รีวิวหนังเกาหลีดราม่าสายดาร์กที่จะนำพาจิตใจคนดูลงดิ่งไปกับความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง Bad Guy เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘คนแสนเลว’ ที่วันหนึ่งได้จับสาวที่ตัวเองชอบมาทำงานเป็นหญิงขายบริการที่ตัวเองทำงานคุมซ่องอยู่ นำแสดงโดย Cho Jae-hyun และ Seo Won ขอเตือนไว้ก่อนว่าเรื่องนี้มีเนื้อหาการใช้ความรุนแรงทั้งทำร้ายร่างกายและจิตใจของผู้หญิง
____________________________________
เรื่องย่อ
Bad Guy (2001) หมายถึงตัวละครเอก Han-gi (Cho Jae-hyun) อันธพาลคุมซ่องขายบริการที่วันหนึ่งไปหลงรัก Sun-hwa (Seo Won) เด็กสาวมหาลัยวัยสดใสในขณะที่กำลังรอแฟนหนุ่มในที่สาธารณะ แต่เจ้าหล่อนกลับแสดงท่าทางรังเกียจเขาจนทำให้ Han-gi โกรธแค้นจึงวางแผนร้ายจับเธอมาทำงานเป็นหญิงขายบริการเพื่อล้างแค้น แต่กลับกลายเป็นว่าฝ่ายเขาเองนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็นเมื่อไปหลงรักเจ้าหล่อนและเฝ้ามองเธอขณะร่วมเพศกับลูกค้าผ่านกระจกสองด้านที่ติดตั้งในห้องนอนของเธอ
____________________________________
ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องนี้เสียงจะแตกออกเป็นสองข้าง มีทั้งชอบและเกลียด ซึ่งส่วนตัวเราอยู่ในกลุ่มของคนที่ชอบหนังเรื่องนี้ และในบทความนี้เราจะอธิบายว่าทำไมบางคนชอบเรื่องนี้ทั้งๆที่เป็นหนังที่ใช้ความรุนแรงและยังขยี้ความรู้สึกคนดูเป็นชิ้นๆหลังจากดูจบ อย่างแรก Bad Guy เป็นหนังสายดราม่าก็จริง แต่ก็ให้กลิ่นอายความน่าสงสัย มีอะไรปิดบังซ่อนอยู่ด้วย ตลอดทั้งเรื่อง Han-gi แทบจะไม่พูดเลย เขาเหมือนอมความเจ็บปวดอะไรเอาไว้ก็ไม่รู้ ทำไมเขาถึงทั้งรักทั้งแค้นตัวของ Sun-hwa ขนาดนั้น? ซึ่งหนังจะค่อยๆเฉลยปมออกมาเรื่อยๆ
หนังแสดงให้เห็นอีกมุมนึงของสังคมเกาหลีมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนนอกรีต เหล่าหญิงขายบริการที่ถูกปฏิบัติจากลูกค้าผู้ชายหลากหลายแบบ ซึ่งตัวหนังถ่ายทอดออกมาให้คนดูรู้สึกหดหู่ผ่านตัวละคร Sun-hwa เด็กสาวมหาลัยผู้ที่เจอลูกค้าตั้งแต่ปกติไปจนถึงใช้ความรุนแรง และจุดที่น่าขนลุกไปกว่านั้นคือการที่ Han-gi นั้นคอยจ้องมองเธอตลอดจากอีกมุมหนึ่งของห้องผ่านกระจกสองด้าน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำแบบเดียวกับผู้ชายเหล่านั้น..แต่ก็เป็นคนที่ดึงเธอลงมาต่ำในสถานะเดียวกับเขา เพราะว่าทั้งรักทั้งแค้นจึงทำลายชีวิตเจ้าหล่อนด้วยวิธีสกปรกและเห็นเธอไม่พ้นจากเครื่องมือระบายอารมณ์ทางเพศ Han-gi เรียกได้ว่าเป็นคนแสนเลวของแท้และอาจจะโหดร้ายยิ่งกว่าชายใดๆ แต่พอหนังดำเนินเรื่องมาถึงจุดที่แมงดาอย่างเขากับไปหลงรักหญิงสาวที่เขาจับตัวมาเรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อน เจ้าตัวเก็บความรู้สึกผิดไว้ตลอดที่ทำให้เธอแปดเปื้อนแต่ก็ไม่เคยคิดจะเดินหน้าหรือจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง
โดยรวม Bad Guy ต้องการจะสื่อว่าความรักเป็นเรื่องของจิตใจข้างในมิใช่ร่างกายภายนอก, ความรักนั้นซับซ้อนไม่ได้มีแค่ด้านแสงสว่างด้านเดียว แต่ยังมีด้านมืดเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเราจะเห็นได้ตอนจบของเรื่องที่ Sun-hwa และ Han-gi ยอมรับในสิ่งที่ทั้งคู่เป็นและเดินทางในเส้นทางที่พวกเขาเลือกเอง
อีกอย่างที่เราชอบในหนังเรื่องนี้เป็นเพราะความละเมียดละไมในการถ่ายทำและรวมไปถึงการแสดง – Bad Guy เล่าเรื่องได้สมจริง ใช้องค์ประกอบภาพเล่าเรื่องในเชิงศิลปะได้สวยงาม บรรยากาศหนังถูกเซ็ทให้รู้สึกทั้งเหงาทั้งเศร้าบวกกับเพลงประกอบติดหูที่ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ ทางด้านเครื่องแต่งกายก็ถูกนำมาใช้เล่าเรื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นตัวละครและบางครั้งสะท้อนถึงความคิดของพวกเขา เช่น Hun-gi ที่ขึ้นชื่อว่าคนแสนเลวใส่ชุดสีดำทั้งตัวในตอนเปิดเรื่อง จากนั้นจะมีการใส่สลับไปมาขาวดำเกือบทั้งเรื่อง สื่อเป็นนัยว่าตัวละครนี้รู้สึกโดดเดี่ยว อมความทุกข์ตลอดเวลา ส่วนทางด้าน Sun-hwa มาในชุดสีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องซึ่งเหมือนสาวแรกแย้มวัยสดใส ขนาดตอนถูกบังคับให้ใส่ชุดทำงานเพื่อเรียกลูกค้าเธอยังเลือกใส่ชุดสีขาวเลย แต่เมื่อพอเวลาผ่านไปที่ตัวหญิงสาวนั้นถูกทำลายมาแล้ว เราจะเห็นว่าเธอแต่งตัวมีสีสันพร้อมวิกผมแฟนซี ซึ่งดูปลอมเพราะตัวตนของเธอนั้นถูกขยี้ทิ้งไปแล้ว ส่วนที่เราชอบมากๆในหนังคือการแสดงให้เห็นถึงสภาพความต่างของ Sun-hwa ในตอนเริ่มเรื่องและตอนจบมันทำให้รู้สึกเลยว่านางเอกนั้นถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและไม่อาจกลับไปเหมือนตอนเริ่มเรื่องได้แล้ว
____________________________________
หากสนใจในหนังเก่า คลาสสิกยุคจอเงิน หรือบทความเกี่ยวกับนักแสดง ผู้กำกับ
ฝากกดไลค์ติดตามเพจด้วยนะคะ มีอัพเดททุกสัปดาห์ :
https://www.facebook.com/classicreviwerth
หรืออ่านรีวิวหนัง :
https://classicreviewer.wordpress.com
รีวิวหนังเกาหลีสายดาร์ก Bad Guy (2001) เรื่องราวของชายแสนเลวที่จับหญิงสาวที่ตนชอบมาทำงานเป็นโสเภณี
____________________________________
เรื่องย่อ
Bad Guy (2001) หมายถึงตัวละครเอก Han-gi (Cho Jae-hyun) อันธพาลคุมซ่องขายบริการที่วันหนึ่งไปหลงรัก Sun-hwa (Seo Won) เด็กสาวมหาลัยวัยสดใสในขณะที่กำลังรอแฟนหนุ่มในที่สาธารณะ แต่เจ้าหล่อนกลับแสดงท่าทางรังเกียจเขาจนทำให้ Han-gi โกรธแค้นจึงวางแผนร้ายจับเธอมาทำงานเป็นหญิงขายบริการเพื่อล้างแค้น แต่กลับกลายเป็นว่าฝ่ายเขาเองนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็นเมื่อไปหลงรักเจ้าหล่อนและเฝ้ามองเธอขณะร่วมเพศกับลูกค้าผ่านกระจกสองด้านที่ติดตั้งในห้องนอนของเธอ
____________________________________
ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องนี้เสียงจะแตกออกเป็นสองข้าง มีทั้งชอบและเกลียด ซึ่งส่วนตัวเราอยู่ในกลุ่มของคนที่ชอบหนังเรื่องนี้ และในบทความนี้เราจะอธิบายว่าทำไมบางคนชอบเรื่องนี้ทั้งๆที่เป็นหนังที่ใช้ความรุนแรงและยังขยี้ความรู้สึกคนดูเป็นชิ้นๆหลังจากดูจบ อย่างแรก Bad Guy เป็นหนังสายดราม่าก็จริง แต่ก็ให้กลิ่นอายความน่าสงสัย มีอะไรปิดบังซ่อนอยู่ด้วย ตลอดทั้งเรื่อง Han-gi แทบจะไม่พูดเลย เขาเหมือนอมความเจ็บปวดอะไรเอาไว้ก็ไม่รู้ ทำไมเขาถึงทั้งรักทั้งแค้นตัวของ Sun-hwa ขนาดนั้น? ซึ่งหนังจะค่อยๆเฉลยปมออกมาเรื่อยๆ
หนังแสดงให้เห็นอีกมุมนึงของสังคมเกาหลีมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนนอกรีต เหล่าหญิงขายบริการที่ถูกปฏิบัติจากลูกค้าผู้ชายหลากหลายแบบ ซึ่งตัวหนังถ่ายทอดออกมาให้คนดูรู้สึกหดหู่ผ่านตัวละคร Sun-hwa เด็กสาวมหาลัยผู้ที่เจอลูกค้าตั้งแต่ปกติไปจนถึงใช้ความรุนแรง และจุดที่น่าขนลุกไปกว่านั้นคือการที่ Han-gi นั้นคอยจ้องมองเธอตลอดจากอีกมุมหนึ่งของห้องผ่านกระจกสองด้าน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำแบบเดียวกับผู้ชายเหล่านั้น..แต่ก็เป็นคนที่ดึงเธอลงมาต่ำในสถานะเดียวกับเขา เพราะว่าทั้งรักทั้งแค้นจึงทำลายชีวิตเจ้าหล่อนด้วยวิธีสกปรกและเห็นเธอไม่พ้นจากเครื่องมือระบายอารมณ์ทางเพศ Han-gi เรียกได้ว่าเป็นคนแสนเลวของแท้และอาจจะโหดร้ายยิ่งกว่าชายใดๆ แต่พอหนังดำเนินเรื่องมาถึงจุดที่แมงดาอย่างเขากับไปหลงรักหญิงสาวที่เขาจับตัวมาเรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อน เจ้าตัวเก็บความรู้สึกผิดไว้ตลอดที่ทำให้เธอแปดเปื้อนแต่ก็ไม่เคยคิดจะเดินหน้าหรือจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง
โดยรวม Bad Guy ต้องการจะสื่อว่าความรักเป็นเรื่องของจิตใจข้างในมิใช่ร่างกายภายนอก, ความรักนั้นซับซ้อนไม่ได้มีแค่ด้านแสงสว่างด้านเดียว แต่ยังมีด้านมืดเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเราจะเห็นได้ตอนจบของเรื่องที่ Sun-hwa และ Han-gi ยอมรับในสิ่งที่ทั้งคู่เป็นและเดินทางในเส้นทางที่พวกเขาเลือกเอง
อีกอย่างที่เราชอบในหนังเรื่องนี้เป็นเพราะความละเมียดละไมในการถ่ายทำและรวมไปถึงการแสดง – Bad Guy เล่าเรื่องได้สมจริง ใช้องค์ประกอบภาพเล่าเรื่องในเชิงศิลปะได้สวยงาม บรรยากาศหนังถูกเซ็ทให้รู้สึกทั้งเหงาทั้งเศร้าบวกกับเพลงประกอบติดหูที่ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ ทางด้านเครื่องแต่งกายก็ถูกนำมาใช้เล่าเรื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นตัวละครและบางครั้งสะท้อนถึงความคิดของพวกเขา เช่น Hun-gi ที่ขึ้นชื่อว่าคนแสนเลวใส่ชุดสีดำทั้งตัวในตอนเปิดเรื่อง จากนั้นจะมีการใส่สลับไปมาขาวดำเกือบทั้งเรื่อง สื่อเป็นนัยว่าตัวละครนี้รู้สึกโดดเดี่ยว อมความทุกข์ตลอดเวลา ส่วนทางด้าน Sun-hwa มาในชุดสีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องซึ่งเหมือนสาวแรกแย้มวัยสดใส ขนาดตอนถูกบังคับให้ใส่ชุดทำงานเพื่อเรียกลูกค้าเธอยังเลือกใส่ชุดสีขาวเลย แต่เมื่อพอเวลาผ่านไปที่ตัวหญิงสาวนั้นถูกทำลายมาแล้ว เราจะเห็นว่าเธอแต่งตัวมีสีสันพร้อมวิกผมแฟนซี ซึ่งดูปลอมเพราะตัวตนของเธอนั้นถูกขยี้ทิ้งไปแล้ว ส่วนที่เราชอบมากๆในหนังคือการแสดงให้เห็นถึงสภาพความต่างของ Sun-hwa ในตอนเริ่มเรื่องและตอนจบมันทำให้รู้สึกเลยว่านางเอกนั้นถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและไม่อาจกลับไปเหมือนตอนเริ่มเรื่องได้แล้ว
____________________________________
หากสนใจในหนังเก่า คลาสสิกยุคจอเงิน หรือบทความเกี่ยวกับนักแสดง ผู้กำกับ
ฝากกดไลค์ติดตามเพจด้วยนะคะ มีอัพเดททุกสัปดาห์ : https://www.facebook.com/classicreviwerth
หรืออ่านรีวิวหนัง : https://classicreviewer.wordpress.com