่องราคาที่หูย เหนื่อยใจ แอบคิดนะทำไมมันแพงจัง พอเราเข้าไป facebook กด like บางเพจเท่านั้น ร้านโซฟาต่างๆ ก็หลั่งไหลมาให้ดูเยอะเลย จากที่คุยได้ข้อมูลมา เจอ facebook เข้าไปถึงก็ งง เลย เราจะเริ่มไปที่ไหนก่อนดีน้า ก็เลยจดรายละเอียดไว้และก็เปรียบเทียบอยู่หลายที่ค่ะ ทั้งเดินห้างเจอก็เข้าไปดู ทั้งตั้งใจไปดูก็หลายที่ แต่เนื่องจากพอเข้าไปแล้ว ก็ต้องตัดสินใจเพราะราคาต่อตัว บอกเลยว่าเหนื่อยอยู่ และยังไม่รวมว่าหนังอิตาลีแต่ละร้านก็ความนุ่มไม่เหมือนกัน แล้วในคำว่าหนังอิตาลีก็มีแบ่งย่อยลงไปอีกเลยทำให้เราเริ่มงง ทีนี้ก็เลยเริ่มมาศึกษาแบบจริงจังเลยค่ะ ก็หลังจากดูมาหลายที่ ทั้งแบบไม่กี่หมื่นจนถึงหลัก แสน 2 แสน ก็มี พอลองนั่งและรู้ราคา ลมแทบจับเพราะราคารุนแรงเหลือเกินจริงๆ ก็เลยมาตั้งหลักคิดอยู่เลย
ก็มาเจอ
แบรนด์ Enzo Calvin ที่เป็นโซฟาแบบ Recliner (ปรับเอนได้) ของร้าน Ekaluk Mattress อยู่แถวบ้านนี่เอง เคยขับรถผ่านหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ลองเข้าไปดูในเพจก็ดูมีโปรโมชั่นเยอะดี เล็งๆ ไว้ตัวสองตัว ก็เลยส่งข้อความไปคุย และก็เห็นในข้อความบอกว่า โทรมาคุยดีกว่าละเอียดกว่า พอได้คุยกับคุณธันวาเท่านั้นแหละค่ะ ก็เลยชวนสามีไปดูที่โชว์รูมเลยดีกว่า เพราะจะได้เห็นของแบบครบๆ จบๆ กันไปเลย เพราะเราก็ดูมาแล้วจากหลายที่ แต่ที่ชอบร้านนี้เพราะเห็นจากเพจว่ามีลูกค้าไปซื้อสินค้าร้านนี้เยอะมาก และที่สำคัญ ถ้าโทรหาคุณธันวา ลูกชายเจ้าของร้านและนัดเข้ามา เค้าจะดูราคาขายส่งให้ ถูกใจเพราะชอบคุยกับเจ้าของร้านมากกว่าคุยกับเซล เพราะถ้าถูกใจจริงๆ เค้าจะได้ดูราคาให้เราได้เลย
พอโทรหาคุณ ธันวา ที่เป็นลูกชายเจ้าของร้านแล้ว ว่าเราจะเข้ามาดู (ก็แอบหวังไว้ว่าจะลดให้เราเท่าไหร่น้าา) คุณธันวาก็จะให้น้องที่สาขาโทรหา เพื่อทำตารางนัด เพราะลูกค้าเยอะอยู่เข้ามาชมสินค้าอยู่เรื่อยๆ น้องที่ร้านก็จะมีการโทรคอนเฟิร์มและจะส่งแผ่นที่ให้ เนื่องจากเรารู้จักขับผ่านบ่อย เราเลยบอกว่าไปร้านเป็นและก็นัดเวลาขับมาที่ร้านเลย
โชว์รูมร้าน Ekaluk Mattress อยู่ติดถนนราชพฤกษ์ย่านนนทบุรีค่ะ เคยผ่านหลายทีนึกว่าขายแต่เตียงนอนอย่างเดียว สรุปว่ามีโซฟาด้วยหลายแบบมากๆ เลย
ไปถึงแล้วแค่บอกพนักงานว่ามาดูโซฟา และบอกว่าคุยกับคุณธันวาไว้ น้องเค้าก็พาขึ้นไปดูที่ชั้น 2 เลยค่ะ จะเป็นแบรนด์ Enzo Calvin ทั้งหมด สามารถบอกได้ว่าต้องการแบบไหน เช่น โซฟาเดี่ยว โซฟาคู่ โซฟาแบบ 3 ที่นั่ง โซฟารูปตัว L หรือแบบโฮมเธียเตอร์ก็มีนะคะ ที่สำคัญก็บอกความต้องการไปเลยค่ะ ว่า เรามีงบอยู่เท่าไหร่ ต้องการความนุ่มฟีลการนั่งการนอนแบบไหน แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบแบบนุ่มมาก หรือนั่งไปแล้วจมตัวมากๆ เพราะเคยใช้จากโซฟาตัวอื่นๆ ที่เคยลองใช้มา มันปวดหลังและเมื่อยมากเวลาใช้งานยาวๆ ค่ะ
โดยส่วนตัว Chic Mom สนใจโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง เป็นแบบปรับระดับได้ น้องพนักงานก็พาไปดูค่ะ ซึ่งก็มีแบบธรรมดาและแบบโฮมเธียเตอร์ ต่อมาพนักงานก็เอาหนังมาให้ดูค่ะว่าต้องการแบบไหน ทีนี้ก็ยาวคะ เพราะต้องดูสีให้แมทช์กับห้อง และหนังอิตาลีก็มีหลายแบบ ทั้งความเนียนและความนุ่ม เราก็เลือกกันไปและก็ไปเทสหนังแบบหลายๆ ชนิด ซึ่งเท่าที่เราเคยไปดูจากที่อื่นมา ชนิดของหนังแท้ร้านนี้มีให้เลือกอยู่หลายเกรดมากค่ะ อาจจะไม่ได้มาสุดในไทย แต่ก็ถือมีให้เลือกได้หลากหลายแบบจริงจังจริงๆ
เก้าอี้แบบโฮมเธียเตอร์ จะมีที่วางแก้วเหมือนเก้าอี้โรงหนัง เห็นทางร้านบอกว่ารุ่นพวกนี้ขายให้กับโรงหนังไปหลายที่เลยค่ะเท่าที่คุยน่าจะ 10-12 ที่เลย
นอกเรื่องไปนิดนึงเรามาเข้าเรื่องกันต่อนะ
พอดีมีเจ้าของโชว์รูมมาต้อนรับแบบเป็นกันเองมากค่ะ ทำให้เราได้ความรู้ว่าอ่อ วัสดุหุ้มของที่นี่จะมีหลักๆ จะมี 5 แบบคือ
1.หนังบราซิล: จะเป็นหนังแท้แบบราคารุ่นเริ่มต้น เนื้อสัมผัสจะหนาๆ แน่นๆ กระชับตัวโครงสร้างรับพอดีหลัง จะเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ชอบนั่งโซฟาที่แน่นๆ หน่อยเพราะทำให้ลุกง่าย และรับกับสรีระพอดี
2. หนังอิตาลี: หนังแท้อิตาลี นั่งสบาย ลื่นผิว นั่งแล้วไม่ร้อน เจ้าของโชว์รูมบอกว่านั่งแล้วจะได้ฟีลเหมือนรถยุโรป ก็อ่ะ ลองนั่งดู อืม นุ่มจริงให้ฟีลลิ่งคุณนายเบาๆ ค่ะ ลองแล้วชอบหนังแบบนี้มันลื่นๆ ดีไม่เหนียวติดผิว เวลานั่งก็รู้สึกสบายตัวด้วยค่ะ
3. หนังอิตาลีพรีเมียม: จะเป็นหนังเนียนลื่นผิวสัมผัสมีความละเอียดกว่าหนังอิตาลีปกติค่ะ ถ้าใครไม่ชอบหนังที่ดูเงาๆ น่าจะชอบแบบนี้เลยค่ะ หนังแบบนี้หายากมากแทบจะไม่เคยเห็นที่ไหนเลยค่ะ เหมือนเป็น Signature ของทางแบรนด์เลยค่ะ
4. หนังอิตาลี Full Grain: คือเกรดหนังที่หรูที่สุดนุ่มลื่นผิวที่สุด เป็นหนังแท้ที่ผ่านกระบวนการทำด้วยมือ สีจะมีมิติ และมีเสน่ห์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ดังนั้นแต่ละตัวที่ทำออกมาจะไม่ได้เหมือนกัน 100% ละเอียดและปราณีตมากๆ เจ้าของบอกว่าหนังชนิดนี้จะใช้ทำโซฟาหนังแท้ทั้งตัวเท่านั้นค่ะ เราไปดูมาจากในห้างแถวลาดพร้าว หนังแบบเดียวกันเลยแต่กลไกด้อยกว่าเค้าขาย 160,000-170,000 บาท แต่ที่นี่ราคาประทับใจกว่าเยอะมาก
5.Technnology Fabric / PU : Enzo Calvin จะเน้นทำหนังแท้เป็นหลัก แต่สำหรับคนที่อยากได้ ผ้า หรือ PU ทางร้านก็มีให้เลือกเหมือนกันค่ะ อย่าง Technology Fabric ลักษณะเฉพาะของแบรนด์ จะเป็นเหมือนผ้าลายหนัง ผิวสัมผัสจะเป็นแบบเนียนๆ นุ่มละมุนๆ หน่อยค่ะ แบบนี้จะเน้นทำเป็นสีอ่อนหรือสีโทนสว่าง
เดินดูไปดูมาเจอไอเท็มลับ! คือเก้าอี้แบบ Lift chair recliner ช่วยพยุงยืนได้ด้วย เราเคยเห็นแต่เตียงตามโรงพยาบาลที่ปรับช่วยเวลาลุกขึ้นยืนได้ด้วย แต่นี่มีเก้าอี้ช่วยยืนด้วยค่ะ เหมาะกับที่บ้านใครมีพ่อแม่สูงวัยที่มีปัญหาเรื่องการลุกนั่ง หรือผู้ป่วยพักฟื้นจากโรงพยาบาลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ
(แอบถามราคามาตัวละ 39,900 บาท ถ้ามีจัดโปรโมชั่นก็ประมาณ 2 หมื่นกว่าๆ ค่ะ ถามราคาพิเศษจากคุณธันวาเพิ่มเติมได้นะ)
จากที่คุยและเดินดูที่ร้านมา โซฟาแบรนด์ Enzo Calvin ที่ร้าน Ekaluk Mattress จะมี 2 จุดเด่นคือโซฟาที่นี่จะทำตามสรีระคนไทย ที่นั่งแล้วมีความแน่นนุ่มรับตัว นั่งสบายไม่เมื่อย เพราะมีความลึกไม่เกิน 55 cm บางยี่ห้อที่นั่งลึกมากๆ นั่งแล้วขาลอยเยอะ ซึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องการนั่งเก้าอี้นานๆ แล้วเมื่อยอย่าง Chic Mom คือเข้าใจดีเลยค่ะ เพราะบางทีเก้าอี้ออกแบบมาไม่เหมาะกับสรีระเรานั่งแล้วปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อนี่ขอผ่านเลยจริงๆ
กับจุดขายอีกอย่างคือ ร้านนี้ดังด้านโซฟาเก้าอี้ recliner ปรับระดับเอนนอนได้กว่า 160-175 องศา และในรุ่น top ตัวเก้าอี้จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษขึ้นมาด้วย คือเพิ่มรูปแบบการซัพพอร์ตหลัง ซึ่งจะมีรูปแบบการดันแผ่นหลังส่วนล่างและส่วนกลางเป็นปุ่มแยกพิเศษขึ้นมา และฟังก์ชั่นการปรับดันศรีษะส่วนบนให้เหมาะสมเพิ่มด้วยค่ะ ซึ่งจะเป็นปุ่มกดแยกพิเศษอีก 1 ปุ่ม ซึ่งทางร้านบอกว่าทำส่งโรงหนังชั้นนำด้วยนะคะ ชั้นมาถูกทางหล่ะ ได้จัดกลับไปแน่ๆ พอดีหนีลูกมาเลือกโซฟาชิลๆ ด้วย โอกาสนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ 5555
[BR] รีวิวโซฟาหนัง Enzo Calvin Recliner สุดหรู เอนปรับระดับ นั่งนอนได้สบาย
ใครกำลังหาซื้อโซฟาอยู่ Chic Mom and Fab Family จะมาแนะนำร้านขายโซฟาสวยๆ ที่ chic chic cool cool (ชิค ชิค คูล คูล)
ที่สำคัญต้องเน้นดูดวิญญาณเวลาพักผ่อนและรองรับหลังเวลาดูทีวี และที่สุดที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยคือ ราคาดี ที่สำคัญคือให้บริการดี๊ดี มารีวิวกันค่ะ
ด้วยความที่ตอนนี้ครอบครัว Chic Mom มีลูกๆ 2 คน ก็เลยอยากได้โซฟาเพิ่มอีกซักตัวไว้นั่งดูทีวีตรงห้องนั่งเล่นค่ะ เพราะงานบ้านก็แสนเหนื่อย ทำงานก็แสนจะหนัก กลับมาพักกับครอบครัว ก็อยากที่จะพักแบบสบายจริงๆ และที่สำคัญก็เราติด Netfilx มากๆ คุณสามีเลยรีเควสขอโซฟาแบบปรับระดับได้ (Power recliner sofa) เพื่อการนั่งและการนอนดูซีรีย์เรื่องโปรดได้สบายๆ เพราะซีรีย์เรื่องนึงอาจจะต้องใช้เวลาดูกันแบบข้ามวันข้ามคืน ยังไม่รวมการที่เราติดลมแบบดูหลาย EP. ที่อาจจะต้องใช้เวลา 2-4 ชม.
การที่เราจะหาโซฟาดีๆ นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เคยลองแล้วค่ะ โซฟาแบบปกติเปลี่ยนท่าแต่ละที จะกลับมาให้องศาความสบายแบบเดิมนั้นในการจัดรูปแบบหมอนก็ยากเย็นสุดๆ แถมพอนั่งนานๆ ก็มีความเมื่อยก้น และชาขาอีก บางทีก็เป็นเหน็บทั้งขาและก้นเลยค่ะ คิดว่าหลายๆ คนก็น่าจะเคยเจอปัญหาแบบเดียวกันบ้างนะคะ
เลยตกลงและคุยกันกับคุณพ่อบ้านค่ะ เนื่องจากที่บ้านเราก็มีโซฟาแบบปกติอยู่แล้ว ถ้าซื้ออันที่ 2 มาก็คิดว่าน่าจะเอาเป็นแบบเน้นตอบโจทย์การใช้งาน ที่สามารถนั่งยาวๆ ได้ และที่สำคัญ โซฟาตัวนี้ที่ซื้อใหม่ ต้องตอบโจทย์การนอนที่ต้องดีเพื่อให้เราหลับหรือนอนได้สบายที่สุด และต้องรองรับรูปแบบท่านั่งปรับได้ทั้งแบบท่านั่งปกติและนอนเอน ถ้าใช้แบบครั้งละไม่นานคงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเอามาดู หนังและ Netfilx ด้วยแล้วนั้น มันต้องดีกว่าเดิม ยิ่งได้แบบที่เค้าบอกกันมาว่า ดูดวิญญานได้เลยยิ่งดี เพราะนอกจากที่นอนที่เราใช้เวลาต่อวัน 8-10 ชม.แล้วนั้น โซฟาก็ไม่แพ้กันนะคะ เคยนับเล่นๆ วันละ 3-5 ชม. ตอนดูหนัง แต่ถ้าในวันปกติ 1-2 ชม. ต้องมีอย่างแน่นอน พอเราสรุปสิ่งที่ต้องการมา จบ ครบตามนี้แหละ
อ่อ สำคัญมาก เบื่อมากกับการซื้อของที่ไม่มีรับประกันหลังการขาย
เพราะวันนี้ใช้ไปคุยดีแต่พอมีปัญหา เซลหนีหายไปหมด หาซ่อมที่ไหนก็ยาก และยิ่งเป็น โซฟาที่เป็นแบบกลไกด้วยแล้ว จะซื้อทั้งทีต้องมีรับประกันหลังการขายด้วย ถึงจะอุ่นใจเพราะถ้าเสียไปจะได้มีคนมาดูแล และที่สำคัญจะได้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นถ้าเกิดมีปัญหาจะได้เปลี่ยนซ่อมเคลมได้คะ
หลังจาก search คะ หาข้อมูลและปรึกษาเพื่อนๆ สายแต่งบ้าน ก็รู้สึกว่าต้องจัดหนังอิตาลีแล้วหล่ะ เพราะชอบความเนียนนุ่มเป็นพิเศษ แต่เรื่องราคาที่หูย เหนื่อยใจ แอบคิดนะทำไมมันแพงจัง พอเราเข้าไป facebook กด like บางเพจเท่านั้น ร้านโซฟาต่างๆ ก็หลั่งไหลมาให้ดูเยอะเลย จากที่คุยได้ข้อมูลมา เจอ facebook เข้าไปถึงก็ งง เลย เราจะเริ่มไปที่ไหนก่อนดีน้า ก็เลยจดรายละเอียดไว้และก็เปรียบเทียบอยู่หลายที่ค่ะ ทั้งเดินห้างเจอก็เข้าไปดู ทั้งตั้งใจไปดูก็หลายที่ แต่เนื่องจากพอเข้าไปแล้ว ก็ต้องตัดสินใจเพราะราคาต่อตัว บอกเลยว่าเหนื่อยอยู่ และยังไม่รวมว่าหนังอิตาลีแต่ละร้านก็ความนุ่มไม่เหมือนกัน แล้วในคำว่าหนังอิตาลีก็มีแบ่งย่อยลงไปอีกเลยทำให้เราเริ่มงง ทีนี้ก็เลยเริ่มมาศึกษาแบบจริงจังเลยค่ะ ก็หลังจากดูมาหลายที่ ทั้งแบบไม่กี่หมื่นจนถึงหลัก แสน 2 แสน ก็มี พอลองนั่งและรู้ราคา ลมแทบจับเพราะราคารุนแรงเหลือเกินจริงๆ ก็เลยมาตั้งหลักคิดอยู่เลย
ก็มาเจอแบรนด์ Enzo Calvin ที่เป็นโซฟาแบบ Recliner (ปรับเอนได้) ของร้าน Ekaluk Mattress อยู่แถวบ้านนี่เอง เคยขับรถผ่านหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ลองเข้าไปดูในเพจก็ดูมีโปรโมชั่นเยอะดี เล็งๆ ไว้ตัวสองตัว ก็เลยส่งข้อความไปคุย และก็เห็นในข้อความบอกว่า โทรมาคุยดีกว่าละเอียดกว่า พอได้คุยกับคุณธันวาเท่านั้นแหละค่ะ ก็เลยชวนสามีไปดูที่โชว์รูมเลยดีกว่า เพราะจะได้เห็นของแบบครบๆ จบๆ กันไปเลย เพราะเราก็ดูมาแล้วจากหลายที่ แต่ที่ชอบร้านนี้เพราะเห็นจากเพจว่ามีลูกค้าไปซื้อสินค้าร้านนี้เยอะมาก และที่สำคัญ ถ้าโทรหาคุณธันวา ลูกชายเจ้าของร้านและนัดเข้ามา เค้าจะดูราคาขายส่งให้ ถูกใจเพราะชอบคุยกับเจ้าของร้านมากกว่าคุยกับเซล เพราะถ้าถูกใจจริงๆ เค้าจะได้ดูราคาให้เราได้เลย
พอโทรหาคุณ ธันวา ที่เป็นลูกชายเจ้าของร้านแล้ว ว่าเราจะเข้ามาดู (ก็แอบหวังไว้ว่าจะลดให้เราเท่าไหร่น้าา) คุณธันวาก็จะให้น้องที่สาขาโทรหา เพื่อทำตารางนัด เพราะลูกค้าเยอะอยู่เข้ามาชมสินค้าอยู่เรื่อยๆ น้องที่ร้านก็จะมีการโทรคอนเฟิร์มและจะส่งแผ่นที่ให้ เนื่องจากเรารู้จักขับผ่านบ่อย เราเลยบอกว่าไปร้านเป็นและก็นัดเวลาขับมาที่ร้านเลย
โชว์รูมร้าน Ekaluk Mattress อยู่ติดถนนราชพฤกษ์ย่านนนทบุรีค่ะ เคยผ่านหลายทีนึกว่าขายแต่เตียงนอนอย่างเดียว สรุปว่ามีโซฟาด้วยหลายแบบมากๆ เลย
ไปถึงแล้วแค่บอกพนักงานว่ามาดูโซฟา และบอกว่าคุยกับคุณธันวาไว้ น้องเค้าก็พาขึ้นไปดูที่ชั้น 2 เลยค่ะ จะเป็นแบรนด์ Enzo Calvin ทั้งหมด สามารถบอกได้ว่าต้องการแบบไหน เช่น โซฟาเดี่ยว โซฟาคู่ โซฟาแบบ 3 ที่นั่ง โซฟารูปตัว L หรือแบบโฮมเธียเตอร์ก็มีนะคะ ที่สำคัญก็บอกความต้องการไปเลยค่ะ ว่า เรามีงบอยู่เท่าไหร่ ต้องการความนุ่มฟีลการนั่งการนอนแบบไหน แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบแบบนุ่มมาก หรือนั่งไปแล้วจมตัวมากๆ เพราะเคยใช้จากโซฟาตัวอื่นๆ ที่เคยลองใช้มา มันปวดหลังและเมื่อยมากเวลาใช้งานยาวๆ ค่ะ
โดยส่วนตัว Chic Mom สนใจโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง เป็นแบบปรับระดับได้ น้องพนักงานก็พาไปดูค่ะ ซึ่งก็มีแบบธรรมดาและแบบโฮมเธียเตอร์ ต่อมาพนักงานก็เอาหนังมาให้ดูค่ะว่าต้องการแบบไหน ทีนี้ก็ยาวคะ เพราะต้องดูสีให้แมทช์กับห้อง และหนังอิตาลีก็มีหลายแบบ ทั้งความเนียนและความนุ่ม เราก็เลือกกันไปและก็ไปเทสหนังแบบหลายๆ ชนิด ซึ่งเท่าที่เราเคยไปดูจากที่อื่นมา ชนิดของหนังแท้ร้านนี้มีให้เลือกอยู่หลายเกรดมากค่ะ อาจจะไม่ได้มาสุดในไทย แต่ก็ถือมีให้เลือกได้หลากหลายแบบจริงจังจริงๆ
เก้าอี้แบบโฮมเธียเตอร์ จะมีที่วางแก้วเหมือนเก้าอี้โรงหนัง เห็นทางร้านบอกว่ารุ่นพวกนี้ขายให้กับโรงหนังไปหลายที่เลยค่ะเท่าที่คุยน่าจะ 10-12 ที่เลย
นอกเรื่องไปนิดนึงเรามาเข้าเรื่องกันต่อนะ
พอดีมีเจ้าของโชว์รูมมาต้อนรับแบบเป็นกันเองมากค่ะ ทำให้เราได้ความรู้ว่าอ่อ วัสดุหุ้มของที่นี่จะมีหลักๆ จะมี 5 แบบคือ
1.หนังบราซิล: จะเป็นหนังแท้แบบราคารุ่นเริ่มต้น เนื้อสัมผัสจะหนาๆ แน่นๆ กระชับตัวโครงสร้างรับพอดีหลัง จะเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ชอบนั่งโซฟาที่แน่นๆ หน่อยเพราะทำให้ลุกง่าย และรับกับสรีระพอดี
2. หนังอิตาลี: หนังแท้อิตาลี นั่งสบาย ลื่นผิว นั่งแล้วไม่ร้อน เจ้าของโชว์รูมบอกว่านั่งแล้วจะได้ฟีลเหมือนรถยุโรป ก็อ่ะ ลองนั่งดู อืม นุ่มจริงให้ฟีลลิ่งคุณนายเบาๆ ค่ะ ลองแล้วชอบหนังแบบนี้มันลื่นๆ ดีไม่เหนียวติดผิว เวลานั่งก็รู้สึกสบายตัวด้วยค่ะ
3. หนังอิตาลีพรีเมียม: จะเป็นหนังเนียนลื่นผิวสัมผัสมีความละเอียดกว่าหนังอิตาลีปกติค่ะ ถ้าใครไม่ชอบหนังที่ดูเงาๆ น่าจะชอบแบบนี้เลยค่ะ หนังแบบนี้หายากมากแทบจะไม่เคยเห็นที่ไหนเลยค่ะ เหมือนเป็น Signature ของทางแบรนด์เลยค่ะ
4. หนังอิตาลี Full Grain: คือเกรดหนังที่หรูที่สุดนุ่มลื่นผิวที่สุด เป็นหนังแท้ที่ผ่านกระบวนการทำด้วยมือ สีจะมีมิติ และมีเสน่ห์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ดังนั้นแต่ละตัวที่ทำออกมาจะไม่ได้เหมือนกัน 100% ละเอียดและปราณีตมากๆ เจ้าของบอกว่าหนังชนิดนี้จะใช้ทำโซฟาหนังแท้ทั้งตัวเท่านั้นค่ะ เราไปดูมาจากในห้างแถวลาดพร้าว หนังแบบเดียวกันเลยแต่กลไกด้อยกว่าเค้าขาย 160,000-170,000 บาท แต่ที่นี่ราคาประทับใจกว่าเยอะมาก
5.Technnology Fabric / PU : Enzo Calvin จะเน้นทำหนังแท้เป็นหลัก แต่สำหรับคนที่อยากได้ ผ้า หรือ PU ทางร้านก็มีให้เลือกเหมือนกันค่ะ อย่าง Technology Fabric ลักษณะเฉพาะของแบรนด์ จะเป็นเหมือนผ้าลายหนัง ผิวสัมผัสจะเป็นแบบเนียนๆ นุ่มละมุนๆ หน่อยค่ะ แบบนี้จะเน้นทำเป็นสีอ่อนหรือสีโทนสว่าง
เดินดูไปดูมาเจอไอเท็มลับ! คือเก้าอี้แบบ Lift chair recliner ช่วยพยุงยืนได้ด้วย เราเคยเห็นแต่เตียงตามโรงพยาบาลที่ปรับช่วยเวลาลุกขึ้นยืนได้ด้วย แต่นี่มีเก้าอี้ช่วยยืนด้วยค่ะ เหมาะกับที่บ้านใครมีพ่อแม่สูงวัยที่มีปัญหาเรื่องการลุกนั่ง หรือผู้ป่วยพักฟื้นจากโรงพยาบาลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ
(แอบถามราคามาตัวละ 39,900 บาท ถ้ามีจัดโปรโมชั่นก็ประมาณ 2 หมื่นกว่าๆ ค่ะ ถามราคาพิเศษจากคุณธันวาเพิ่มเติมได้นะ)
จากที่คุยและเดินดูที่ร้านมา โซฟาแบรนด์ Enzo Calvin ที่ร้าน Ekaluk Mattress จะมี 2 จุดเด่นคือโซฟาที่นี่จะทำตามสรีระคนไทย ที่นั่งแล้วมีความแน่นนุ่มรับตัว นั่งสบายไม่เมื่อย เพราะมีความลึกไม่เกิน 55 cm บางยี่ห้อที่นั่งลึกมากๆ นั่งแล้วขาลอยเยอะ ซึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องการนั่งเก้าอี้นานๆ แล้วเมื่อยอย่าง Chic Mom คือเข้าใจดีเลยค่ะ เพราะบางทีเก้าอี้ออกแบบมาไม่เหมาะกับสรีระเรานั่งแล้วปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อนี่ขอผ่านเลยจริงๆ
กับจุดขายอีกอย่างคือ ร้านนี้ดังด้านโซฟาเก้าอี้ recliner ปรับระดับเอนนอนได้กว่า 160-175 องศา และในรุ่น top ตัวเก้าอี้จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษขึ้นมาด้วย คือเพิ่มรูปแบบการซัพพอร์ตหลัง ซึ่งจะมีรูปแบบการดันแผ่นหลังส่วนล่างและส่วนกลางเป็นปุ่มแยกพิเศษขึ้นมา และฟังก์ชั่นการปรับดันศรีษะส่วนบนให้เหมาะสมเพิ่มด้วยค่ะ ซึ่งจะเป็นปุ่มกดแยกพิเศษอีก 1 ปุ่ม ซึ่งทางร้านบอกว่าทำส่งโรงหนังชั้นนำด้วยนะคะ ชั้นมาถูกทางหล่ะ ได้จัดกลับไปแน่ๆ พอดีหนีลูกมาเลือกโซฟาชิลๆ ด้วย โอกาสนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ 5555
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน