ดูจบแล้วก็อดใจที่จะอยากเชิดชู แล้วเชิดชูอีกไม่ไหว เป็นซีรีส์ที่เขียนบทดีมาก นักแสดงเล่นดีมาก #My Liberation Notes ซีรีส์ที่เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันของตัวละตัวหลัก 3 พี่น้อง ยอมกีจอง ยอมชางฮี ยอมมีจอง คือ ทำงาน สังสรรค์หลังเลิกงาน เดินทางกลับบ้าน ตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้าน ล้อมวงทานข้าวในครอบครัว ช่วยงานในไร่วันหยุด ช่วงแรกๆ ของซีรีส์คือมีแต่ฉากเหล่านี้ทุกอีพีเลย บางทีแอบคิดว่านี่ชั้นกำลังดูสารคดีชีวิตหนุ่มสาวออฟฟิศประเทศเกาหลีใต้อยู่รึเปล่าน๊า แต่ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสารคดีที่ไหนจะมีชายนิรนามที่แค่นั่งนิ่งๆ ยกแก้วกระดกเหล้าเข้าปากอยู่บนแคร่มืดๆ คนเดียว ไม่มีบทสนทนาบอกกล่าวอะไร แต่สามารถพาคนดูอย่างเราดำดิ่งไปกับเค้าได้ เค้าเป็นใคร มาจากไหน เจอเรื่องอะไรมาหนอ ถึงพาตัวเองมานั่งดวลเหล้ากับความเงียบอยู่ตรงนี้ได้ นี่คือจุดดึงดูด ดึงความสนใจของเราในซีรีส์เรื่องนี้เลย คุณกูไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวใดๆ ของตัวเองเลยแม้แต่ชื่อ ขนาดคำพูดที่จะหลุดออกมาจากปากคุณกูได้แต่ละคำ ต้องลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเค้าจะพูดว่าอะไร ...แล้ววันดีคืนดีผู้ชายที่เงียบที่สุด ลึกลับที่สุดกลับพยายามลุกขึ้นมาเชิดชูผู้หญิงคนนึงแบบสุดชีวิตเลย การกระโดดไกลไปเก็บหมวกให้มีจองของคุณกู เป็นการแสดงถึงการเชิดชูกันครั้งแรกของมีจองกับคุณกู
“ทุกอย่างเป็นไปได้ เธอสามารถทำได้ทุกอย่าง” นั่งดูมาถึงตอนนี้ เราก็เพิ่งเข้าใจซีรีส์เรื่องนี้จริงๆ จังๆ ซะที ว่าคนเขียนบทต้องการสื่ออะไรกับคนดูกันแน่หนอ
#My Liberation Notes สำหรับเราเป็นซีรีส์ที่เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อเชิดชู วิถีชีวิตคนธรรมดาๆ ของผู้คนบนโลกใบนี้ทุกคน ผ่านตัวละครหลักทุกตัวในเรื่อง เพราะการใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่วันละวันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกคนต้องใช้ความพยายามกันทั้งนั้นต้องเคี่ยวเข็ญตัวเอง ไล่ต้อนตัวเองให้ผ่านไปให้ได้ เหมือนคุณกู เหมือนมีจอง เหมือนชางฮี เหมือนกีจอง และบางทีเหมือนชีวิตกำลังไปได้ดี แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆเข้ามาแทรกจนได้ ชีวิตคนเราทั่วไปก็เป็นแบบนี้กันตลอด เราสู้ชีวิตแต่บางทีชีวิตก็สู้เรากลับได้ในทุกรูปแบบ ดังนั้นในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมง มีแค่ 2-3 ชั่วโมงที่พอหายใจโล่งได้ หรือมีสัก 5 นาทีที่ทำให้ใจเต้นมีความสุขก็คงพอจะทำให้เราทนกันไปได้ในแต่ละวันแล้ว ในตอนจบ บทสรุปของเรื่อง เราชอบที่ทุกคนก็ยังใช้ชีวิตไปตามปกติแบบเดิม ยังคงต้องพยายามไล่ต้อนตัวเองต่อไป ต่อไป คือไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แบบมีความสุขมากๆ กระโดดกอดกัน จูบกัน รักกัน แต่จบแบบรู้ให้ว่าเราจะสามารถมีความสุขกับชีวิตเราได้ยังไง...ต่อไปในแต่ละวันบนโลกใบนี้...โลกที่เป็นเสมือนภูเขาทั้งลูกและเราก็เป็นได้แค่เหรียญหนึ่งเหรียญที่นอนแบะอยู่ตรงโคนต้นไม้ หรือใต้กอหญ้าที่ไหนซักแห่งของภูเขาลูกนั้น นั่นเอง...
แนะนำให้ดูเลยค่ะ ใครที่ยังไม่ได้ดู ช่วงแรกอาจจะง่วงๆ เงียบๆ แต่รับรองดูต่อไป...ต่อไป..ต่อไป ติดหนึบแน่นอนค่ะ ...อิอิ
ขอเชิดชู ซีรีส์ธรรมดา My Liberation Notes ที่สร้างขึ้นมาเพื่อชูคนธรรมดาๆ ทุกคน...
“ทุกอย่างเป็นไปได้ เธอสามารถทำได้ทุกอย่าง” นั่งดูมาถึงตอนนี้ เราก็เพิ่งเข้าใจซีรีส์เรื่องนี้จริงๆ จังๆ ซะที ว่าคนเขียนบทต้องการสื่ออะไรกับคนดูกันแน่หนอ
#My Liberation Notes สำหรับเราเป็นซีรีส์ที่เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อเชิดชู วิถีชีวิตคนธรรมดาๆ ของผู้คนบนโลกใบนี้ทุกคน ผ่านตัวละครหลักทุกตัวในเรื่อง เพราะการใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่วันละวันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกคนต้องใช้ความพยายามกันทั้งนั้นต้องเคี่ยวเข็ญตัวเอง ไล่ต้อนตัวเองให้ผ่านไปให้ได้ เหมือนคุณกู เหมือนมีจอง เหมือนชางฮี เหมือนกีจอง และบางทีเหมือนชีวิตกำลังไปได้ดี แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆเข้ามาแทรกจนได้ ชีวิตคนเราทั่วไปก็เป็นแบบนี้กันตลอด เราสู้ชีวิตแต่บางทีชีวิตก็สู้เรากลับได้ในทุกรูปแบบ ดังนั้นในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมง มีแค่ 2-3 ชั่วโมงที่พอหายใจโล่งได้ หรือมีสัก 5 นาทีที่ทำให้ใจเต้นมีความสุขก็คงพอจะทำให้เราทนกันไปได้ในแต่ละวันแล้ว ในตอนจบ บทสรุปของเรื่อง เราชอบที่ทุกคนก็ยังใช้ชีวิตไปตามปกติแบบเดิม ยังคงต้องพยายามไล่ต้อนตัวเองต่อไป ต่อไป คือไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แบบมีความสุขมากๆ กระโดดกอดกัน จูบกัน รักกัน แต่จบแบบรู้ให้ว่าเราจะสามารถมีความสุขกับชีวิตเราได้ยังไง...ต่อไปในแต่ละวันบนโลกใบนี้...โลกที่เป็นเสมือนภูเขาทั้งลูกและเราก็เป็นได้แค่เหรียญหนึ่งเหรียญที่นอนแบะอยู่ตรงโคนต้นไม้ หรือใต้กอหญ้าที่ไหนซักแห่งของภูเขาลูกนั้น นั่นเอง...
แนะนำให้ดูเลยค่ะ ใครที่ยังไม่ได้ดู ช่วงแรกอาจจะง่วงๆ เงียบๆ แต่รับรองดูต่อไป...ต่อไป..ต่อไป ติดหนึบแน่นอนค่ะ ...อิอิ