ภิกษุทั้งหลาย ! เรื่องนี้เคยมีมาแล้ว : มีสระใหญ่ในที่ใกล้ป่าแห่งหนึ่ง.
ช้างทั้งหลายได้อาศัยหากินในสระใหญ่แห่งนั้น. มันลงสู่สระแล้ว ใช้งวง
ถอนหัวบัวและรากบัวขึ้นมา แล้วแกว่งไปแกว่งมาในน้ำ ทำให้หมดเปือกตม
แล้วใส่ปากเคี้ยวให้ดีเสียก่อน จึงกลืนลงไป. การกินอย่างนี้ของช้างเหล่านั้น
ย่อมทำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่ง มีพละกำลัง และไม่ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์
เจียนตาย ; เพราะข้อที่ช้างนั้นรู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ. ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนพวกลูกช้าง
เล็ก ๆ อยากจะเอาอย่างช้างใหญ่ ๆ บ้าง, มันจึงลงสู่สระบัวนั้น ใช้งวงถอน
หัวบัวและรากบัวขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แกว่งไปแกว่งมาในน้ำ มีเปือกตมติด
อยู่ ก็เอาเข้าใส่ปาก ไม่ได้เคี้ยวให้ดีเสียก่อน กลืนลงไปแล้ว. การกินอย่างนี้
ของพวกลูกช้างเล็ก ๆ นั้น ย่อมไม่ทำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่งมีพละกำลัง แล้วยัง
จะถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ลูกช้างเหล่านั้น
ไม่รู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ ;
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ภิกษุผู้เถระทั้งหลาย ในกรณีนี้ เวลาเช้า
ครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้านหรือนิคม เพื่อบิณฑบาต, พวกภิกษุ
ผู้เถระเหล่านั้น ย่อมกล่าวธรรมอยู่ในที่นั้น ๆ ; พวกคฤหัสถ์ผู้เลื่อมใสต่อภิกษุ
ผู้เถระเหล่านั้น ย่อมทำอาการแห่งผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวกภิกษุผู้เถระนั้นเล่า
ก็ไม่ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในลาภนั้น ๆ , เป็นผู้มองเห็น
ส่วนที่เป็นโทษ เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ แล้วจึง
ทำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เถระเหล่านั้น ย่อมทำให้มี
ร่างกายสุกใส มีพละกำลัง และไม่ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ;
เพราะข้อที่ท่านเหล่านั้นรู้จักการทำการฉัน นั้นเองเป็นเหตุ.
ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนพวกภิกษุผู้หย่อนวัย อยากจะเอาอย่างพวกภิกษุผู้เถระ
เหล่านั้นบ้าง, เวลาเช้า ก็ครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้านหรือนิคม
เพื่อบิณฑบาต. พวกเธอก็กล่าวธรรมอยู่ในที่นั้น ๆ ; พวกคฤหัสถ์ผู้เลื่อมใส
ต่อภิกษุผู้หย่อนวัยเหล่านั้น ย่อมทำอาการแห่งผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวกภิกษุ
ผู้หย่อนวัยนั้นเล่า ก็ติดอกติดใจ สยบอยู่ เมาหมกอยู่ ในลาภนั้น ๆ,
เป็นผู้ไม่มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่อง
ออกไปจากทุกข์ ทำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เด็ก ๆ
เหล่านั้น ย่อมไม่ทำให้มีร่างกายสุกใส มีพละกำลัง (ชนิดเดียวกับผู้ที่บริโภค
เพียงเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่การประพฤติพรหมจรรย์) แต่ได้กลับถึงซึ่งความ
ตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ภิกษุเด็ก ๆ เหล่านั้น ไม่รู้จักการ
ทำการฉัน นั้นเองเป็นเหตุ.
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ว่า
“เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในปัจจัยลาภ มี
ปรกติมองเห็นส่วนที่เป็นโทษ เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจาก
ทุกข์ ทำการบริโภคปัจจัยลาภนั้น ๆ” ดังนี้. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอทั้งหลาย พึง
สำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.
นิทาน. สํ. ๑๖/๓๑๓/๖๗๘.
ขี้ตามช้าง
ช้างทั้งหลายได้อาศัยหากินในสระใหญ่แห่งนั้น. มันลงสู่สระแล้ว ใช้งวง
ถอนหัวบัวและรากบัวขึ้นมา แล้วแกว่งไปแกว่งมาในน้ำ ทำให้หมดเปือกตม
แล้วใส่ปากเคี้ยวให้ดีเสียก่อน จึงกลืนลงไป. การกินอย่างนี้ของช้างเหล่านั้น
ย่อมทำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่ง มีพละกำลัง และไม่ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์
เจียนตาย ; เพราะข้อที่ช้างนั้นรู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ. ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนพวกลูกช้าง
เล็ก ๆ อยากจะเอาอย่างช้างใหญ่ ๆ บ้าง, มันจึงลงสู่สระบัวนั้น ใช้งวงถอน
หัวบัวและรากบัวขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แกว่งไปแกว่งมาในน้ำ มีเปือกตมติด
อยู่ ก็เอาเข้าใส่ปาก ไม่ได้เคี้ยวให้ดีเสียก่อน กลืนลงไปแล้ว. การกินอย่างนี้
ของพวกลูกช้างเล็ก ๆ นั้น ย่อมไม่ทำให้เนื้อตัวเปล่งปลั่งมีพละกำลัง แล้วยัง
จะถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ลูกช้างเหล่านั้น
ไม่รู้จักกินนั้นเองเป็นเหตุ ;
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ภิกษุผู้เถระทั้งหลาย ในกรณีนี้ เวลาเช้า
ครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้านหรือนิคม เพื่อบิณฑบาต, พวกภิกษุ
ผู้เถระเหล่านั้น ย่อมกล่าวธรรมอยู่ในที่นั้น ๆ ; พวกคฤหัสถ์ผู้เลื่อมใสต่อภิกษุ
ผู้เถระเหล่านั้น ย่อมทำอาการแห่งผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวกภิกษุผู้เถระนั้นเล่า
ก็ไม่ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในลาภนั้น ๆ , เป็นผู้มองเห็น
ส่วนที่เป็นโทษ เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ แล้วจึง
ทำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เถระเหล่านั้น ย่อมทำให้มี
ร่างกายสุกใส มีพละกำลัง และไม่ถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ;
เพราะข้อที่ท่านเหล่านั้นรู้จักการทำการฉัน นั้นเองเป็นเหตุ.
ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนพวกภิกษุผู้หย่อนวัย อยากจะเอาอย่างพวกภิกษุผู้เถระ
เหล่านั้นบ้าง, เวลาเช้า ก็ครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่ย่านหมู่บ้านหรือนิคม
เพื่อบิณฑบาต. พวกเธอก็กล่าวธรรมอยู่ในที่นั้น ๆ ; พวกคฤหัสถ์ผู้เลื่อมใส
ต่อภิกษุผู้หย่อนวัยเหล่านั้น ย่อมทำอาการแห่งผู้เลื่อมใส. อนึ่ง พวกภิกษุ
ผู้หย่อนวัยนั้นเล่า ก็ติดอกติดใจ สยบอยู่ เมาหมกอยู่ ในลาภนั้น ๆ,
เป็นผู้ไม่มองเห็นส่วนที่เป็นโทษ ไม่เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่อง
ออกไปจากทุกข์ ทำการบริโภคลาภนั้น. การบริโภคอย่างนี้ของภิกษุผู้เด็ก ๆ
เหล่านั้น ย่อมไม่ทำให้มีร่างกายสุกใส มีพละกำลัง (ชนิดเดียวกับผู้ที่บริโภค
เพียงเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่การประพฤติพรหมจรรย์) แต่ได้กลับถึงซึ่งความ
ตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย ; เพราะข้อที่ภิกษุเด็ก ๆ เหล่านั้น ไม่รู้จักการ
ทำการฉัน นั้นเองเป็นเหตุ.
ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ว่า
“เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ติดอกติดใจ ไม่สยบ ไม่เมาหมก ในปัจจัยลาภ มี
ปรกติมองเห็นส่วนที่เป็นโทษ เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบายเป็นเครื่องออกไปจาก
ทุกข์ ทำการบริโภคปัจจัยลาภนั้น ๆ” ดังนี้. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอทั้งหลาย พึง
สำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.