สวัสดีค่ะทุกคน…วันนี้เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์ที่แบบไม่รู้ว่ามันเกินไปรึเปล่าหรือเราคิดมากไปเอง คือเรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนอายุ22ย่าง23ปี คบกันมาปีนี้จะเข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ ส่วนตัวคือเพิ่งเรียนจบป.ตรีได้1 ปี ขอเล่ากลับไปในตอนที่เพิ่งเรียนจบนะคะ เรากับแฟนจบที่เดียวกัน เรียนมอในเมืองแถวบ้านในจังหวัดเล็กๆแห่งนึงของภาคกลาง ซึ่งก็เป็นจังหวัดเดียวกันกับบ้านเกิดของพวกเรา เพียงแค่มาเรียนในเมืองต่างอำเภอ เรากับแฟนตั้งใจว่าจบแล้วจะหางานทำแถวนี้ไม่ได้จะกลับบ้านเกิดเพราะตั้งใจไว้ว่าจะให้บ้านเกิดเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะกลับไปจริงๆ ก็หางานจนได้เป็นงานในห้างของจังหวัดทั้งคู่ เงินเดือน9500 หักประกันสังคม ประกันงาน จ่ายค่าห้อง ค่ากิน ค่าน้ำมัน โดยรวมมีเก็บไม่ถึง5พันต่อเดือนสำหรับเรา2คน แต่เราก็ทำๆไปก่อนเพราะงานตอนนี้หายากมากๆ ค่อยๆทำไปเก็บไปเรื่อยๆ ก็ตามประสาคนจบใหม่เพิ่งเข้าสู่ในวัยทำงานก็จะมีการตื่นเงินเล็กน้อยๆ กินบ้างไปเที่ยวบ้าง ตามประสาวัยรุ่น จนเรากับแฟนทำงานมาได้เกือบปี แม่แฟนเราอยากให้เก็บเงินให้ได้ในอุดมคติคือหลักแสน หลังแฟนเราเกณฑ์ทหารจะให้แฟนเราออกรถยนต์มาขับ เราเลยคิดว่าพวกเรายังไม่พร้อมเพราะเพิ่งทำงานได้ไม่นานบวกกับเงินเดือนเท่านี้อยากทำไปเก็บไปเรื่อยๆซึ่งเราคิดวางแผนอนาคตกันไว้อยู่แล้วว่าจะออกรถ แต่งงาน ก่อนอายุ30 แม่แฟนก็จะจี้ถามแฟนเรามาตลอดว่าเก็บตังได้เท่าไหร่แล้ว ในทุกๆเดือน จนแฟนเราเกณฑ์ทหารเสร็จได้ใบดำ พ่อแม่แฟนเลยบอกให้แฟนเราไปดูรถที่โชว์รูมพร้อมบอกว่า นัดเซลล์ไว้แล้ว เรากับแฟนก็ไป เพราะคิดว่าให้ไปดูรถเฉยๆว่าชอบแบบไหน ปรากฎว่าเขาจะออกจริงๆ เพราะพ่อแม่แฟนบอกว่า เขามีเงินดาวน์ให้พวกเรา 2แสน แต่แฟนเรายังไม่มีความพร้อมที่จะออกเพราะนางขับรถไม่เป็น เงินเก็บก็ยังไม่ถือว่ามากเท่าไหร่ แฟนเลยเรามีปัญหากับแม่แฟน แม่เลยโทรมาบ่นแฟนเราว่า ทำงานมาจะเกือบปีทำไมไม่มีเงินเก็บ แม่อยู่บ้านแทบไม่ได้ใช้เงินด้วยซ้ำ ยังมีเก็บเป็นแสน เห็นคนแถวบ้านไหม เรียนไม่จบด้วยซ้ำเขามีงานดี ออกรถขับกันแล้ว นี่อะไรจบป.ตรีมา ไม่มีปัญญาเก็บเงินออกรถ (แฟนเราเป็นคนที่ขัดพ่อแม่ไม่ค่อยได้เพราะบ้านเขาเลี้ยงดูแบบเข้มงวด ต้องจบสูง มีรถ มีงานดี จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน ผิดกับบ้านเรา บ้านเราจะเลี้ยงแบบให้ลองผิดลองถูก ไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยมีพ่อแม่ซัพพอร์ต เราสามารถออกความเห็นกับพ่อแม่ได้อย่างเสรี พ่อแม่รับฟังและแก้ปัญหาด้วยกัน ) กลับมาต่อเรื่องกัน หลังจากว่าวันนั้น แม่แฟนเราแก้ปัญหาโดยการที่ทุกเดือนที่เงินออกจะให้แฟนเราโอนไปให้เดือนละ 5 พันจนกว่าจะออกรถ จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ แล้วตอนนี้เรากับแฟนเราได้งานใหม่ทั้งคู่ แต่เรทๆเงินเดือนก็ไม่ต่างจากที่เก่ามาก มีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง เรากับแฟนจะต้องประหยัดมากขึ้น เพราะจะได้เก็บเงินไม่ให้แม่แฟนดูถูกได้ บางเดือนกินมาม่า ปลากระป๋องทั้งเดือน แต่มันก็ทำให้มีเงินเก็บก็ถือว่าโอเค แต่พอเงินเดือนออกที่ไร แม่แฟนก็จะมาละ "อย่าลืมหน้าที่นะ อย่าให้ต้องทวง " ก็ต้องโอนให้ตรงเป๊ะทุกเดือน ซึ่งเราก็คิดนะว่า คงหวังดีกับเราอยากให้มีแล้วก็ประสบความสำเร็จเร็วๆ แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่ามันดูเกินเบอร์ไปหรือเปล่า ยาวหน่อยนะคะ เราไม่รู้ว่าจะระบายให้ใครฟังได้มันเก็บมานานพอสมควร เก็บไว้คนเดียวเราเครียดมาก ผิดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ
ไม่รู้ว่าเกินไปรึเปล่า