บทสรุปของเราซีซั่นนี้ คือ สองแชมป์บอลถ้วย กับสองรองแชมป์ถ้วยที่ใหญ่ที่สุด ก็น่าเสียดายว่าเราไม่สามารถจะเอาแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดได้ทั้งสองใบ แต่ถ้าบอกว่าจะให้แลกกับสองบอลถ้วยที่เราได้มา มันก็ไม่มีทางบอกได้หรอกว่าเราจะได้สองใบที่เราปรารถนาที่สุดรึเปล่า
ถึงจุดนี้แม้จะผิดหวัง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของฟุตบอลล่ะนะ ไม่มีใครสมหวังได้ตลอดไป ในด้านผิดหวังก็อยากจะมองในด้านดีที่ว่า บางทีโลกอาจจะมีสมดุลย์ของมัน ถ้ามีทีมที่ไร้เทียมทานเกินไป คว้าแชมป์เมเจอร์ได้ 4 แชมป์ในปีเดียว ลงเตะครบทุกนัดในทุกถ้วยที่ทีมสักทีมจะสามารถทำได้ มันก็คงจะมากเกินไปหน่อย ดีไม่ดีเกิดทำสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ทีมเราอาจจะหมดแรงจูงใจเร็วกว่าที่คิดก็ได้ เพราะคว้ามาหมดแบบไม่มีใครจะทำแบบนี้ได้อีกแล้ว มันคงต้องเจอความผิดหวังบ้าง เพื่อให้มีแรงจูงใจในการจะกลับมาคว้าแชมป์ต่อไป ขนาดโคตรทีมแบบบาร์ซ่าของเป๊ปเคยคว้าทุกถ้วยในซีซั่นเดียวก็ได้แค่ 3 ถ้วย เพราะลาลีกาไม่มีลีกคัพ หรือแมนฯยูของเฟอร์กี้ปีที่ได้ 3 แชมป์ ก็ทำไม่ได้ เพราะไปตกรอบลีกคัพก่อน ไม่มีใครลงเตะทุกถ้วยทุกนัดได้ขนาดนี้
อีกอย่าง ก็อย่างที่บอสเราบอก ก็เราดันชนะมาเรื่อยๆเอง ก็เลยมาถึงจุดนี้ ถ้าทาคิกับผองเพื่อนนักเตะตัวรองและเด็กระเบิด ไม่ช่วยกันพาทีมทะลุเข้ารอบบอลถ้วยมาเรื่อยๆ ช่วงท้ายฤดูกาลเราคงมีเวลาพักเหลือๆอ่ะนะ 555
นัดสุดท้ายของซีซั่น ทีมของเราก็ไม่เคยถอดใจยอมแพ้เหมือนปกติ มันเป็นคาแรกเตอร์ของเราไปแล้ว แต่บางทีมันอาจเป็นราคาที่ต้องจ่าย ที่ทีมเราเข้ามาถึงนัดตัดสินฎีกาทุกถ้วย พอถึงช่วงท้ายเราพยายามจะรีด แต่มันรีดไม่ขึ้นแล้วจริงๆ 2-3 เดือนสุดท้ายมานี้ เราลงเตะสัปดาห์ละ 2-3 นัดไม่มีหยุด พอมาถึงนัดสุดท้าย จะดึงพลัง Klopp Time ที่เคยมีก็เอาออกมาไม่ได้แล้ว อีกทีมเขาก็ไม่ใช่ทีมไก่กาที่ไหน เป็นทีมที่เป็นจ้าวของถ้วยหูโตใบนี้เลย แล้วถ้วยนี้มันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว เพราะทุกทีมที่เข้ามาเก่งหมด ไม่งั้นถ้าแค่กางหน้ากระดาษว่าใครควรคว้าแชมป์ได้ แมนฯซิตี้เค้าคงได้ไปตั้งนานแล้วล่ะ
แต่อย่างน้อย ซีซั่นนี้เราก็ได้มาตั้ง 2 ถ้วยล่ะ แล้วเราก็ไม่คิดจะดูเบากับถ้วยที่เราได้มา เพราะเรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะทุกคนพามาถึงจริงๆ ไม่ใช่แค่นักเตะตัวหลักที่พาเรามาถึงจุดนี้ นักเตะตัวรอง นักเตะชุดเยาวชน สตาฟฟ์ทุกแผนก เจ้าของ FSG ลุงเฮนรี่ และบอสของเรา ทุกคนพาทีมเราให้มาถึงจุดที่เกือบทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ทีมในโลกนี้สักทีมจะทำได้ แม้สุดท้ายจะได้แค่เกือบก็ตาม
มันคือความหมายของคำว่า "You'll never walk alone" จริงๆ!!
ซีซั่นนี้จบไปแล้ว สมหวังครึ่งนึง ผิดหวังครึ่งนึง ฤดูกาลหน้าว่ากันใหม่ อีกแค่ 2 เดือนเอง
ซีซั่นหน้าไม่ต้องลุ้นทุกถ้วยแบบซีซั่นนี้ก็ได้นะ ตอนนี้อยากกลับมาได้ถ้วยใหญ่มากกว่าแล้วอ่ะ 555
[YNWA] สมหวังครึ่ง ผิดหวังครึ่ง กับบทสรุปของ Liverpool ซีซั่น 2021-22!!
ถึงจุดนี้แม้จะผิดหวัง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของฟุตบอลล่ะนะ ไม่มีใครสมหวังได้ตลอดไป ในด้านผิดหวังก็อยากจะมองในด้านดีที่ว่า บางทีโลกอาจจะมีสมดุลย์ของมัน ถ้ามีทีมที่ไร้เทียมทานเกินไป คว้าแชมป์เมเจอร์ได้ 4 แชมป์ในปีเดียว ลงเตะครบทุกนัดในทุกถ้วยที่ทีมสักทีมจะสามารถทำได้ มันก็คงจะมากเกินไปหน่อย ดีไม่ดีเกิดทำสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ทีมเราอาจจะหมดแรงจูงใจเร็วกว่าที่คิดก็ได้ เพราะคว้ามาหมดแบบไม่มีใครจะทำแบบนี้ได้อีกแล้ว มันคงต้องเจอความผิดหวังบ้าง เพื่อให้มีแรงจูงใจในการจะกลับมาคว้าแชมป์ต่อไป ขนาดโคตรทีมแบบบาร์ซ่าของเป๊ปเคยคว้าทุกถ้วยในซีซั่นเดียวก็ได้แค่ 3 ถ้วย เพราะลาลีกาไม่มีลีกคัพ หรือแมนฯยูของเฟอร์กี้ปีที่ได้ 3 แชมป์ ก็ทำไม่ได้ เพราะไปตกรอบลีกคัพก่อน ไม่มีใครลงเตะทุกถ้วยทุกนัดได้ขนาดนี้
อีกอย่าง ก็อย่างที่บอสเราบอก ก็เราดันชนะมาเรื่อยๆเอง ก็เลยมาถึงจุดนี้ ถ้าทาคิกับผองเพื่อนนักเตะตัวรองและเด็กระเบิด ไม่ช่วยกันพาทีมทะลุเข้ารอบบอลถ้วยมาเรื่อยๆ ช่วงท้ายฤดูกาลเราคงมีเวลาพักเหลือๆอ่ะนะ 555
นัดสุดท้ายของซีซั่น ทีมของเราก็ไม่เคยถอดใจยอมแพ้เหมือนปกติ มันเป็นคาแรกเตอร์ของเราไปแล้ว แต่บางทีมันอาจเป็นราคาที่ต้องจ่าย ที่ทีมเราเข้ามาถึงนัดตัดสินฎีกาทุกถ้วย พอถึงช่วงท้ายเราพยายามจะรีด แต่มันรีดไม่ขึ้นแล้วจริงๆ 2-3 เดือนสุดท้ายมานี้ เราลงเตะสัปดาห์ละ 2-3 นัดไม่มีหยุด พอมาถึงนัดสุดท้าย จะดึงพลัง Klopp Time ที่เคยมีก็เอาออกมาไม่ได้แล้ว อีกทีมเขาก็ไม่ใช่ทีมไก่กาที่ไหน เป็นทีมที่เป็นจ้าวของถ้วยหูโตใบนี้เลย แล้วถ้วยนี้มันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว เพราะทุกทีมที่เข้ามาเก่งหมด ไม่งั้นถ้าแค่กางหน้ากระดาษว่าใครควรคว้าแชมป์ได้ แมนฯซิตี้เค้าคงได้ไปตั้งนานแล้วล่ะ
แต่อย่างน้อย ซีซั่นนี้เราก็ได้มาตั้ง 2 ถ้วยล่ะ แล้วเราก็ไม่คิดจะดูเบากับถ้วยที่เราได้มา เพราะเรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะทุกคนพามาถึงจริงๆ ไม่ใช่แค่นักเตะตัวหลักที่พาเรามาถึงจุดนี้ นักเตะตัวรอง นักเตะชุดเยาวชน สตาฟฟ์ทุกแผนก เจ้าของ FSG ลุงเฮนรี่ และบอสของเรา ทุกคนพาทีมเราให้มาถึงจุดที่เกือบทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ทีมในโลกนี้สักทีมจะทำได้ แม้สุดท้ายจะได้แค่เกือบก็ตาม
มันคือความหมายของคำว่า "You'll never walk alone" จริงๆ!!
ซีซั่นนี้จบไปแล้ว สมหวังครึ่งนึง ผิดหวังครึ่งนึง ฤดูกาลหน้าว่ากันใหม่ อีกแค่ 2 เดือนเอง
ซีซั่นหน้าไม่ต้องลุ้นทุกถ้วยแบบซีซั่นนี้ก็ได้นะ ตอนนี้อยากกลับมาได้ถ้วยใหญ่มากกว่าแล้วอ่ะ 555