จะว่าไปแล้วมันก็มาถึงจุดจุดหนึ่งที่  นักบอลลูกครึ่งไทย ต้องมานั่งดูลูกยิงสวยๆของทีมเวียดนาม ที่ยิงใส่ทีมชาติตัวเองให้สื่อเวียดนามถ่าย

เวียดนาม ที่ครั้ง1เคยแพ้ไทยบ่อยมาก นี่อาจเป็น turning point(จุดเปลี่ยน) วงการฟุตบอลเลยว่า เวียดนาม คงไม่เป็นรองไทยอีกต่อไปแล้ว
หนำซ้ำ จิตวิทยาเวียดนาม ยังสามารถนึกถึง3แต้มได้ทั้ง อินโด มาเล และไทย อย่างไม่น่ากังวลอะไร 
เหมือนที่จิตยาไทยนึกถึง3แต้ม ที่เมื่อเจอ เวียดนาม อินโด มาเล

เรื่องจิตวิทยาเวียดนาม สมัยก่อนคิดไปก่อนว่าเจอไทยต้องเป็นรองไว้ก่อนปี1995 เพราะเมื่อก่อน ประเทศเวียดนาม มีสถานะยากจนมาก เคยมีGDPตาม ปินส์9เท่า ตามไทย11เท่า 
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)_per_capita
แต่พอปี2020 เป็นต้นมา เวียดนามพ้นสถานะเป็นประเทศยากจน มาสู่ประเทศพัฒนาปานกลาง GDP 4,122 US แซง ปินส์ GDP 3,687 US
ตามหลังไทย GDP 7,449 US ครึ่งเดียว

ความเป็นอยู่คนเวียดนามดีขึ้น ชนชั้นกลางขยายตัวขึ้น การเลี้ยงดูโภชณาการดีขึ้น+กรรมพันธุ์แต่เดิม ที่ตัวใหญ่หนากว่าคนอาเซียนทั่วไปอยู่แล้ว
ทำให้การพัฒนากีฬาเวียดนาม ความคิดผู้คนก้าวหน้าขึ้นมาก +กับความเป็นคนที่มีความคิดแบบเอเชียตะวันออก วัฒนธรรมค้าขายนักธุรกิจหัวการค้า ผิวขาว หน้าตาดี ยิ่งไปกันใหญ่ที่ทำให้จิตวิทยาเขามันทำให้คนเวียดนามคิดว่าตัวเองเหนือกว่าชาติอื่นๆในอาเซียน

กีฬาซีเกมส์ ที่เพิ่งจบไป เวียดนามเจ้าเหรียญทอง ในประเภทกีฬาโอลิมปิก 
สิ่งเหล่ารวมๆแล้วเขาไม่ได้กลัวไทยอีกต่อไป ด้วยสถานะของประเทศที่ไม่ได้ห่างกันมากแบบสมัยก่อนๆอีก