ส่งลูกไปเนอสเซอรี่แบบประจำทุกวัน กับ "วันเว้นวัน" ให้ดีผลเสียต่างกันอย่างไร

ตอนนี้ลูกแฝดธรรมชาติอายุได้ 1ขวบครึ่งพอดี
ที่ผ่านมาภรรยาและผมเลี้ยงลูกกันเองอยู่ที่บ้าน โชคดีที่ที่งานให้ work from home ทั้งคู่มาตั้งแต่โควิดระบาด

แต่ไปๆมาๆพบว่าเราทั้งคู่ไม่ได้เลี้ยงลูกแบบมีคุณภาพสักเท่าไหร่
เพราะเนื่องจากเราทั้งคู่ต่างต้องทำงาน ปล่อยให้ลูกเล่นกันเองบ่อยๆ
โควิดก็กลัว นานๆทีถึงจะพาลูกออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน

ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าลูกๆจะพัฒนาการช้า ถึงจะไม่ได้ติดจอ แต่ไม่ค่อยพูด
ไม่มีความเป็นระเบียบ และร้องไห้งอแงเป็นประจำ
นอกจากนั้นเวลาเจอญาติยังร้องไห้กลัว จนจากที่ญาติจะเอ็นดูกลายเป็นพารู้สึกหลานไม่น่ารัก
บอกว่าเราเอาแต่กลัวโควิด ไม่ยอมพาลูกไปข้างนอก ทำให้ลูกกลัวการเข้าสังคม
ตอนนี้ภรรยาและเราเลยปรึกษากันว่าอยากจะส่งลูกไปเนอสเซอรี่
หวังจะให้เขาได้มีพัฒนาการที่ตามทันคนอื่น และรู้วิธีเข้าสังคมกับคนอื่นนอกจากพ่อและแม่บ้าง

ปัญหาที่ตามมาคือถ้าส่งไปเรียนเนอสเซอรี่แบบประจำทุกวัน เราจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเดือนละ 3-4หมื่น
ซึ่งค่อนข้างหนักสำหรับเรา
พอดีทางโรงเรียนให้optionมาอีกอันคือ สามารถมาเรียนได้วัน จ พ ศ ค่าใช้จ่ายก็จะเหลือในช่วง 2-3หมื่น
ซึ่งถือว่าพอรับไหว
แต่เราก็กลัวว่า ถ้าส่งไปแบบวันเว้นวันแบบนี้ เด็กจะได้รับการพัฒนาสิ่งต่างๆอย่างที่ควรจะเป็นหรือเปล่า
หรือจะทำให้พัฒนาการเขายังคงช้าอยู่มั้ย หรือหนักสุดเลยคือเหมือนไม่ได้อะไรเลย

เลยอยากจะขอปรึกษาแม่ๆพ่อๆทุกๆท่านทาน ทั้งมีประสบการณ์หรือไม่มี ว่าคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ
ป.ล. เราไม่สามารถส่งเนอสเซอรี่ที่ถูกกว่านี้ได้ เนื่องจากการเดินทางที่ไม่สะดวกครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เท่าที่อ่านมา น้อง ขวบครึ่ง ยังไม่ค่อยพูด แต่ถ้าเริ่มพูดบ้างแล้วเป็นคำๆ ก็ยังไม่ถือว่าพัฒนาการช้านะคะ

ส่วนเรื่องกลัวคนแปลกหน้า  กลัว ญาติผู้ใหญ่ที่น้องไม่คุ้นหน้า แล้วร้องไห้ ในวัยนี้ปกติค่ะ จะเป็นไปจน 2 ขวบกว่าๆ ไม่เกี่ยวกับการเข้าสังคม เด็กที่เจอคนแปลกหน้าแล้วไม่ร้องเลย นั่นสิแปลก เผลอๆอาจผิดปกติ เช่น เด็กออทิสติกบางคนก็ไม่รับรู้ว่าใครคือคนแปลกหน้า ให้ใครจับ ให้ใครอุ้มก็ได้ ถ้าเด็กไม่จ้องตาคน ไม่ มีความรู้สึกระแวดระวังคนแปลกหน้าเลย แบบนั้นน่ากังวลกว่าค่ะ

เด็กบางคนปรับตัวง่าย บางคนปรับตัวยาก  ลูกเราพาไปเข้ากลุ่มจิมโบรี่ตั้งแต่เริ่มคลาน  พาไปทำกิจกรรมเพลย์กรุ๊ปทุกสัปดาห์ตั้งแต่ยังไม่ 1 ขวบ  พาออกข้างนอกไปเล่นนอกบ้านบ่อยมาก  พอมีโควิดก็เบรกไป  ถ้าต้องพาเข้าสังคมกว่านี้ก็ไม่รู้ต้องทำยังไงแล้ว เพราะลูกได้ออกนอกบ้านเจอคนแทบทุกวีน  

แต่ก็ยัง...ร้องไห้เวลาเจอคนแปลกหน้าที่จะมาเข้าใกล้หรือมาจับ มาอุ้ม   เป็นแบบนี้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน พอขวบกว่า ก็ร้องหนักเวลาญาติที่จะมาอุ้ม  2 ขวบกว่าเริ่มร้องน้อยลง แต่จ้องตาและไม่ยอมให้ใครมาจับตัว จนกว่าจะใช้เวลาทำความคุ้นเคย  แต่พอโตมาหน่อยอาการพวกนี้หายไปเอง

แต่เรื่องกลัวคนแปลกหน้า ปกติจริงๆสำหรับเด็กค่ะ มากน้อยขึ้นอยู่กับเด็ก  หมอเด็กที่เราถามแกยังบอกเลยว่าเด็กที่ไม่กลัวไม่ร้องเลยสิแปลก

มาเข้าประเด็น เอาเข้าเนอส  เราไม่แนะนำให้เอาเข้าตอนนี้ค่ะ เด็กเล็กไม่ควรไปอยู่เนอส  เสี่ยงติดหวัด ติดโรคเพราะเด็กวัยนี้ป่วยบ่อย ป่วยง่าย ไปรวมกันโอกาสป่วยสูงกว่าเด็กโต

การเข้าสังคมไม่ใช่การไปอยู่เนอส  อายุแค่ขวบกว่าถ้ามีเงินจ่ายค่าเนอสหลายๆหมื่นได้ อยู่บ้านแล้วจ้าง Nanny คุณภาพ  ที่เล่นกับเด็กๆเป็น อ่านนิทานให้เด็กได้ ชวนเด็กระบายสีง่ายๆ ปั้นดินน้ำมัน ต่อบล๊อก เล่นบทบาทสมมติกับเด็กได้  ชวนทำกิจกรรม ทำขนม ร้อยลูกปัด ตอกใข่/ตีใข่ กรอกน้ำ พาไปวิ่งเล่นใกล้ย้าน พาเด็กๆดล่นสายยาง ล้างรถ รดน้ำต้นไม้  นี่คือกิจกรรมเสริมพัฒนาการและทักษะที่เด็กขวบกว่าทำได้ และอยากจะทำ  ถ้าไม่อยากให้อยู่ฟูลไทม์ ก็จ้างไปกลับก็ได้

ส่วนพ่อแม่หากมีเวลา ถ้าอยู่ กทม ลองพาน้องไปทำกิจกรรมแบบ Playgroup ลองเสิร์จหากิจกรรมสำหรับเด็กละแวกใกล้บ้าน   ที่พ่อแม่ไปกับน้องแล้วให้น้องทำกิจกรมร่วมกับเพื่อนๆวัยเดียวกัน โดยมีครูนำกิจกรรม

ถ้าจำเป็นต้องเข้าเนอส แนะนำให้ไปน้อยที่สุด เพราะน้องยังเล็ก ไม่ควรไปอยู่เนอสหรือโรงเรียนนานๆทั้งวัน เช่น ไปแค่ 3 ช.ม /3 ครั้งต่อสัปดาห์ (ลูกเราเข้าเรียนครั้งแรก 3 ขวบครึ่งก็เริ่มจากแบบนี้ก่อนค่ะ) หลายเดือนปรับตัวได้ค่อยเพิ่มเวลา

สุดท้ายอยากให้คุณพ่อลองพิจารณาทางเลือกอื่นนอกจากเนอส เช่น จ้างพี่เลี้ยงหรือ nanny พาร์ทไทม์ ที่รักเด็กและเล่นกับเด็กเป็น มาดูลูกที่บ้านเป็นรายวัน หรือสักครึ่งวันก็ยังดีในช่วงพ่อแม่ยุ่งๆ ถ้าอยากให้พบคนบ้าง เย็นๆลองพาน้องออกไปเดินเล่นในแภวบ้านบ้างเพื่อไปเจอคน หรือเด็กรุ่นเดียวกัน เด็กวัยนี้ไม่จำเป็นต้องไปเนอสเพื่อเอาสังคมค่ะ วัยนี้ยังก้มหน้าเล่นของใครของมันอยู่ แต่พ่อแม่พาลูกออกไปทำกิจกรรมบ่อยๆจะเสริมพัฒนาการเด็กได้ ดีกว่าอยู้แต่บ้าน ไม่ได้ทำกิจกรรมหรือไม่ได้ไปไหนเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่