เวรกรรมทำงานติดจรวด มาฟังกันค่ะ

ดิฉันทำงานเป็นพาทไทม์อยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งสาขาที่ดิฉันอยู่มีพนักงาน 6 คน รวมดิฉันด้วย พนักงานทั้ง5 คนนี้อยู่กันมายาวนาน เรียกได้ว่าไม่ต่ำกว่าสองปี เขารักกันนะ กินข้าว ไปเที่ยว ทำอะไรด้วยกันอยู่ตลอด ถึงจะมีไม่เข้าใจกัน แต่เขาไม่เคยทิ้งกันไปไหน ไม่เคยโกรธกันแรงๆ เลย จนดิฉันเข้าไปเป็นพาทไทม์ นิสัยของดิฉันคือ ง่ายๆ ไม่บ่น ไม่นินทา ไม่ว่าให้ใคร ทำให้เข้ากับคนได้ทุกคน ถึงจะไม่ได้สนิทมาก เพราะไม่ได้ทำงานทุกวัน แต่เราไม่เคยมีปัญหากันเลย เราอยู่กันมาแบบนี้เป็นปีๆ 

จนวันหนึ่ง เพื่อนรุ่นน้องจากบริษัทเก่าทักมาหาฉัน อยากมาทำงานด้วย เพราะฉันเคยเล่าให้ฟังว่าที่บริษัทดิฉันเจ้านายเขาจะมีกองทุนให้กู้ยืมไปใช้ก่อน โดยไม่คิดดอกเบี้ย แล้วจะหักเงินเดือนในแต่ละเดือนไป เจ้านายใจดี รักลูกน้อง ใครจะกู้เท่าไหร่กู้ไปเลย แต่ต้องหักเงินเดือนนะ ทำแบบนี้เพื่อให้พนักงานไม่มีหนี้สินทางอื่น ให้พนักงานเต็มที่กับงาน เจ้านายเขาก็ได้ประโยชน์เพราะเราจะตั้งใจทำงานให้เขา เป็นการซื้อใจลูกน้องไว้ แต่ข้อแม้คือถ้าจะออกโดยที่ยังเป็นหนี้อยู่ไม่ได้ ต้องเอาเงินมาคืนให้ครบถึงออกได้ ไม่ได้ห้ามว่าจะออกเมื่อไหร่ได้หมด  

กลับมาที่รุ่นน้องคนนั้น ทักมาหาดิฉันต้องการใช้เงินหลักหลายแสน ดิฉันตกใจในจำนวนเงินที่มากขนาดนั้น เพราะเอาจริงๆ ถึงจะมีกองทุนให้ยืม แต่ก็ไม่ค่อยมีใครยืม เพราะมันหักจากเงินเดือนเลย ซึ่งถ้าหนี้เยอะ ก็หักเกือบ 70% ดังนั้นทุกคนจะยืมเมื่อจำเป็นจริงๆ รุ่นน้องคนนี้ก็บอกว่า ช่วยรับรองให้เขาหน่อย เขาอายที่จะต้องไปหาหยิบยืมเงินคนอื่น เพราะเขามีหน้ามีตาในสังคม ชาวบ้านชาวช่องก็รู้ว่าเขาเป็นเจ้าแม่เงินกู้มีสามีรวย ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เดือนละหลายใบ ใบละหลายแสน ฉันก็นึกสงสาร ช่างใจอยู่เป็นวันสองวัน แต่ฉันคบเขามา เขาขยันทำงาน ตอนทำงานที่เก่าด้วยกัน ไม่เคยขาดลามาสาย เขายืมเงินฉันทุกสัปดาห์ ทีละแสน แต่เขาก็คืนตรงเวลา ฉันเลยตัดสินใจฝากเขาเข้าทำงาน เพราะเจ้านายต้องการคนเพิ่มพอดี

วันที่เขามาทำงานวันแรก ฉันไม่ได้ทำงาน แต่ฉันแวะมาหา มารอเขา มาแนะนำให้เขารู้จักเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในที่ทำงาน มาเป็นตัวกลางให้เขาคุยกัน แลกไลน์กัน บอกว่าอุ้มชูเอาเพื่อนฉันหน่อยนะ เขานิสัยดี น่ารัก อยากให้อยู่กันนานๆ ฉันควักเงินซื้อข้าวซื้ออาหารมาเลี้ยง เลิกงานพากันมากินข้าวสังสรรค์ปาร์ตี้ ฉันบอกว่าฉันหยุดงานสองอาทิตย์ เพราะฉันมีธุระทางบ้าน พรุ่งนี้ฉันจะเดินทางไป ตจว แล้วเดี๋ยวกลับมาฉันจะมาหาใหม่

หลังจากนั้นพอฉันกลับบ้านปุ๊ป คนในวงปาร์ตี้ยังไม่กลับ พี่ๆน้องๆเขาก็นึกว่าฉันสนิทกับบี(รุ่นน้องที่ฉันพามา) เขาก็เอ่ยชมฉันว่าฉันนะ เก่ง หาเงินเก่ง ทำธุขหลายอย่าง แฟนก็นิสัยดีแถมยังรวย นี่เพื่อนๆก็อยากจะขอคำแนะนำจากฉันเรื่องการงทุนอยู่เหมือนกัน พอบีได้ยินดังนั้น บีก็พูดขึ้นมา ฉันนะเบื้องหลังมีแต่หนี้สิน เป็นหนึ้ทั่วประเทศ คนมาตามทวงหนี้ยังโทรมาร้องไห้เสียงสั่นให้นางฟังเลย ส่วนแฟนฉันนะจะมีเงินได้ยังไง เป็นเด็กมหาลัยอยู่เลย แถมสติไม่ค่อยดี นางเคยชวนคุยก็ไม่คุยกับนาง คืดว่าสติดีไหมละ นางว่างี้ แล้วนางก็ว่าต่อว่าฉันนะขี้เหร่ ยังจะเลือกผู้ชายหน้าตาดีไม่ดูตัวเอง บ้านช่องฉันก็สกปรก เคยเช่าห้องอยู่กับฉัน แทบทนไม่ไหว ของแบรนด์เนมที่ฉันใช้ก็มีแต่ของก๊อป ของนางนะแท้ทุกอย่าง มีเปิดโทรศัพท์โชว์ใบเสร็จให้คนในวงดูด้วย นางบอกว่าในเฟสบุคฉันมีชีวิตดีๆเพราะฉันสร้างภาพ ฉันไม่เคยด่าใคร ไม่เคยโพสต์สิ่งไม่ดีเพราะฉันแอ๊บแบ๊ว  แถมนางบอกว่าถ้าจะเอาเงินไปฝากฉันลงทุนนะ เอามาฝากนางดีกว่า นางเก่งเรื่องลงทุน และนางก็ลงทุนมาหลายปีแล้ว เพื่อนๆในวงก็เงียบ และโทรมาเล่าให้ฉันฟังทีหลัง

ฉันนับ1-10 ในใจ ฉันเสียความรู้สึกมาก นางล้มลุกคลุกคลานมาพึ่งฉัน ฉันพามาทำงานด้วย ฉันไปการันตีกับเจ้านายว่าให้เขากู้เงินกองทุนได้ ถึงเขาจะเป็นเด็กใหม่ แต่เขาประวัติดี เขาขยันทำงาน เขาเป็นคนดี ฉันบอกทุกคนในที่ทำงาน ไม่เคยว่าเขาไม่ดี แต่พอมาได้ฟังแบบนี้ฉัน งงและสับสนไปหมด ตกลงเขาคิดยังไงกับฉัน เขาอยากให้คนอื่นเกลียดฉันหรอ ฉันนอนคิดมาหลายวัน 

ฉันนอนคิดมาหลายวัน ฉันตัดสินใจคุยกับนางว่า ฉันรู้นะว่านางพูดถึงฉันยังไงบ้าง แถมนางยังนินทาคนอื่นๆอีก พอคนไหนลุกหนีก็โดนนางนินทาไปหมด แม้แต่ภรรยาเจ้านาย นางยังนินทาว่า ดูทรงแล้วเจ้านายคงไม่ได้รักภรรยาหรอก คงจะให้ภรรยาทำงานหนักอยู่ตลอดเพราะไม่ได้รักละมั้ง แถมงานก็แย่ก็เหนื่อย เงินเดือนก็น้อย นางไม่น่ามาที่นี่เลย เดี๋ยวนางจะตัดสินใจบอกสามีนาง ว่านางกู้เงินที่นี่ ให้สามีมาปิด เพราะสามีนางก็เป็นคนมีฐานะ เป็นเจ้าของบริษัท นางอยู่บ้านเฉยๆนางเบื่อนะ นางต้องแอบมาทำงาน โดยบอกสามีว่าขอไปอยู่กับน้องสาวสักสองอาทิตย์ ฉันพี่งมารู้ทีหลังว่านางตั้งใจจะมากู้เงินที่นี่ แล้วลาออก ส่วนหนี้ค่อยติดต่อมาใช้คืนภายหลัง นางวางแผนไว้แล้ว นางทักหาเพื่อนของฉันคนหนึ่งที่อาศัยอยู่แถวบ้านนาง เพื่อนคนนี้ไปมาหาสู่นางเกือบจะทุกวัน พอไปหาทีไร สามีนางก็โกหกแต่ว่าภรรยาหลับอยู่ ไปหาทุกวันตืดกันสองสามวันก็บอกว่าหลับทุกวัน เพื่อนคนนี้เลยสงสัยเลยโทรมาถามฉันว่านางไปไหน ฉันผู้ซึ่งไม่รู้ก็ตอบไปว่า นางมาทำงานที่บริษัทฉัน เพื่อนตกใจมาก เพื่อนบอกว่า นางสร้างภาพสร้างโปรไฟล์บอกคนนั้นคนนี้ ว่าสามีนางเป็นเจ้าของบริษัท เลี้ยงนาง ไม่ให้นางทำงาน ให้นอนเป็นคุณนายอยู่บ้านคอยดูแลปรึกษาปัญหาให้พนักงาน แต่สามีนางเป็นเจ้าของบริษัทจริงๆ ซึ่งฉันก็เห็นว่าบริษัทเขาใหญ่โตนะ น่าจะมีเงิน แต่เท่าที่ฉันรู้ก็คือ นางก็ทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนที่บริษัทสามีนางนะ ทำให้ฉันงงมาก ตกลงเขาเป็นสามีภรรยากันจริงไหม มารู้ภายหลังว่า ยังไม่ได้แต่งงาน แค่คบๆกัน แต่อยู่บ้านเดียวกัน

ทีนี้ฉันก็เลยบอกเอ(เพื่อนที่อยู่ใกล้บ้านนาง) ว่า นางมากู้เงินที่บริษัทฉัน แล้วต้องใช้หนี้หมดก่อนนะ ถึงจะออกได้ เอตกใจ งงว่า สามีนางบอกว่า นางจะกลับมาพรุ่งนี้นะ แล้วนางก็นัดลูกน้องของสามีนางไปกินเลี้ยงด้วย พอฉันรู้แบบนั้นฉันเลยโทรบอกเจ้านายฉันว่า พรุ่งนี้นางจะลางานหรอ เจ้านายบอกว่านางไม่ได้ขอลานะ เดี๋ยวเจ้านายโทรถามแปป นางก็เลยบอกเจ้านายดิฉันว่า จะขอลางานสี่วัน เดี๋ยวกลับมาจะมาปิดหนี้แล้วลาออก เจ้านายบอกว่า ทำแบบนี้ไม่ได้ ฉันให้เธอกู้เงินเพราะฉันอยากให้เธอทำงานที่นี่ ฉันอยากได้คนทำงาน ฉันไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้ แล้วถ้าเธอออกไปแล้วเธอไม่กลับมาละ หรือเธอหาเงินไม่ได้ภายในสี่วันนี่ละ เธอจะกลับมาไหม เจ้านายเลยยื่นคำขาดไปว่า ถ้าจะออก ออกได้ แต่ต้องใช้หนี้ก่อนออก ไม่ใช่ออกก่อนแล้วค่อยมาใช้หนี้ 

นางเลยบอกว่านางไม่ออก นางไม่มีความคิดที่จะออก นางแค่จะลาพักผ่อน เจ้านายเลยบอกว่า ยังไม่ให้ลา ถ้าจะพักผ่อนก็พักในวันหยุด ซึ่งหยุดอาทิตย์ละวันอยู่แล้ว ซึ่งเอาจริงๆ บ้านนางกับริษัทมันอยู่ไกลกันมาก คนละจังหวัด ซึ่งไม่สามารถไปกลับในวันเดียวได้ ฉันเดาทางนางออกเลย ว่านางกะจะลากลับบ้าน แล้วไม่กลับมาทำงานอีกเลย 

หลังจากเรื่องนั้น นางโมโหฉันเป็นฟืนเป็นไฟที่ฉันรู้ทันนาง ไปบอกเจ้านายก่อน แล้วหอพักพนักงานมีกล้องวงจรปิด พอนางจะลากกระเป๋าออกข้างนอกปุ๊ป เจ้านายโทรหาทันที ทำให้นางอึดอัด นางเลยพูดใส่หน้าคนในที่ทำงานว่า นางจะให้สามีนางเอาเงินมาโยนใส่หน้าแล้วออกไปจากที่นี่ส่ะ เพราะฉันไส่ร้ายนาง ไปบอกเจ้านายว่านางจะหนีหนี้ นางยังโทรไปด่าเอ เพื่อนข้างบ้านของนาง ว่าไปบอกฉันทำไมว่านางจะกลับบ้าน 

ฉันนั่ง งง เป็นไก่ตาแตก ฉันผู้ถูกนางกระทำมาโดยตลอด จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ทำงานเคยคุยกับฉัน นางทำให้คนอื่นเข้าใจฉันผิด คนอื่นมองฉันแปลกๆ บางคนจากเคยไลน์หาฉัน โทรหาฉัน ก็เงียบหายไปเลย เหมือนกำลังชั่งใจว่าฉันคบได้หรือไม่ได้ นางยังหาว่าฉันเป็นผีพนัน มีหนี้รอบตัว ทั้งๆที่นางนะรู้อยู่แก่ใจว่ามายืมเงินฉันทุกสัปดาห์ ฉันเป็นผู้ถูกกระทำ ฉันควรจะโกรธ จะโมโห สิ่งที่ฉันเสียใจคือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ฉันสร้างมาหลายปี ฉันไม่เคยนินทาหรือทะเลาะกับใคร แต่นางเข้ามาทำให้คนอื่นไม่ชอบฉัน ฉันได้แต่นั่งปลง เพราะเราคงอธิบายให้คนทั้งโลกฟังไม่ได้หรอก อะไรดีอะไรไม่ดี หวังว่าเวรกรรมจะนำพา แล้วฉันก็ไม่คุยกับใครอีกเลยในบริษัท

ผ่านไปสองวัน เจ้านายโทรมาบอกฉันว่า เจ้านายไล่นางออก ให้นางไปหาเงินมาจ่ายก่อนออก เพราะนางอยู่ไปก็เสี้ยมให้คนนั้นทะเลาะกับคนนี้ ทำให้บริษัทวุ่นวายมาก แถมภรรยาเจ้านายยังไม่ชอบนาง เพราะนางนินทา ทุกคนในบริษัทรักภรรยาของเจ้านายทุกคน เขาเป็นคนไม่ถือตัว ใจดี ไม่เคยดุเคยด่า ใครเดือดร้อนพึ่งได้หมด แล้วเขาก็ไม่เคยทำงาน เพราะเจ้านายรักเขามาก ให้เขาอยู่บ้าน ดูแลบ้าน ดูแลเงิน ไม่เหมือนนางที่ยังต้องทำงานแม้ในบริษัทของสามีและรับเงินเดือนเท่าพนักงานทุกคน

นางคุยโวใหญ่โตว่า เดี๋ยวถ้าสามีนางรู้ สามีจะต้องหอบเงินมาใช้หนี้ให้นาง และมารับนางกลับไป เอเพื่อนข้างบ้านเลยอาสาไปบอกสามีนางให้ ว่านางติดหนี้บริษัทอยู่ สามีนางก็ทำเศร้าๆแล้วบอกว่า ผมรู้แล้ว บีโทรมาขอยืมเงินสามแสนไปจ่ายหนี้ ซึ่งสามแสนนี้แค่หนี้ที่บริษัทแล้วยังมีหนี้อื่นๆ หนี้ลูกน้องผมในบริษัท ซึ่งเขาหายตาหายตาไม่ตอบไลน์ลูกน้องผมเลย ผมได้แต่ช่วยโกหกว่าโทรศัพท์เขาพัง เขาโกหกลูกน้องผมว่า เขาจะเอาเงินไปปล่อยกู้แล้วจะให้ดอกเบี้ยรายสัปดาห์ แต่ผ่านมาหลายเดือนลูกน้องผมยังไม่ได้ดอก แถมนางหายหน้าหายตาติดต่อไม่ได้ แล้วเมื่อวานผมพึ่งมารู้ว่านางมาลูกติดสองคน อายุน้อยมาก อยู่อนุบาลทั้งคู่ นางไม่เคยบอกผม นางบอกเสมอว่านางเป็นสาวโสด สด ไม่เคยแต่งงาน นางซื้อของแบรนด์เนม กระเป๋าเดือนละหลายใบ ผมยัง งง ว่านางเอาเงินมาจากไหน ทั้งๆที่ผมไม่เคยให้ ผมเคยคุยกันเรื่องเงินว่า ถ้าเรายังไม่แต่งงานกัน เราจะยังแยกกระเป๋ากันอยู่ เงินคุณก็เงินคุณ เงินผมก็เงินผม แต่ผมก็รักเขานะ แต่ผมยังไม่พร้อมจะแต่งงาน เขาเข้ามาอยู่กับผมเอง และทำตัวให้คนอื่นเข้าใจว่าแต่งงาน ทั้งๆที่เรายังเป็นแค่แฟน แต่ผมก็เลยตามเลย คนในบริษัทก็มักจะซุบซิบเสมอว่า ทำไมภรรยาบอสยังต้องทำงานตำแหน่งเดียวกับลูกน้องคนอื่นๆ เงินเดือนก็เท่าคนอื่น แต่มีแบรนด์เนมหัวจรดเท้าเลย ผมก็ไม่เคยฟังเสียงซุบซิบนินทา ผมกำลังดูๆเขาอยู่ ผมพึ่งมารู้ทีหลังว่า ของแบรนด์เนมพวกนั้นเขาไปกู้เงินมาซื้อ เพื่อสร้างภาพว่า ผมซื้อให้เขา ตอนนี้เขามีหนี้เยอะมากๆ และผมเคยเสนอให้เขากลับมาทำงานที่บริษัทผม แล้วผมจะช่วยใช้หนี้ แต่เขาไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าต้องกลับมาบริษัทผม เขาจะต้องมาในฐานะภรรยาเจ้านาย ซึ่งไม่ต้องทำงาน เพราะเขาอายลูกน้องที่ต้องมาทำงานเหมือนกันกับลูกน้อง ผมบอกว่าได้สิ แต่ถ้าคุณไม่ทำงาน ผมจะให้เงินเดือนคุณแค่ครึ่งหนึ่งนะ เขาเลยโมโหผม ทะเลาะกับผมและเลิกกันไปแล้ว เพราะผมไม่ช่วยจ่ายหนี้บริษัทให้เขา

ฉันฟังและปวดหัวไมเกรนขึ้น ทำไมนางต้องทำให้ชีวิตยุ่งเหยิง ในเมื่อแฟนนางก็รู้อยู่แล้วว่านางมาทำงานบริษัทอื่น นางจะต้องแอ๊บไปคุยโวให้คนอื่นเขาขุดทำไม แค่นางทำงานอยู่เฉยๆ ผูกมิตรกับทุกคน ไม่ต้องเกทับใคร ไม่ต้องไปคุยโว ว่าเกิดมาไม่เคยทำงานเลย เรียนจบมาเจอแฟนก็นั่งเป็นภรรยาบอสในห้องผู้บริหารแล้ว ถ้านางไม่ทำตัวให้คนอื่นหมั่นไส้ หรือถ้านางไม่ไปพูดให้คนอื่นทะเลาะเบาะแว้งกัน นางตั้งใจทำงานไป ไม่กี่เดือนหนี้ก็หมด นางจะออกไปไหนก็ไป ณ ตอนนี้ เจ้านายฉันก็ไม่เอานางแล้ว ให้นางไปหากู้มาปิดหนี้ แฟนนางก็ไม่เอานางแล้วเพราะนางโกหกมากไป เพื่อนๆก็ไม่กล้าคุยกับนางเพราะกลัวนางนินทาลับหลัง ชีวิตจะเป็นยังไงต่อไปไม่รู้ เพราะเมื่อคืนภรรยาของเจ้านายฉันพึ่งโทรมาว่านางกำลังไปกู้เงินนอกระบบมาจ่าย อาจจะต้องรอเงินสักวันสองวัน ไม่มีใครสงสารนาง เพราะจนถึงวินาทีสุดท้ายนางก็ยังคงยืนยันว่านางโดนใส่ร้ายจากฉัน และเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบที่นางไปติดต่อขอกู้ก็ญาติห่างๆของฉันเอง นางอาจจะรู้ ฉันได้แต่บอกว่า แล้วแต่พี่เลย จะปล่อยไม่ไม่ปล่อย ส่วนฉันขออนุญาตไม่รับรู้ เพราะฉันตัดนางแล้ว ถือส่ะว่าขาตินี้ไม่เคยรู้จักกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่