จะบาปไหม?? ถ้าตัดการติดต่อกับแม่ สาเหตุเพราะหวย

ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า แม่เราเล่นหวยหนักมาเมื่อก่อนเล่นหวยไทย

ตอนนี้!!! หนักเข้าเล่นหวยรายวันเลย ลาว ยี่กี่เอาหมด

👉แม่เราย้ายไปอยู่กับสามีที่เยอรมัน 15 ปีแล้ว ส่วนเราอยู่เมืองไทย

👉เมื่อก่อนแม่ก็ส่งเสียเราเรียน สามีแม่จะส่งเงินให้เดือนล่ะ 5 พัน จนเราจบ แต่ระหว่างเรียนเราก็ทำงานตลอด เรียนเสาร์อาทิตย์

เราเรียนจบมาก็ยังทำงาน เริ่มมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราขายออนไลน์ด้วย เริ่มดาวน์รถ

 👉แม่เราพอเห็นว่าเรามีรายได้ แรกๆก็ขอไม่มาก เราก็ให้ หลังๆ หนักขึ้น 2-3 หมื่น เราก็หาให้ หยิบยืมให้ได้

✅เดี๋ยวนี้มีมาทุกเดือน รอบล่ะหมื่น สองหมื่น เริ่มห้าหมื่น จนเราเครียดมาก อยากตาย เพราะทำเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ ติดหนี้บัตรเครดิตเพื่อเอาให้แม่ เราเหนื่อยใจมาก

👉แกเคยถูกบ่อยๆ แม่นแค่ช่วงแรกๆ หลังๆ แทบไม่ถูกเลย แถมแฟนแม่ก็อายุมาก มาป่วยเป็นโรคหัวใจ สาเหตุก็เพราะเตือนแม่ให้เลิกหวย แม่ก็ด่า จนเค้าช็อกเข้าโรงบาล เริ่มทำงานไม่ได้ ขาดรายได้ แม่เราจึงต้องขอเราเพิ่ม 

โดยจริงแล้วเราเป็นคนใจดี ใจอ่อน สมองคิดว่ารอบหน้ายังไงก็ไม่ให้ แต่พอแม่ขอก็ให้ทุกที

❌เราเลยคิดว่าจะตัดการติดต่อจากแม่ไปเลย แม่จะคุยผ่านเฟสและไลน์กับเรา เราคิดว่าจะเลิกเล่นไปก่อน สร้างบัญชีอื่นใช้งาน เราก็กลัวบาป เพราะแม่ก็คือแม่ เราควรทำยังไงดี เราเป็นหนี้เป็นสินเยอะมาก เคยพูดไปแล้วแม่ก็ด่าเรา

 👉เราตัดขาด กับแม่ได้ไหมคะ เพราะเราทุกข์มาก ตั้งตัวไม่ได้สักที รถก็ต้องผ่อน หนี้สินอีก เราจะบาปมากไหม ไม่อยากเป็นลูกอกตัญญู 

ใครมีแนวคิดยังไง ช่วยบอกหน่อยคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
บาป ไม่บาป อยู่ที่เจตนาครับ

การให้เงิน การไม่ให้เงิน ตามที่แม่ขอ
   หากขอด้วยเหตุที่ไม่จำเป็น ถ้าให้แล้วเราลำบาก อันนี้ก็ไม่เหมาะ
   หากขอเพราะมีเหตุจำเป็น เราพิจารณาแล้วว่าจำเป็น แต่มีไม่พอ ให้เท่าที่มี ก็พอเพียง

การสนับสนุน การไม่สนับสนุน เรื่องเล่นหวย
   อันนี้แล้วแต่เวรกรรม ของแต่ละคน
   เราให้ เค้าก็ใช้หมด
   เราไม่ให้ เค้าก็หยิบยืมแหล่งอื่น ติดหนี้ติดสิน อยู่ดี
   เราแยกไม่ออกหรอกว่า เค้านำเงินเราไปใช้หนี้ หรือนำเงินเราไปเล่นหวย

แม่ คือ แม่ อย่างไรก็ตัดไม่ขาด
แม่เล่นการพนัน เค้าก็เป็นของเค้าอย่างนั้น กรรมของเค้า

เราให้เงิน แล้วเราทุกข์
   เราเอาใจไปเกาะอยู่กับเค้า เค้าไม่เป็นดังใจเรา อย่างไรก็ทุกข์
   ทุกข์เกิดจากเราไปคาดหวัง ไปห่วง ไปกังวล แทนเค้า

   เราทำหน้าที่ในสิ่งที่ทำได้ และสิ่งนั้นไม่เบียดเบียนเราเกินไปนัก
   ทำหน้าที่เสร็จ ก็วางความคาดหวังลง
   พอกลับมาคิด ก็ให้รับรู้ พอรับรู้ สักพักจิตก็ปล่อยวางเอง

   แต่หากจิตไม่ปล่อยวาง เพราะเป็นเรื่องที่เป็นปมในใจ
   แนะนำให้ลองฝึกวิปัสสนา ฟังเทศน์ฟังธรรม ให้เห็นความจริงของชีวิต พอช่วยได้

แนะนำให้ฟังคลิปธรรมะ ของ อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม กับพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
   ของรายการ สุขทุกวัน 7 วัน 7 กูรู ครับ
   มีคลิปที่ท่านบรรยาย เรื่องทุกข์จากการยึดติด อยู่หลายคลิป
   และแนวทางการปล่อยวางทุกข์ จากการยึดติดนี้ครับ

   ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดตามเหตุตามปัจจัย
   ถึงจะไม่มีเรา ถ้ามีเหตุครบ ผลย่อมเกิดเสมอ เป็นธรรมชาติ
   ที่เราทุกข์ เพราะเราไม่เข้าใจธรรมชาติข้อนี้

   อยากลดทุกข์ ต้องตัดที่เหตุ ตัดเสร็จ ปล่อยวาง รอดูผล
   หากผลไม่เป็นไปตามคาด รู้ว่าผิด หากมีครั้งหน้า ลองวิธีใหม่ ลองเสร็จปล่อยวาง รอดูผล

   หากเหตุนั้น เกินกว่าที่เราแก้ไขได้ อยู่นอกปัจจัยที่เราควบคุมได้
   เราคงต้องแก้ที่ตัวเรา
   คือ ปล่อยวางที่จิตใจ อะไรที่อยู่เหนือการควบคุม ก็ทำเท่าที่ทำได้ แล้วปล่อยวาง

ขอให้ผ่านไปให้ได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่