คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เดินไปเจอคนนั่งรับบริจาคอยุ่ตรงทางขึ้นสะพานลอย เค้าเป็นผู้พิการทางสายตา มีกล่องรับบริจาคจากมูลนิธิอยู่ ทางผู้ที่นั่งอยู่ก้อไม่ได้มานั่งขอเฉยๆนะเค้าใช้ความสามารถของเค้าโดยการร้องเพลงโดยปกติเราก็จะให้เค้าอยู่เเล้วให้มากให้น้อยตามกำลัง เเต่รอบนี้มันติดอยู่ที่ว่า มีเด็กมาอยู่ด้วยซึ่งไม่ทราบว่าเป็นลูกหรือเป็นหลานนะ เเต่เด็กได้มีอาการผิดปกติด้วยเช่นกันคือน้องน่ารักมากเเละน่าสงสารมากในเวลาเดียวกันซึ่งเราคิดว่าน้องไม่ควรมาเจออะไรเเบบนี้ ทีนี้เราไม่ได้ให้เราเดินผ่าน เเต่ก็มองๆดูเด็กน้อยได้หันมาสบตากับเราพอดี มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บเเละหน่วงจนน้ำตาจะไหลออกมาตรงนั้นเลยคือสงสารเค้ามาก เพราะว่าตรงที่เค้านั่งเป็นทางขึ้นลงเเล้วคือเเดดร้อนมาก บวกด้วยกับว่า เราเป็นคนที่ขี้ร้อนมากเเล้วคือสภาพเรากับน้องตอนนั้นคือเเบบไม่ต่างกันเพราะว่าอากาศร้อนมาก เเต่เราก็ไม่ได้บริจาคให้ไปเพราะเราก็ไม่มีเหมือนกัน ไม่มีถึงขั้นที่ เเบบยืมเพื่อนมาซื้อข้าวกินเเล้ว จึงได้เดินข้ามสะพานลอยไป เเต่เพื่อนเราดันลืมกดเงินค่ารถเราจึง อาสากลับมากดให้ซึ่งเดินผ่านทางเดิมที่เราได้เดินผ่านมาเรายิ่งรู้สึกหน่วงยิ่งไปใหญ่ หลังจากนั้นเราจึงกดตังในส่วนของเพื่อนเเละในส่วนของเราที่เหลืออยู่ ที่จะต้องใช้ในวันนั้นเเค่นั้นออกมา เเล้วเเบ่งในส่วนของค่าอาหารของเราให้ไปโดยเหลือเเค่ค่ารถเอาไว้ เรายอมอดมื้อนึงเพื่อให้อีกคนได้กินบางครั้งเค้าอาจจะอดหรือลำบากยิ่งกว่าเราอีก เเต่เราก็รุ้นะว่าบอกทีเค้าอาจจะไม่อดหรอกเพราะมีมูลนิธิดูเเลเเต่เราก้อไม่อยากให้เด็กหรือใครก้อเเล้วเเต่ต้องมาอดทนกับอากาศที่ร้อนขนาดนี้กับการที่จะหากิน คือเราก้อรู้ว่าการทำงานมันต้องมีบำบากบ้างเหนื่อยบางเเต่ที่เรามองตรงนี้คือเด็กที่มาด้วย คือที่เรามาพิมในนี้ก็ไม่ได้อยากจะได้อะไรเเค่อยากจะมาพูดคุยว่ามีใครเป็นเเบบเราบ้างที่เห็นอะไรเเบบนี้เเล้วอดเห็นใจไม่ได้ คือพิมพ์ไปร้องไห้ไปเลยนะไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน
#ใครเป็นบ้างเข้ามาพูดคุยกันนะ
ใครอยากช่วยเหลือ
พิกัด
สะพานลอย เมเจอร์ปากเกร็ด (ฝั่งเมเจอร์)ตรงทางขึ้นหากไม่เปลี่ยนเเปลงนะ
เด็กน่ารักน่าเห็นใจ
#ใครเป็นบ้างเข้ามาพูดคุยกันนะ
ใครอยากช่วยเหลือ
พิกัด
สะพานลอย เมเจอร์ปากเกร็ด (ฝั่งเมเจอร์)ตรงทางขึ้นหากไม่เปลี่ยนเเปลงนะ