ผ่านมาครึ่งปี กล้าพูดได้เลยว่า นี่คือหนังในดวงใจประจำปี 2022 อย่างแน่นอน และเป็นหนังที่มีพลังสร้างสรรค์สูงสุดในรอบห้าปี นับจาก One Cut of The Dead ที่เป็นหนังในดวงใจเมื่อปี 2017
ถ้าคุณชอบ (หรือเอียน) หนัง Feel Good ของ Disney & Pixar
ถ้าคุณรู้สึกว่าพล็อตพหุจักรวาลผิว ๆ ของ Marvel มันน่าเบื่อ
ถ้าคุณเป็นแฟนหนังจีนกำลังภายในนับจากยุค Shaw Brothers มาถึงยุคเฉินหลง
ถ้าคุณเคยทึ่งในหนังบรมครูอย่าง Stanley Kubrick ไม่ว่าจะแนว Sci-Fi, Horror, etc.
ถ้าคุณประทับใจหนังอภิปรัชญาในเปลือกโลกอนาคตอย่าง The Matrix ของพี่น้อง Wachowski
และถ้าคุณหลงรักความรักเหงาซึมลึกในหนังของหว่องกาไว
ฯลฯ และ ฯลฯ
ใช่ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกรวมอยู่ในหนังเรื่องนี้สมชื่อ Everything Everywhere All at once แล้วดันทำได้สนุกบ้ามันฮา แต่บทจะซึ้ง ก็ซึ้งน้ำตาซึม บทจะลึก ก็ลึกขั้นนิพพาน แล้วก็พลันตลบมาบ้าบอได้ในฉากถัดมาทันที
ถึงหน้าฉากจะดูเป็นหนังเอามัน แต่ผมกลับพบว่า สารที่หนังสอดแทรกไว้ตามรายทางแต่ละรายละเอียด แต่ละ Symbolic ที่ใส่ไว้ สามารถนำมาตีความวิเคราะห์ได้เป็นชั้น ๆ ตามประสบการณ์มุมมองของผู้ชมแต่ละคน
ไม่ต่างจากตัวละครในเรื่องที่เมื่อพบเห็นตัวตนของเส้นทางในแต่ละจักรวาลแล้ว จะรู้สึกว่างเปล่าไร้ความหมาย หรือกลับมาให้คุณค่ากับสิ่งที่เราสามารถเลือกและดำรงอยู่ในแต่ละขณะของชีวิต
Michelle Yeoh และ Ke Huy Quan คู่ผัวเมียทะลุจักรวาลเป็นตัวละครที่แบกเรื่องไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ในความไม่สมบูรณ์บ้างของหนัง ที่อาจจะเป็นเพราะทุนสร้าง หรือการเล่าเรื่อง Hi Concept ขนาดนี้ ด้วยกระบวนการทำงานที่จำกัด แต่พลังสร้างสรรค์กลับกลบความไม่สมบูรณ์เหล่านั้นไปเสียมิด ไม่ต่างจากเรื่องราวที่ตัวละครได้เข้าใจท้ายสุด
Daniel Kwan และ Daniel Scheinert สร้างงานท้าทายชิ้นนี้ เล่าเรื่องมากมายหลากหลายซับซ้อนให้ง่าย และเต็มอิ่มเท่าที่จะทำได้อย่างไม่มีอะไรให้ผิดหวังเลย
เป็นหนังที่กล้าและบ้า มีมิติแห่งเรื่องราวที่มากกว่ามิติของ Multiverse เท่าที่หนังเรื่องหนึ่งจะมีได้ ทั้งเรื่องราวครอบครัว การต่อสู้ของคนต่างถิ่น ความต่างระหว่างเพศและ Generation วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ อภิปรัชญา หลักธรรม รัก สยอง บู๊ ฮา น้ำตา บ้าบอ การคารวะและล้อเลียนหนังเรื่องอื่น ไส้กรอก แรคคูน สวนตูด ฯลฯ ยอม ยอมใจจนปรบมือให้หนังได้ในรอบหลายปี ไม่สามารถเล่าอะไรมากกว่านี้ได้ เพราะอยากให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับมันไปด้วยตาตัวเอง
ขอบคุณที่โลกนี้มีภาพยนตร์
10/10
Everything Everywhere All at once (2022); เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
ถ้าคุณชอบ (หรือเอียน) หนัง Feel Good ของ Disney & Pixar
ถ้าคุณรู้สึกว่าพล็อตพหุจักรวาลผิว ๆ ของ Marvel มันน่าเบื่อ
ถ้าคุณเป็นแฟนหนังจีนกำลังภายในนับจากยุค Shaw Brothers มาถึงยุคเฉินหลง
ถ้าคุณเคยทึ่งในหนังบรมครูอย่าง Stanley Kubrick ไม่ว่าจะแนว Sci-Fi, Horror, etc.
ถ้าคุณประทับใจหนังอภิปรัชญาในเปลือกโลกอนาคตอย่าง The Matrix ของพี่น้อง Wachowski
และถ้าคุณหลงรักความรักเหงาซึมลึกในหนังของหว่องกาไว
ฯลฯ และ ฯลฯ
ใช่ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกรวมอยู่ในหนังเรื่องนี้สมชื่อ Everything Everywhere All at once แล้วดันทำได้สนุกบ้ามันฮา แต่บทจะซึ้ง ก็ซึ้งน้ำตาซึม บทจะลึก ก็ลึกขั้นนิพพาน แล้วก็พลันตลบมาบ้าบอได้ในฉากถัดมาทันที
ถึงหน้าฉากจะดูเป็นหนังเอามัน แต่ผมกลับพบว่า สารที่หนังสอดแทรกไว้ตามรายทางแต่ละรายละเอียด แต่ละ Symbolic ที่ใส่ไว้ สามารถนำมาตีความวิเคราะห์ได้เป็นชั้น ๆ ตามประสบการณ์มุมมองของผู้ชมแต่ละคน
ไม่ต่างจากตัวละครในเรื่องที่เมื่อพบเห็นตัวตนของเส้นทางในแต่ละจักรวาลแล้ว จะรู้สึกว่างเปล่าไร้ความหมาย หรือกลับมาให้คุณค่ากับสิ่งที่เราสามารถเลือกและดำรงอยู่ในแต่ละขณะของชีวิต
Michelle Yeoh และ Ke Huy Quan คู่ผัวเมียทะลุจักรวาลเป็นตัวละครที่แบกเรื่องไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ในความไม่สมบูรณ์บ้างของหนัง ที่อาจจะเป็นเพราะทุนสร้าง หรือการเล่าเรื่อง Hi Concept ขนาดนี้ ด้วยกระบวนการทำงานที่จำกัด แต่พลังสร้างสรรค์กลับกลบความไม่สมบูรณ์เหล่านั้นไปเสียมิด ไม่ต่างจากเรื่องราวที่ตัวละครได้เข้าใจท้ายสุด
Daniel Kwan และ Daniel Scheinert สร้างงานท้าทายชิ้นนี้ เล่าเรื่องมากมายหลากหลายซับซ้อนให้ง่าย และเต็มอิ่มเท่าที่จะทำได้อย่างไม่มีอะไรให้ผิดหวังเลย
เป็นหนังที่กล้าและบ้า มีมิติแห่งเรื่องราวที่มากกว่ามิติของ Multiverse เท่าที่หนังเรื่องหนึ่งจะมีได้ ทั้งเรื่องราวครอบครัว การต่อสู้ของคนต่างถิ่น ความต่างระหว่างเพศและ Generation วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ อภิปรัชญา หลักธรรม รัก สยอง บู๊ ฮา น้ำตา บ้าบอ การคารวะและล้อเลียนหนังเรื่องอื่น ไส้กรอก แรคคูน สวนตูด ฯลฯ ยอม ยอมใจจนปรบมือให้หนังได้ในรอบหลายปี ไม่สามารถเล่าอะไรมากกว่านี้ได้ เพราะอยากให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับมันไปด้วยตาตัวเอง
ขอบคุณที่โลกนี้มีภาพยนตร์
10/10