Top Gun: Maverick
เรื่องย่อ : หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท “มาเวอริค” มิทเชลล์ (ทอม ครูซ) กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ยังไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริคต้องเผชิญหน้ากับเรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ (ไมล์ เทลเลอร์) หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของเรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด
บอกเลยว่า ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ไม่ใช่แฟนหนังเรื่องนี้ แต่เห็นตัวอย่างในโรงแล้ว เป็นหนังที่น่าดูมากๆ และเป็นแฟนคลับทอม ครูซ อยู่แล้ว เลยตัดสินใจดู เห็นคนอวยกันว่าหนังดีมากๆ คะแนนเต็ม10 เลยต้องไปพิสูจน์สักหน่อย
ความรู้สึกหลังดูจบ บอกเลยว่า ชอบนะ หนังมีความคลาสสิค ทำให้นึกถึงหนังยุคเก่าๆ ทั้งภาพ เสียง ดนตรีประกอบ แต่ก็มีความผสมผสานกับเทคนิคใหม่ๆ ตามยุคสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ขาดไม่เกิน กลมกล่อม
ทีแรกก็คิดนะ หนังแนวนี้ จะมีอะไรให้ดู เหมือนเป็นแนวนักบินทำภารกิจธรรมดา ไม่ได้สู้รบ เวอร์วังอะไรขนาดนั้น แต่ผิดคาด หลังจากที่ได้ดู หนังไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ดูเพลิน ดูสนุก ไปกับการเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่อง ทำให้หนังดูได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ ตลอดเวลา2ชม.นิดๆ คือกำลังดีเลย
หนังใช้เวลาไปกับการปูความสัมพันธ์ของตัวละคร แบบไม่ยัดเยียด ทำให้เราดูแล้วอินยิ่งขึ้น แต่เรื่องความหลังก็อาจจะใส่มาพอหอมปากหอมคอ
ถ้าใครอยากอินมากขึ้น ก็ต้องไปหาภาคก่อนๆดูเอง
แต่ถึงไม่ดู ก็ยังดูรู้เรื่อง และสนุกได้ แต่อาจจะต้องหาอ่านข้อมูลเตรียมไปสักนิด
ใดๆคือ การณ์เวลาทำอะไร ทอม ครูซ ไม่ได้จริงๆ หล่อ โคตรเท่ เหมือนเดิม สะกดทุกฉาก ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆก็ตาม นักแสดงทุกคนคือเล่นดี โดยเฉพาะนักบิน แซ่บๆทั้งนั้น นักแสดงหลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตาดี และมีนักบินจากเรื่อง Hidden Figuresด้วยนะ ว่าละทำไมคุ้นๆหน้าคนนี้จัง
หนังมีความซ่อนความเก่า ความเก๋า ความคลาสสิค ของหนังยุคนั้น ขนาดไม่ใช่แฟนหนัง ไม่เคยดูมาก่อน ยังรู้เลยว่า ทำมาเพื่อแฟนเซอร์วิสจริงๆ
อารมณ์เหมือนมีความเป็นหนังยุคนั้น แต่ก็มีความสมัยใหม่ผสมอยู่ด้วย มันดีและลงตัวมาก บอกเลยว่า หนังโคตรเท่เลย
ฉากขับเครื่องบิน คือสนุก ตื่นเต้น เหมือนเราเข้าไปขับด้วยจริงๆ
มุมกล้อง งานภาพ โทนสี มูดและโทนของหนัง คือแบบอะไรที่โคตรชอบเลย สวย คลาสสิค ได้อารมณ์เหมือนย้อนเวลากลับไปช่วงนั้นจริงๆ ส่วนนี้ทำออกมาดีมากจริงๆ
และส่วนที่ชอบของหนัง ชอบที่สุด คือดนตรีประกอบ soundtrackคือทำออกมาโคตรดี บรรเลงได้แบบ เพราะ ทำออกมาได้ดีทุกฉาก เข้ากับหนังมาก โคตรได้อารมณ์ ปลุกอารมณ์มาก ทำเอาขนลุกตั้งแต่ต้นยันจบ ในเรื่องของงานเสียง แบบให้100/10เลย ทำออกมาดีจริง คือแบบมันมีความขลัง ความยิ่งใหญ่ ความคลาสสิค และความทรงพลังอยู่ในนั่นตลอดเวลา ฟังละฮึกเหิมมาก โคตรได้ฟีล
แถม OST. ก็เพราะมาก เพราะทุกเพลง
ข้อด้อยของหนัง ส่วนตัวคิดว่า หลายๆฉากในหนัง ทุกอย่างมันดูง่ายไป และอะไรๆหลายๆอย่าง ดูเป็นใจไปซะหมด ทั้งที่มันไม่น่าจะราบรื่นขนาดนั้น
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ไปเลย 8/10 คะแนน ชอบนะ จากที่ไม่คาดหวัง คืออิ่มกำลังดี ประทับใจ ในแบบที่หนังแนวนี้ พึงจะให้ความสุข ความบันเทิงกับคนดูได้
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะ
Top Gun: Maverick (8/10) l รีวิวแบบไม่ติ่ง ไม่อวย หนังโคตรคลาสสิค ดนตรีประกอบ คือทรงพลังมาก (สปอยล์)
เรื่องย่อ : หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท “มาเวอริค” มิทเชลล์ (ทอม ครูซ) กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ยังไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริคต้องเผชิญหน้ากับเรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ (ไมล์ เทลเลอร์) หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของเรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด
บอกเลยว่า ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ไม่ใช่แฟนหนังเรื่องนี้ แต่เห็นตัวอย่างในโรงแล้ว เป็นหนังที่น่าดูมากๆ และเป็นแฟนคลับทอม ครูซ อยู่แล้ว เลยตัดสินใจดู เห็นคนอวยกันว่าหนังดีมากๆ คะแนนเต็ม10 เลยต้องไปพิสูจน์สักหน่อย
ความรู้สึกหลังดูจบ บอกเลยว่า ชอบนะ หนังมีความคลาสสิค ทำให้นึกถึงหนังยุคเก่าๆ ทั้งภาพ เสียง ดนตรีประกอบ แต่ก็มีความผสมผสานกับเทคนิคใหม่ๆ ตามยุคสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ขาดไม่เกิน กลมกล่อม
ทีแรกก็คิดนะ หนังแนวนี้ จะมีอะไรให้ดู เหมือนเป็นแนวนักบินทำภารกิจธรรมดา ไม่ได้สู้รบ เวอร์วังอะไรขนาดนั้น แต่ผิดคาด หลังจากที่ได้ดู หนังไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ดูเพลิน ดูสนุก ไปกับการเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่อง ทำให้หนังดูได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ ตลอดเวลา2ชม.นิดๆ คือกำลังดีเลย
หนังใช้เวลาไปกับการปูความสัมพันธ์ของตัวละคร แบบไม่ยัดเยียด ทำให้เราดูแล้วอินยิ่งขึ้น แต่เรื่องความหลังก็อาจจะใส่มาพอหอมปากหอมคอ
ถ้าใครอยากอินมากขึ้น ก็ต้องไปหาภาคก่อนๆดูเอง
แต่ถึงไม่ดู ก็ยังดูรู้เรื่อง และสนุกได้ แต่อาจจะต้องหาอ่านข้อมูลเตรียมไปสักนิด
ใดๆคือ การณ์เวลาทำอะไร ทอม ครูซ ไม่ได้จริงๆ หล่อ โคตรเท่ เหมือนเดิม สะกดทุกฉาก ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆก็ตาม นักแสดงทุกคนคือเล่นดี โดยเฉพาะนักบิน แซ่บๆทั้งนั้น นักแสดงหลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตาดี และมีนักบินจากเรื่อง Hidden Figuresด้วยนะ ว่าละทำไมคุ้นๆหน้าคนนี้จัง
หนังมีความซ่อนความเก่า ความเก๋า ความคลาสสิค ของหนังยุคนั้น ขนาดไม่ใช่แฟนหนัง ไม่เคยดูมาก่อน ยังรู้เลยว่า ทำมาเพื่อแฟนเซอร์วิสจริงๆ
อารมณ์เหมือนมีความเป็นหนังยุคนั้น แต่ก็มีความสมัยใหม่ผสมอยู่ด้วย มันดีและลงตัวมาก บอกเลยว่า หนังโคตรเท่เลย
ฉากขับเครื่องบิน คือสนุก ตื่นเต้น เหมือนเราเข้าไปขับด้วยจริงๆ
มุมกล้อง งานภาพ โทนสี มูดและโทนของหนัง คือแบบอะไรที่โคตรชอบเลย สวย คลาสสิค ได้อารมณ์เหมือนย้อนเวลากลับไปช่วงนั้นจริงๆ ส่วนนี้ทำออกมาดีมากจริงๆ
และส่วนที่ชอบของหนัง ชอบที่สุด คือดนตรีประกอบ soundtrackคือทำออกมาโคตรดี บรรเลงได้แบบ เพราะ ทำออกมาได้ดีทุกฉาก เข้ากับหนังมาก โคตรได้อารมณ์ ปลุกอารมณ์มาก ทำเอาขนลุกตั้งแต่ต้นยันจบ ในเรื่องของงานเสียง แบบให้100/10เลย ทำออกมาดีจริง คือแบบมันมีความขลัง ความยิ่งใหญ่ ความคลาสสิค และความทรงพลังอยู่ในนั่นตลอดเวลา ฟังละฮึกเหิมมาก โคตรได้ฟีล
แถม OST. ก็เพราะมาก เพราะทุกเพลง
ข้อด้อยของหนัง ส่วนตัวคิดว่า หลายๆฉากในหนัง ทุกอย่างมันดูง่ายไป และอะไรๆหลายๆอย่าง ดูเป็นใจไปซะหมด ทั้งที่มันไม่น่าจะราบรื่นขนาดนั้น
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ไปเลย 8/10 คะแนน ชอบนะ จากที่ไม่คาดหวัง คืออิ่มกำลังดี ประทับใจ ในแบบที่หนังแนวนี้ พึงจะให้ความสุข ความบันเทิงกับคนดูได้
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะ