3 ปัจจัยฉุดศก.ไทย “ttb analytics” ปรับลดคาดการณ์ปีนี้โตแค่ 2.8% คาดฟื้นตัวอีกทีปลายปี’67
https://www.matichon.co.th/economy/news_3380679
“ttb analytics” ปรับลดคาดการณ์ศก.ไทยโตแค่ 2.8% จาก 3 สาเหตุ คาดฟื้นตัวอีกทีปลายปี’67
ในไตรมาส 1/2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันในปี 2564 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้าย ทั้งในส่วนของการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกสินค้า แต่ในระยะต่อไป แรงส่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยจะลดลง หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวชัดเจน อันเป็นผลจากสงครามในยุโรปและผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เร่งตัว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มมีข้อจำกัด
สำหรับเศรษฐกิจภาคต่างประเทศปี 2565 ของไทย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ได้ปรับลดอัตราการเติบโตของปริมาณการส่งออกสินค้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าลงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยในเดือนเมษายน 2565 ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2565 ลงเหลือเพียง 3.6% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 4.4% นอกจากนี้ ปัญหาการชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่จีนมีมาตรการล็อกดาวน์เมืองที่เป็นฐานการผลิตสำคัญหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลต่อกระบวนการผลิตและการส่งออกสินค้าบางส่วนของไทย สำหรับแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะช่วยรักษาศักยภาพการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลกได้เพียงบางส่วน
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังฟื้นตัวสอดคล้องกับที่เคยประเมินไว้ จึงคงจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 อยู่ที่ 4.5 ล้านคน นำโดยนักท่องเที่ยวจากยุโรป อาเซียน และเอเชียตะวันออก (ไม่รวมจีน) ที่ยังเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นตามคาด หลังไทยผ่อนคลายมาตรการที่ทำให้การเดินทางเข้าออกประเทศสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงทรงตัวในระดับต่ำ แต่คาดว่าจะเดินทางกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้นในไตรมาส 4/2565 หากความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่รุนแรงขึ้นในฝั่งจีนและเอเชียตะวันออกในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ส่วนแรงพยุงเศรษฐกิจภายในประเทศจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายในส่วน พรก. กู้เงินฉุกเฉินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทที่อนุมัติเมื่อกลางปี 2564 ซึ่งเหลือวงเงินจำกัดที่จะสามารถเบิกจ่ายได้อีกเพียง 7.4 หมื่นล้านบาท สำหรับนำมาพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ อีกทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนในส่วนรัฐวิสาหกิจในช่วงที่ผ่านมาทำได้ล่าช้าและต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้วยแรงส่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มแผ่วลง ส่งผลให้ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งความท้าทายจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงและค่าครองชีพทั้งที่เร่งตัวเร็วขึ้น โดยเฉพาะหลังการลอยตัวของราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจี พร้อมขึ้นค่าไฟฟ้านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้กำลังซื้อครัวเรือนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมลดลง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบเหล่านี้จะถูกชดเชยด้วยปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง หลังการระบาดในประเทศคลี่คลาย และมีความคืบหน้าของวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตและจับจ่ายใช้สอยได้ใกล้เคียงภาวะปกติมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านการท่องเที่ยว อาทิ การขยายเวลาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 และทัวร์เที่ยวไทยไปจนถึงเดือนกันยายน 2565 และการเพิ่มสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 1 ล้านสิทธิ์ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้จะช่วยพยุงให้การบริโภคภาคเอกชนยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้แรงส่งอาจแผ่วลงบ้างในช่วงที่เหลือของปี 2565
ทั้งนี้ การลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนหมวดเครื่องจักรและรถยนต์เชิงพาณิชย์ในประเทศ สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคการค้า แต่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้างยังได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้นตามราคาเหล็กและน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาด้วยผลกระทบจากภาวะขาดแคลนแรงงานก่อสร้างที่ต่อเนื่องมาจากปี 2564 หากภาครัฐประกาศให้การโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในครึ่งหลังของปี 2565 ก็จะเอื้อให้กิจกรรมก่อสร้างฟื้นตัวเร็วขึ้น
ดังนั้น ttb analytics จึงประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวที่ 2.8% ลดลงจาก 3.0% ในการประเมินครั้งก่อนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลานานขึ้นจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จึงจะสามารถกลับสู่ระดับศักยภาพที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินนี้ได้จากสาเหตุดังนี้
1) วิกฤตการณ์ด้านราคาพลังงาน การขาดแคลนอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ ที่อาจส่งผลต่อภาคครัวเรือน การผลิตและการส่งออกสินค้ามีความรุนแรงกว่าที่คาด
2) เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวนานกว่าที่คาดการณ์จากมาตรการ Zero-Tolerance COVID-19 Policy
และ 3) เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยหากไม่สามารถรองรับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ตึงตัวขึ้นเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามพัฒนาการต่อไป
เมื่อพิจารณากลยุทธ์การปรับตัว ภาครัฐควรเน้นให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และหาโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยในช่วงวิกฤตอาหารโลก โดยเน้นกระตุ้นกิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศให้เชื่อมโยงสู่เมืองรองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินจากผู้ที่มีกำลังซื้อไปสู่เศรษฐกิจชุมชนได้มากขึ้น และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเร่งลงทุนเพื่อปรับตัวเข้าสู่ BCG Economy อีกทั้ง เนื่องจากช่วงนี้เกิดวิกฤตอาหารโลก จากการที่หลายประเทศได้ประกาศห้ามส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จึงถือเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐควรเน้นความสำคัญของการบริหารจัดการต้นทุนของเกษตรกรให้ดีขึ้น เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการหาช่องทางกระจายสินค้าเกษตรและเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย ในช่วงวิกฤตอาหารและช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง
เผยธุรกิจรถทัวร์นำเที่ยวสะดุด โอดน้ำมันแพงลูกค้าหาย 50%
https://ch3plus.com/news/economy/morning/294237
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 65 นาย
วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนพ.ค. 65 ที่รัฐบาลประกาศปลดล็อกการท่องเที่ยวเกือบ 100% ในเดือนมิ.ย.65 กลุ่มลูกค้ากลับมาสอบถาม จับจองรถทัวร์นำเที่ยวกันคึกคัก แต่มาตอนนี้ธุรกิจต้องสะดุด เพราะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงไม่หยุด ผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยวทั่วไทยต้องปรับ package ค่าบริการใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 20% ทั้งราคาน้ำมันที่ใช้เติมและค่าอาหาร น้ำดื่ม สินค้าต่าง ๆ ที่ใช้ซึ่งขึ้นตาม ทำให้ลูกค้าชะลอการจองใช้บริการถึง 50%
โดยผู้ประกอบการกำหนดราคาน้ำมันไว้ล่วงหน้าที่ลิตรละ 35 บาท แต่ก็ยังกังวลว่าจะครอบคลุมต้นทุนหรือไม่ เนื่องจากลูกค้าจะใช้บริการจริงในช่วงไฮซีซันคือต.ค.-พ.ย.เป็นต้นไป กลัวว่าพอถึงตอนนั้นราคาน้ำมันจะสูงกว่าลิตรละ 35 บาท ทั้งนี้ หลังโควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวที่กลับมาใช้บริการ ส่วนใหญ่ 70% เป็นนักท่องเที่ยวไทย ที่เหลือเป็นต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นเอเชีย เช่น อินเดีย และเวียดนาม เพราะเปิดประเทศให้เดินทางเที่ยวได้
ทั้งนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในการนำคณะข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ศึกษาดูงาน เพื่อนำร่องในการใช้จ่ายกระตุ้นท่องเที่ยว เพราะตั้งแต่รัฐบาลประกาศปลดล็อก แต่ในความเป็นจริงยังไม่เห็นการใช้เงินดังกล่าว ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยที่ขยายสิทธินั้น ผู้ประกอบการรถทัวร์ไม่ได้รับอานิสงส์มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปเล็ก อานิสงส์จะตกไปกลับโรงแรม เครื่องบิน และรถขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถทัวร์นำเที่ยวในไทยก่อนหน้าโควิด-19 มีทั้งสิ้นราว 40,000 คัน หลังโควิด-19 เหลือที่ยังคงทำธุรกิจได้ราว 20,000 คัน แต่เมื่อมาเจอปัญหาน้ำมันแพง ผู้ประกอบการที่ยังคงให้บริการไหวอยู่ก็มีไม่ถึง 20,000 คัน
กลุ่มผู้ค้าสลาก โวยโดนตัดสิทธิขาย โดยไม่ไต่สวน ถาม 'บิ๊กตู่' จะทำหวย 80 หรือทำคนตกงานครึ่งแสน
https://ch3plus.com/news/economy/morning/294177
วานนี้ (2 มิ.ย. 65) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี อ.เมือง กลุ่ม
"ผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย" โดยการนำของ Admins ทุกภาคส่วนกว่า 1,000 คน สวมเสื้อสีขาว ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานกมธ.ปปช. ขอให้ตรวจสอบการจัดการโควต้าสลากกินแบ่งของกองสลาก ที่มีการตัดสิทธิผู้ค้ารายย่อยไปกว่า 50,000 ราย
แต่ยอมรับว่ามีบ้างส่วนส่งไปแพลตฟอร์มออนไลน์โดยที่ไม่รู้ตัว กองสลากควรไต่สวนก่อนตัดสิทธิไม่ใช่เหมารวม ผู้ค้าสลากบางคนขายมา 30-40 ปี การตัดสิทธิ์โดยที่ไม่ได้มีการไต่สวนในเรื่องนี้นั้น จึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้พล.ต.อ.
เสรีพิสุทธ์ รับเรื่องดังกล่าวเพื่อไปตรวจสอบต่อไป
นาย
สำอาง ซ่อนกลิ่น อายุ 50 ปี แกนนำผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย กล่าวว่า วันนี้มาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นเอกสารร้องเรียนเพิ่มเติม ในการที่จะขอให้มีคำสั่งระงับยับยั้ง ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับยับยั้ง ทบทวนการตัดสิทธิ์ ของสำนักงานกองสลาก โดยครั้งนี้เป็นการยื่นเป็นครั้งที่สาม
สองครั้งที่ผ่านมา ทางศาลมีประทับรับฟ้องและนัดไต่สวน ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่สิ่งที่เราขออยากให้คุ้มครอง ไต่สวนฉุกเฉินชั่วคราว ซึ่งทางเรายังไม่ได้การคุ้มครองจากตรงนั้น วันนี้เราหวังว่า จะได้การรับการคุ้มครองชั่วคราว
อยากฝากบอกสำนักกองสลากว่า อย่าให้ทางกลุ่มของตนต้องใช้กระบวนการศาลมากไปกว่านี้เลย เพราะทางกลุ่มของตนอยากทำตามกฎระเบียบ ถ้าทางท่านทำถูกต้อง และมีการชี้แจงผิดถูกค่อยว่ากัน เราจะได้ไม่ต้องมาทำแบบนี้ ทุกคนมาจับต่างจังหวัด มีความยากลำบากกันทั้งนั้น อยากให้ทางกองสลากช่วยทำให้ชัดเจนมากกว่านี้
อยากฝากถึงท่าน
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากคำสั่งของท่านที่ให้มา ขายหวย 80 บาท ซึ่งหวย 80 บาท ของท่าน มันไม่สามารถทำได้เลย สิ่งที่ท่านประยุทธ์ได้ จากโครงการหวย 80 บาทของท่านทำให้คนตกงานแน่ๆ เกือบ 50,000 คน ท่านลองเลือกดูแล้วกันว่าจะทำหวย 80 บาท หรือจะทำให้คนตกงาน มากกว่านี้ ฝากให้ท่านนายกช่วยทบทวนด้วย
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ :
https://youtu.be/dOWfVAxrc-E
JJNY : “ttb”ลดคาดปีนี้โตแค่ 2.8%│รถทัวร์โอดน้ำมันแพงลูกค้าหาย50%│ผู้ค้าสลากโวยโดนตัดสิทธิขาย│พท.เยือนสุรินทร์ 5 มิ.ย.
https://www.matichon.co.th/economy/news_3380679
“ttb analytics” ปรับลดคาดการณ์ศก.ไทยโตแค่ 2.8% จาก 3 สาเหตุ คาดฟื้นตัวอีกทีปลายปี’67
ในไตรมาส 1/2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันในปี 2564 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้าย ทั้งในส่วนของการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกสินค้า แต่ในระยะต่อไป แรงส่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยจะลดลง หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวชัดเจน อันเป็นผลจากสงครามในยุโรปและผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เร่งตัว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มมีข้อจำกัด
สำหรับเศรษฐกิจภาคต่างประเทศปี 2565 ของไทย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ได้ปรับลดอัตราการเติบโตของปริมาณการส่งออกสินค้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าลงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยในเดือนเมษายน 2565 ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2565 ลงเหลือเพียง 3.6% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 4.4% นอกจากนี้ ปัญหาการชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่จีนมีมาตรการล็อกดาวน์เมืองที่เป็นฐานการผลิตสำคัญหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลต่อกระบวนการผลิตและการส่งออกสินค้าบางส่วนของไทย สำหรับแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะช่วยรักษาศักยภาพการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลกได้เพียงบางส่วน
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังฟื้นตัวสอดคล้องกับที่เคยประเมินไว้ จึงคงจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 อยู่ที่ 4.5 ล้านคน นำโดยนักท่องเที่ยวจากยุโรป อาเซียน และเอเชียตะวันออก (ไม่รวมจีน) ที่ยังเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นตามคาด หลังไทยผ่อนคลายมาตรการที่ทำให้การเดินทางเข้าออกประเทศสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงทรงตัวในระดับต่ำ แต่คาดว่าจะเดินทางกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้นในไตรมาส 4/2565 หากความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่รุนแรงขึ้นในฝั่งจีนและเอเชียตะวันออกในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ส่วนแรงพยุงเศรษฐกิจภายในประเทศจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายในส่วน พรก. กู้เงินฉุกเฉินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทที่อนุมัติเมื่อกลางปี 2564 ซึ่งเหลือวงเงินจำกัดที่จะสามารถเบิกจ่ายได้อีกเพียง 7.4 หมื่นล้านบาท สำหรับนำมาพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ อีกทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนในส่วนรัฐวิสาหกิจในช่วงที่ผ่านมาทำได้ล่าช้าและต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้วยแรงส่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มแผ่วลง ส่งผลให้ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งความท้าทายจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงและค่าครองชีพทั้งที่เร่งตัวเร็วขึ้น โดยเฉพาะหลังการลอยตัวของราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจี พร้อมขึ้นค่าไฟฟ้านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้กำลังซื้อครัวเรือนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมลดลง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบเหล่านี้จะถูกชดเชยด้วยปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง หลังการระบาดในประเทศคลี่คลาย และมีความคืบหน้าของวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตและจับจ่ายใช้สอยได้ใกล้เคียงภาวะปกติมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านการท่องเที่ยว อาทิ การขยายเวลาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 และทัวร์เที่ยวไทยไปจนถึงเดือนกันยายน 2565 และการเพิ่มสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 1 ล้านสิทธิ์ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้จะช่วยพยุงให้การบริโภคภาคเอกชนยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้แรงส่งอาจแผ่วลงบ้างในช่วงที่เหลือของปี 2565
ทั้งนี้ การลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนหมวดเครื่องจักรและรถยนต์เชิงพาณิชย์ในประเทศ สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคการค้า แต่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้างยังได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้นตามราคาเหล็กและน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาด้วยผลกระทบจากภาวะขาดแคลนแรงงานก่อสร้างที่ต่อเนื่องมาจากปี 2564 หากภาครัฐประกาศให้การโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในครึ่งหลังของปี 2565 ก็จะเอื้อให้กิจกรรมก่อสร้างฟื้นตัวเร็วขึ้น
ดังนั้น ttb analytics จึงประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวที่ 2.8% ลดลงจาก 3.0% ในการประเมินครั้งก่อนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลานานขึ้นจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จึงจะสามารถกลับสู่ระดับศักยภาพที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินนี้ได้จากสาเหตุดังนี้
1) วิกฤตการณ์ด้านราคาพลังงาน การขาดแคลนอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ ที่อาจส่งผลต่อภาคครัวเรือน การผลิตและการส่งออกสินค้ามีความรุนแรงกว่าที่คาด
2) เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวนานกว่าที่คาดการณ์จากมาตรการ Zero-Tolerance COVID-19 Policy
และ 3) เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยหากไม่สามารถรองรับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ตึงตัวขึ้นเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามพัฒนาการต่อไป
เมื่อพิจารณากลยุทธ์การปรับตัว ภาครัฐควรเน้นให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และหาโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยในช่วงวิกฤตอาหารโลก โดยเน้นกระตุ้นกิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศให้เชื่อมโยงสู่เมืองรองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินจากผู้ที่มีกำลังซื้อไปสู่เศรษฐกิจชุมชนได้มากขึ้น และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเร่งลงทุนเพื่อปรับตัวเข้าสู่ BCG Economy อีกทั้ง เนื่องจากช่วงนี้เกิดวิกฤตอาหารโลก จากการที่หลายประเทศได้ประกาศห้ามส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จึงถือเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐควรเน้นความสำคัญของการบริหารจัดการต้นทุนของเกษตรกรให้ดีขึ้น เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการหาช่องทางกระจายสินค้าเกษตรและเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย ในช่วงวิกฤตอาหารและช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง
เผยธุรกิจรถทัวร์นำเที่ยวสะดุด โอดน้ำมันแพงลูกค้าหาย 50%
https://ch3plus.com/news/economy/morning/294237
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 65 นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนพ.ค. 65 ที่รัฐบาลประกาศปลดล็อกการท่องเที่ยวเกือบ 100% ในเดือนมิ.ย.65 กลุ่มลูกค้ากลับมาสอบถาม จับจองรถทัวร์นำเที่ยวกันคึกคัก แต่มาตอนนี้ธุรกิจต้องสะดุด เพราะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงไม่หยุด ผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยวทั่วไทยต้องปรับ package ค่าบริการใหม่ เพิ่มขึ้นอีก 20% ทั้งราคาน้ำมันที่ใช้เติมและค่าอาหาร น้ำดื่ม สินค้าต่าง ๆ ที่ใช้ซึ่งขึ้นตาม ทำให้ลูกค้าชะลอการจองใช้บริการถึง 50%
โดยผู้ประกอบการกำหนดราคาน้ำมันไว้ล่วงหน้าที่ลิตรละ 35 บาท แต่ก็ยังกังวลว่าจะครอบคลุมต้นทุนหรือไม่ เนื่องจากลูกค้าจะใช้บริการจริงในช่วงไฮซีซันคือต.ค.-พ.ย.เป็นต้นไป กลัวว่าพอถึงตอนนั้นราคาน้ำมันจะสูงกว่าลิตรละ 35 บาท ทั้งนี้ หลังโควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวที่กลับมาใช้บริการ ส่วนใหญ่ 70% เป็นนักท่องเที่ยวไทย ที่เหลือเป็นต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นเอเชีย เช่น อินเดีย และเวียดนาม เพราะเปิดประเทศให้เดินทางเที่ยวได้
ทั้งนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในการนำคณะข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ศึกษาดูงาน เพื่อนำร่องในการใช้จ่ายกระตุ้นท่องเที่ยว เพราะตั้งแต่รัฐบาลประกาศปลดล็อก แต่ในความเป็นจริงยังไม่เห็นการใช้เงินดังกล่าว ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยที่ขยายสิทธินั้น ผู้ประกอบการรถทัวร์ไม่ได้รับอานิสงส์มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปเล็ก อานิสงส์จะตกไปกลับโรงแรม เครื่องบิน และรถขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถทัวร์นำเที่ยวในไทยก่อนหน้าโควิด-19 มีทั้งสิ้นราว 40,000 คัน หลังโควิด-19 เหลือที่ยังคงทำธุรกิจได้ราว 20,000 คัน แต่เมื่อมาเจอปัญหาน้ำมันแพง ผู้ประกอบการที่ยังคงให้บริการไหวอยู่ก็มีไม่ถึง 20,000 คัน
กลุ่มผู้ค้าสลาก โวยโดนตัดสิทธิขาย โดยไม่ไต่สวน ถาม 'บิ๊กตู่' จะทำหวย 80 หรือทำคนตกงานครึ่งแสน
https://ch3plus.com/news/economy/morning/294177
วานนี้ (2 มิ.ย. 65) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี อ.เมือง กลุ่ม "ผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย" โดยการนำของ Admins ทุกภาคส่วนกว่า 1,000 คน สวมเสื้อสีขาว ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานกมธ.ปปช. ขอให้ตรวจสอบการจัดการโควต้าสลากกินแบ่งของกองสลาก ที่มีการตัดสิทธิผู้ค้ารายย่อยไปกว่า 50,000 ราย
แต่ยอมรับว่ามีบ้างส่วนส่งไปแพลตฟอร์มออนไลน์โดยที่ไม่รู้ตัว กองสลากควรไต่สวนก่อนตัดสิทธิไม่ใช่เหมารวม ผู้ค้าสลากบางคนขายมา 30-40 ปี การตัดสิทธิ์โดยที่ไม่ได้มีการไต่สวนในเรื่องนี้นั้น จึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ รับเรื่องดังกล่าวเพื่อไปตรวจสอบต่อไป
นายสำอาง ซ่อนกลิ่น อายุ 50 ปี แกนนำผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วไทย กล่าวว่า วันนี้มาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นเอกสารร้องเรียนเพิ่มเติม ในการที่จะขอให้มีคำสั่งระงับยับยั้ง ขอให้ศาลมีคำสั่งระงับยับยั้ง ทบทวนการตัดสิทธิ์ ของสำนักงานกองสลาก โดยครั้งนี้เป็นการยื่นเป็นครั้งที่สาม
สองครั้งที่ผ่านมา ทางศาลมีประทับรับฟ้องและนัดไต่สวน ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่สิ่งที่เราขออยากให้คุ้มครอง ไต่สวนฉุกเฉินชั่วคราว ซึ่งทางเรายังไม่ได้การคุ้มครองจากตรงนั้น วันนี้เราหวังว่า จะได้การรับการคุ้มครองชั่วคราว
อยากฝากบอกสำนักกองสลากว่า อย่าให้ทางกลุ่มของตนต้องใช้กระบวนการศาลมากไปกว่านี้เลย เพราะทางกลุ่มของตนอยากทำตามกฎระเบียบ ถ้าทางท่านทำถูกต้อง และมีการชี้แจงผิดถูกค่อยว่ากัน เราจะได้ไม่ต้องมาทำแบบนี้ ทุกคนมาจับต่างจังหวัด มีความยากลำบากกันทั้งนั้น อยากให้ทางกองสลากช่วยทำให้ชัดเจนมากกว่านี้
อยากฝากถึงท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากคำสั่งของท่านที่ให้มา ขายหวย 80 บาท ซึ่งหวย 80 บาท ของท่าน มันไม่สามารถทำได้เลย สิ่งที่ท่านประยุทธ์ได้ จากโครงการหวย 80 บาทของท่านทำให้คนตกงานแน่ๆ เกือบ 50,000 คน ท่านลองเลือกดูแล้วกันว่าจะทำหวย 80 บาท หรือจะทำให้คนตกงาน มากกว่านี้ ฝากให้ท่านนายกช่วยทบทวนด้วย
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/dOWfVAxrc-E