. . .หนึ่งในประเทศที่เป็นจุดหมายหรือ bucket list การท่องเที่ยวยุโรปของหลายๆ คน คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า "Switzerland"
คงที่บรรจุไว้อยู่ในนั้นแน่นอน ประเทศที่ไม่ว่ามองผ่านรูปภาพ ผ่านสื่อไหนๆ ก็จะเห็นธรรมชาติที่สวยงาม ที่ชวนเชิญให้ไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดู
ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ด้วยความที่มาเรียนที่ต่างประเทศในยุโรป (ฝรั่งเศส) ถึง 3 ปี และอยู่ใกล้สถานที่เที่ยวในฝันแค่เอื้อม พอได้เวลา
ประจวบเหมาะ รออะไรล่ะครับ วางแพลน จองตั๋ว จัดกระเป๋า สะพายกล้อง และออกเดินไปพร้อมกันเลย . . .


(cr. kyokook สมาชิกแกงค์ ....โว้ย)
 
          ____________________________________________________________________________________________
          ____________________________________________________________________________________________

การออกเดินทางครั้งนี้มีน้องชายที่รู้จักกันมานานตั้งแต่อยู่ที่ไทยร่วมเดินทางไปด้วยกัน ช่วยกันในเรื่องของการวางแพลนต่างๆ
ด้วยความที่เราชอบถ่ายรูปทั้งคู่ แผนจะออกไปแนวยืดหยุ่น ใช้เวลาสัมผัสธรรมชาติ ดื่มด่ำไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถ่ายรูปเก็บเป็นประสบการณ์
ในช่วงปลายเดือนเมษาที่อายุไม่หนาว ไม่ร้อน เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดหนาว จนกว่าจะพอใจ แล้วเราถึงจะเปลี่ยนสถานที่ไปตามจังหวะหน้างาน

📓 เราเที่ยวกันทั้งหมด 5 วัน 4 คืน ผมขอแนะนำใครก็ตามที่จะเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ซื้อ Swiss Pass ไว้เถอะครับ
แล้วทุกอย่างในการเดินทางจะสะดวกขึ้น เพราะตั๋วนี้จะสามารถทำให้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้เกือบทุกชนิดในราคาเหมาจ่ายตามวันที่กำหนด
โดยการใช้งานก็แสดงตั๋วนี้พร้อมกับ passport, visa ทุกครั้งกับพนักงานตั๋ว  ***แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์จะไม่ได้ถูกรวมเข้าไป
จะเป็นในส่วนการลดราคาตั๋วแทน 25-50% แล้วแต่สถานที่

อย่างพวกเราเลือกเป็น Swiss Travel Pass 4 days ราคาอยู๋ที่ 281 CHF (ประมาณหนึ่งหมื่นบาท)
ติดตามรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://www.swiss-pass.ch/

📓ช่วงเวลาที่เราเลือกไปเที่ยวตอนปลายเดือนเมษา เป็นช่วง low season เพราะฉะนั้นราคาที่พักก็จะค่อนข้างถูก แต่ร้านค้า, โรงแรมบางส่วน
ขนส่งสาธารณะบางประเภทก็จะหยุดให้บริการ ซึ่งเป็นที่มาของความโหดมันฮาที่จะเล่าให้ฟังต่อไป

นี้เป็นแผนเที่ยวที่เราออกแบบกันไว้


เราเริ่มออกเดินจากฝรั่งเศสช่วงเย็นๆ ไปลงที่สนามบินที่อยู่ทางตอนบนของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เมือง Basel
แวะพักหาอะไรกินกันก่อนจะนั่งรถไฟต่อจาก Basel HBF ไปยัง Interlaken Ost HBF ที่เมือง Interlaken
เพื่อพักผ่อนก่อนจะเที่ยวตามแผนที่วางไว้ในวันถัดไป

เก็บหน้าสถานีรถไฟกับบรรยากาศยามเย็นกันเล็กช่วงพระอาทิตย์ตก อากาศเย็นกว่าที่คาดไว้นิดหน่อยประมาณ 12°C


ข้างในชานชาลาของสถานีรถไฟเมือง Basel อย่างกล่าวไปเดินทางจากตอนบน ลงไปตอนล่างลัดเลาะไปตามเมืองและภูเขา
แต่ใช่เวลาเพียงสองชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ

ที่เมือง Interlaken ที่พักสามารถหาได้ไม่ยากเพราะเป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางสำหรับสถานที่ ที่เราจะเที่ยวในทริปนี้กัน
ซึ่งสามารถเลือนอนได้ทั้งฝั่ง Interlaken Ost (ตะวันออก) ที่จะค่อนข้างเป็นเมืองมากกว่ามีห้างร้าน ร้านอาหารให้บริการเยอะกว่า
แต่ถ้าชอบบรรยากาศสงบๆ ก็ให้เลือกฝั่ง Interlaken West ในทริปนี้เราได้พักกันทั้งสองฝั่งได้เห็นความแตกต่างที่กล่าวไป

คืนนี้ขอพักผ่อนชาร์จพลังไว้สำหรับพรุ่งนี้กันก่อน
ปล.หมอนน้องวัวที่ถึงแม้พวกเราจะเป็นผู้ชายทั้งสองคน ก็อยากจะขโมยกลับบ้าน