สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ กลับมาเจอกันอีกแล้วกับการรีวิวแก็ดเจ็ตสุดไฮเทคที่จะช่วยทำให้ชีวิตเพื่อน ๆ สะดวกสบายขึ้นเยอะ วันนี้ถึงคราวของ สมาร์ตวอตช์ นาฬิกาอัจฉริยะที่ฟังก์ชันขั้นเทพจัดออปชันมาเต็มแบบที่เพื่อน ๆ จะต้องถูกใจแน่นอน ซึ่งตัวผมเองเชื่อว่าหลาย ๆ คนในห้องแก็ดเจ็ตแห่งนี้ ก็คงกำลังมองหาสมาร์ตวอตช์แบรนด์ดี ๆ สักรุ่นมาใช้งานอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกนาฬิกาแบบไหนที่ตอบโจทย์ในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการวัดข้อมูลสุขภาพก็ดี ดังนั้นวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำเพื่อนคู่ใจนักกีฬาอย่าง
HUAWEI WATCH GT 3 Pro สมาร์ตวอตช์สายแอคทีฟรุ่นใหม่ ของ HUAWEI ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเด่นเอาใจคนชอบดำน้ำสุด ๆ ที่สามารถดำน้ำลึกได้ตั้ง 30 เมตร เท่านั้นไม่พอ! ยังปลดล็อกสกินทองคำด้วย โหมด Driving Range สุดปังที่จะช่วยเพื่อน ๆ ตีกอล์ฟสนุกขึ้น แถมฟีเจอร์ออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมดและฟีเจอร์ตามติดสุขภาพครบวงจร ที่พร้อมเป็นบัดดี้คู่ใจตะลุยไปกับเราทุกที่อีกด้วยครับ เรียกได้ว่า ความสามารถเยอะขนาดนี้ ครบจบในเรือนเดียวจริง ๆ เอาล่ะคุณสมบัติยอดเยี่ยมขนาดนี้ เดี๋ยวผมจะมารีวิวความปังของสมาร์ตวอตช์รุ่นนี้ที่เป็นผู้ช่วยเทรนนิ่งตัวจริงว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ จนควักเงินในกระเป๋าตังค์มาซื้อหรือไม่ ตามไปกันดูครับบบบบบ
สำหรับ HUAWEI WATCH GT3 Pro ที่ผมกำลังรีวิวจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นคือ
HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm และ
HUAWEI WATCH GT 3 Pro 46mm ทั้งคู่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ที่แสดงภาพออกมาได้สีสดใส พร้อมความละเอียดสูงถึง 466 x 466 พิกเซล ซึ่งตัวหน้าปัดของ HUAWEI WATCH GT3 Pro 43mm จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 1.32 นิ้ว พร้อมน้ำหนักที่ไม่รวมสายนาฬิกา 50 กรัม ขณะที่ HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm มีขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว และน้ำหนักไม่รวมสายนาฬิกา 54 กรัม โดยส่วนตัวผมคิดว่าหน้าปัดทั้งสองเรือนดูแพง องค์ประกอบลงตัว ดูน่าใช้งานจริง ๆ
ส่วนสมาร์ตวอตช์ทั้งสองเรือนเป็นกระจกกันรอยขีดข่วนแบบ
Sapphire Glass Surface เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงที่สุดในการนำมาทำเป็นกระจกของนาฬิกา ทั้งยังรองรับการกระแทกระหว่างใช้งานได้ดี และมีน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบสมาร์ตวอตช์ที่ใช้กระจกแบบ Gorilla Glass อีกด้วยครับ ในด้านดีไซน์ ตัว HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm นั้นก็มาพร้อมกับสายนาฬิกาสีขาวและเฟรมตัวเรือนที่ใช้วัสดุจากเซรามิก มีขนาด 42.9 มม. X 42.9 มม. X 10.5 มม. ซึ่งตัวเรือนรุ่นนี้จะเหมาะกับสาว ๆ และคนที่มีข้อมือเล็กฮะ ส่วนหนุ่ม ๆ สายลุยคนไหนที่ข้อมือใหญ่ ก็ต้องลอง HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm มาพร้อมกับสายหนังสีเทาเข้มและเฟรมตัวเรือนที่ทำจากไทเทเนียม ขนาด 46.6 มม. X 46.6 มม. X 10.9 มม. ให้ฟิลเท่ดุดันทีเดียว โดยรวมแล้วนาฬิกาทั้ง 2 รุ่นจะใส่เรือนไหนก็ให้ลุคดูเรียบ แต่หรูและใช้ได้ทุกสถานการณ์ พร้อมแมตช์ให้เข้าชุดกับสไตล์การแต่งตัวได้ง่าย ๆ เลยครับ
พลิกมาดูด้านหลังเครื่องจะเป็นส่วนของช่องเซ็นเซอร์ มีช่องลำโพงกับไมโครโฟนอยู่แถวด้านซ้ายและขวาของเรือน ส่วนตัวกรอบทั้งคู่จะใช้
Curved Ceramic Rear Case เหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่เคสทั้งสองเรือนจะไม่เหมือนกันกัน ตรงที่ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm นั้นมาพร้อมเซรามิก ส่วน HUAWEI WATCH GT 3 Pro 46mm จะใช้เคสไทเทเนียมนั้นเอง ถึงจะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน แต่ก็มาพร้อมความทนทานในการใช้งานที่มีคุณภาพ แถมน้ำหนักเบา ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยปรับอุณหภูมิเลนส์กระจกแบบโค้งมน หรือ แซฟไฟร์ที่สัมผัสกับผิวหนังของเราโดยตรง ให้สวมใส่สบายมากขึ้นครับ
ด้านขวาของตัวเรือนจะมีปุ่มกดทั้งหมด 2 ปุ่ม คือ ปุ่มแรกเป็นปุ่มหมุนแบบ
Rotatable Crown ที่สามารถใช้ควบคุมการกดซูมเข้า - ออก หรือจะเลื่อนไปข้างหน้าในเมนูแรก ด้วยวัสดุปุ่มของ HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm จะทำมาจากไทเทเนียม ส่วนปุ่มของ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm จะเป็นผิวแบบเซรามิกเคลือบสีทองมาด้วยนะครับ และปุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ กับปุ่มหมุนแบบ Rotatable Crown เราเรียกว่า
ปุ่มฟังก์ชัน สามารถปรับตั้งค่าโหมดออกกำลังกายต่าง ๆ ตามที่เราต้องการจะเล่นได้เลยครับ
สเปกดีไซน์เราก็พูดกันไปหมดแล้ว งั้นเราขอมาเริ่มเล่าฟีเจอร์ไฮไลต์ของ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ที่มาฟีเจอร์เจ๋ง ๆ จนเพื่อน ๆ ตรงร้องว้าววว ตรงที่ว่า เราสามารถใส่ดำน้ำใต้ทะเลหรือสระว่ายน้ำได้ด้วยนะฮะ แถม HUAWEI เขายังการันตีมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM และ IP68 ที่รองรับการดำน้ำได้ลึกสูงสุดถึง 30 เมตร แม้ว่าจะมีสภาวะที่มีแรงดันในใต้น้ำมากแค่ไหน ก็สามารถดำน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยครับ นอกจากนี้ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีคุณสมบัติถึง 2 โหมดที่เป็นประโยชน์ต่อในการดำน้ำได้ เช่น Freedive และ Apnea Training โดยเราขอประเดิมโหมดแรกอย่าง
Freedive ที่เขาพร้อมเอาใจนักดำน้ำเต็มที่ โดยโหมดดังกล่าวจะแสดงข้อมูลความลึกสูงสุด, ระยะเวลา, ความลึกในน้ำ และความเร็วในขณะที่เราดำน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ดำเสร็จเราก็สามารถหยุดเวลาได้อีกด้วยครับ
ส่วนโหมดที่สองอย่าง
Apnea Training จะช่วยเราลองฝึกหายใจในใต้น้ำได้นาน ๆ พร้อมติดตามอัตราการเต้นจังหวะหัวใจและวัดออกซิเจนในเลือดได้ด้วย หากเราทำภารกิจดำน้ำทั้งสองอย่างเสร็จ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health บนเมนูหลัก HEALTH เขาจะช่วยวิเคราะห์การดำน้ำทุกครั้งอย่างอัตโนมัติและถ้าใครใช้ Android หรือ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดได้ครับ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญที่จะช่วยนักกอล์ฟมีความมั่นใจในการออกรอบแบบมือโปร นั้นก็คือ
Driving Range Mode เป็นโหมดที่จะช่วงปรับท่าวงสวิงของเรา ให้ตีกอล์ฟได้อย่างแม่นยำขึ้น โดยจะแบ่งออกเป็น 3 Step ไต่ระดับไปตั้งแต่ไฟเเดงถึงไฟเขียว ประเดิม Step แรกคือ
Swing Tempo ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนตีวงสวิงกอล์ฟไม่ถูกต้อง ตัวเรือนจะส่งเสียงพร้อมสั่นทันทีและเข็มจะชี้ไปสีแดง ต่อมา Step ที่สอง
Too Much Backswing หรือการหมุนแขนกลับก่อนตีลูกกอล์ฟ สูงจนเกินไป หากเข็มชี้ไปสีเหลืองเราจะต้องจัดท่าใหม่ให้สมบูรณ์ จนกว่าจะทำ Step สุดท้ายที่ถูกต้องอย่าง
Swing Tempo (Perfect) หรือจังหวะของวงสวิงเหมาะสม ถ้าใครตีกอล์ฟได้เพอร์เฟคมากพอ เข็มก็จะชี้ไปสีเขียวครับ ก็เป็นอันจบในการฝึกตีกอล์ฟครับ
ถ้าออกรอบเสร็จ อยากจะดูข้อมูลแต่ละช็อตที่ตีไปว่าทำได้ดีขนาดไหน เราสามารถดูได้บนแอปพลิเคชัน HUAWEI Health เขาจะทำการวิเคราะห์การตีกอล์ฟของเราได้อย่างละเอียดเลยครับ
HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟีเจอร์ผู้ช่วยคนเก่งอย่าง
AI Running Coach ที่จะทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชัน HUAWEI Health โดยตัวระบบจะเข้ามาช่วยเราวางแผนการวิ่งหรือเดินในแต่ละวัน เหมือนกับมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาคอยให้คำแนะเรื่องการออกกำลังกายอยู่ข้าง ๆ ซึ่งแต่ละเทคนิคการวิ่งก็จะไต่ระดับตั้งแต่เบสิคสุด ๆ ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ แถมเรายังสามารถกดดูข้อมูลต่าง ๆ หลังจากที่วิ่งเสร็จ รวมถึงยังแนะนำวันที่เราควรจะพักฟื้นและวันที่จะกลับไปออกกำลังกายอีกครั้งด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม
Smart Running Plans ที่พร้อมจะช่วยให้การซ้อมวิ่งพิชิตต่าง ๆ ในแต่ละวันหรือสัปดาห์ของเราเป็นจริงและสำเร็จได้ไม่ยาก ที่สำคัญเราสามารถปรับแผนการวิ่ง ตามที่ Smart Running Plans แนะนำได้เลยครับ
เรื่องการออกกำลังกาย HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟีเจอร์โหมดติดตามออกกำลังกายหลากหลายระดับมือโปร ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ให้เราเลือกมากกว่า 100 โหมด ออกกำลังกายพื้นฐาน เช่น วิ่ง เดิน ก็จัดมาให้หมด แต่ ๆ สิ่งที่ผมว้าว ๆ สุดและคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใส่มาให้ อย่าง ระบำหน้าท้อง,เซปักตะกร้อ หรือจะเป็นสกี เชียวนะเพื่อน ๆ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าการออกกำลังกายตัวโปรดของเราให้ไปอยู่เมนูลัดได้ โดยเราสามารถกดปุ่มควบคุมด้านล่างของสมาร์ตวอตช์ หลังจากนั้นเลื่อนลงมาเมนูข้างล่างและเลือก CUSTOM กดตรงปุ่มบวกบนหน้าจอ แป๊ปเดียว กีฬาก็จะขึ้นเต็มไปหมดเลยครับ ให้เราเลือกตามใจชอบได้เลย ก็ถือว่าอีกหนึ่งโหมดที่ตอบโจทย์กับสายออกกำลังกายมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ตัว HUAWEI GT 3 Pro ยังมาพร้อมกับระบบติดตาม GPS Dual - band 5 ที่ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายมุมไหนของโลก ก็สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำอีกด้วยฮะ
เท่านั้นไม่พอ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟังก์ชันสำหรับสายเฮลท์ตี้ ที่จะคอยเป็นบัดดี้คู่ใจในการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยระบบสุดอัจฉริยะอย่าง TruSeen 5.0+ สามารถช่วยให้เพื่อน ๆ รู้ข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง หากจังหวะหัวใจตึกตักของเรานั้นเต้นผิดปกติ ตัวฟีเจอร์จะทำการแจ้งทันที เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ส่วนสาว ๆ ใครกำลังจะที่เป็นวันนั้นของเดือน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาช่วงประมาณวันไหน ตัวนาฬิกาสามารถตั้ง notification คาดคะเนช่วงที่ประจำเดือนจะมาได้เป๊ะขึ้น โดยให้เรากรอกข้อมูลและบันทึกอาการต่าง ๆ ที่พบบ่อยในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมา เช่น มีสิว ท้องเสีย ปวดหัวไมเกรน ฯลฯ รวมถึงการเพิ่มโน้ตส่วนตัวในแต่ละวันด้วย บนแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ก็จะทำการคำนวนวันตกไข่และรอบเดือนของสาว ๆ ซึ่งเราสามารถเช็กวันที่ใกล้จะมาบนสมาร์ตวอตช์ได้เลยครับ
ในสมาร์ตวอตช์รุ่นนี้ เรายังสามารถวัดระดับค่าอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเราจะใส่ขณะทำงาน ออกกำลังกายหรือนอนหลับก็ตาม รวมถึงยังช่วยตรวจจับโมเลกุลออกซิเจนภายในเลือดได้อัตโนมัติ โดยที่ตัวฟีเจอร์นี้ก็จะทำการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ทราบทันที ซึ่งค่าเฉลี่ยเลือดที่ดีขึ้นไปควรจะอยู่ที่ 95% ขึ้นไปครับ
ตัว HUAWEI WATCH GT 3 Pro เขาก็มีฟังก์ชันสุดเจ๋งอย่าง
TruSleep 2.0 หรือ การตรวจจับการนอนแบบเรียลไทม์ ที่สามารถบอกได้เลยว่าเรานอนไปแล้วกี่ชั่วโมง นอนหลับสนิทมากแค่ไหน มีการตื่นระหว่างนอนกี่ครั้ง รวมถึงคุณภาพโดยรวมของการนอนในหลายคืนว่าเราหลับดีแค่ไหน พร้อมให้คำแนะนำการนอนมากกว่า 200 ข้อ และสามารถระบุปัญหาในการนอนถึง 6 อย่าง ที่จะช่วยทำให้เรานอนพักผ่อนได้อย่างเพียงพอและตื่นขึ้นมาสดชื่นรับวันใหม่ครับ
[BR] HUAWEI WATCH GT 3 Pro ผู้ช่วยเทรนนิ่งตัวจริง มาพร้อมโหมดดำน้ำและกอล์ฟ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ กลับมาเจอกันอีกแล้วกับการรีวิวแก็ดเจ็ตสุดไฮเทคที่จะช่วยทำให้ชีวิตเพื่อน ๆ สะดวกสบายขึ้นเยอะ วันนี้ถึงคราวของ สมาร์ตวอตช์ นาฬิกาอัจฉริยะที่ฟังก์ชันขั้นเทพจัดออปชันมาเต็มแบบที่เพื่อน ๆ จะต้องถูกใจแน่นอน ซึ่งตัวผมเองเชื่อว่าหลาย ๆ คนในห้องแก็ดเจ็ตแห่งนี้ ก็คงกำลังมองหาสมาร์ตวอตช์แบรนด์ดี ๆ สักรุ่นมาใช้งานอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกนาฬิกาแบบไหนที่ตอบโจทย์ในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการวัดข้อมูลสุขภาพก็ดี ดังนั้นวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำเพื่อนคู่ใจนักกีฬาอย่าง HUAWEI WATCH GT 3 Pro สมาร์ตวอตช์สายแอคทีฟรุ่นใหม่ ของ HUAWEI ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเด่นเอาใจคนชอบดำน้ำสุด ๆ ที่สามารถดำน้ำลึกได้ตั้ง 30 เมตร เท่านั้นไม่พอ! ยังปลดล็อกสกินทองคำด้วย โหมด Driving Range สุดปังที่จะช่วยเพื่อน ๆ ตีกอล์ฟสนุกขึ้น แถมฟีเจอร์ออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมดและฟีเจอร์ตามติดสุขภาพครบวงจร ที่พร้อมเป็นบัดดี้คู่ใจตะลุยไปกับเราทุกที่อีกด้วยครับ เรียกได้ว่า ความสามารถเยอะขนาดนี้ ครบจบในเรือนเดียวจริง ๆ เอาล่ะคุณสมบัติยอดเยี่ยมขนาดนี้ เดี๋ยวผมจะมารีวิวความปังของสมาร์ตวอตช์รุ่นนี้ที่เป็นผู้ช่วยเทรนนิ่งตัวจริงว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ จนควักเงินในกระเป๋าตังค์มาซื้อหรือไม่ ตามไปกันดูครับบบบบบ
สำหรับ HUAWEI WATCH GT3 Pro ที่ผมกำลังรีวิวจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นคือ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm และ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 46mm ทั้งคู่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ที่แสดงภาพออกมาได้สีสดใส พร้อมความละเอียดสูงถึง 466 x 466 พิกเซล ซึ่งตัวหน้าปัดของ HUAWEI WATCH GT3 Pro 43mm จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 1.32 นิ้ว พร้อมน้ำหนักที่ไม่รวมสายนาฬิกา 50 กรัม ขณะที่ HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm มีขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว และน้ำหนักไม่รวมสายนาฬิกา 54 กรัม โดยส่วนตัวผมคิดว่าหน้าปัดทั้งสองเรือนดูแพง องค์ประกอบลงตัว ดูน่าใช้งานจริง ๆ
ส่วนสมาร์ตวอตช์ทั้งสองเรือนเป็นกระจกกันรอยขีดข่วนแบบ Sapphire Glass Surface เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงที่สุดในการนำมาทำเป็นกระจกของนาฬิกา ทั้งยังรองรับการกระแทกระหว่างใช้งานได้ดี และมีน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบสมาร์ตวอตช์ที่ใช้กระจกแบบ Gorilla Glass อีกด้วยครับ ในด้านดีไซน์ ตัว HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm นั้นก็มาพร้อมกับสายนาฬิกาสีขาวและเฟรมตัวเรือนที่ใช้วัสดุจากเซรามิก มีขนาด 42.9 มม. X 42.9 มม. X 10.5 มม. ซึ่งตัวเรือนรุ่นนี้จะเหมาะกับสาว ๆ และคนที่มีข้อมือเล็กฮะ ส่วนหนุ่ม ๆ สายลุยคนไหนที่ข้อมือใหญ่ ก็ต้องลอง HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm มาพร้อมกับสายหนังสีเทาเข้มและเฟรมตัวเรือนที่ทำจากไทเทเนียม ขนาด 46.6 มม. X 46.6 มม. X 10.9 มม. ให้ฟิลเท่ดุดันทีเดียว โดยรวมแล้วนาฬิกาทั้ง 2 รุ่นจะใส่เรือนไหนก็ให้ลุคดูเรียบ แต่หรูและใช้ได้ทุกสถานการณ์ พร้อมแมตช์ให้เข้าชุดกับสไตล์การแต่งตัวได้ง่าย ๆ เลยครับ
พลิกมาดูด้านหลังเครื่องจะเป็นส่วนของช่องเซ็นเซอร์ มีช่องลำโพงกับไมโครโฟนอยู่แถวด้านซ้ายและขวาของเรือน ส่วนตัวกรอบทั้งคู่จะใช้ Curved Ceramic Rear Case เหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่เคสทั้งสองเรือนจะไม่เหมือนกันกัน ตรงที่ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm นั้นมาพร้อมเซรามิก ส่วน HUAWEI WATCH GT 3 Pro 46mm จะใช้เคสไทเทเนียมนั้นเอง ถึงจะใช้วัสดุที่แตกต่างกัน แต่ก็มาพร้อมความทนทานในการใช้งานที่มีคุณภาพ แถมน้ำหนักเบา ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยปรับอุณหภูมิเลนส์กระจกแบบโค้งมน หรือ แซฟไฟร์ที่สัมผัสกับผิวหนังของเราโดยตรง ให้สวมใส่สบายมากขึ้นครับ
ด้านขวาของตัวเรือนจะมีปุ่มกดทั้งหมด 2 ปุ่ม คือ ปุ่มแรกเป็นปุ่มหมุนแบบ Rotatable Crown ที่สามารถใช้ควบคุมการกดซูมเข้า - ออก หรือจะเลื่อนไปข้างหน้าในเมนูแรก ด้วยวัสดุปุ่มของ HUAWEI WATCH GT3 Pro 46mm จะทำมาจากไทเทเนียม ส่วนปุ่มของ HUAWEI WATCH GT 3 Pro 43mm จะเป็นผิวแบบเซรามิกเคลือบสีทองมาด้วยนะครับ และปุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ กับปุ่มหมุนแบบ Rotatable Crown เราเรียกว่า ปุ่มฟังก์ชัน สามารถปรับตั้งค่าโหมดออกกำลังกายต่าง ๆ ตามที่เราต้องการจะเล่นได้เลยครับ
สเปกดีไซน์เราก็พูดกันไปหมดแล้ว งั้นเราขอมาเริ่มเล่าฟีเจอร์ไฮไลต์ของ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ที่มาฟีเจอร์เจ๋ง ๆ จนเพื่อน ๆ ตรงร้องว้าววว ตรงที่ว่า เราสามารถใส่ดำน้ำใต้ทะเลหรือสระว่ายน้ำได้ด้วยนะฮะ แถม HUAWEI เขายังการันตีมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM และ IP68 ที่รองรับการดำน้ำได้ลึกสูงสุดถึง 30 เมตร แม้ว่าจะมีสภาวะที่มีแรงดันในใต้น้ำมากแค่ไหน ก็สามารถดำน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยครับ นอกจากนี้ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีคุณสมบัติถึง 2 โหมดที่เป็นประโยชน์ต่อในการดำน้ำได้ เช่น Freedive และ Apnea Training โดยเราขอประเดิมโหมดแรกอย่าง Freedive ที่เขาพร้อมเอาใจนักดำน้ำเต็มที่ โดยโหมดดังกล่าวจะแสดงข้อมูลความลึกสูงสุด, ระยะเวลา, ความลึกในน้ำ และความเร็วในขณะที่เราดำน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ดำเสร็จเราก็สามารถหยุดเวลาได้อีกด้วยครับ
ส่วนโหมดที่สองอย่าง Apnea Training จะช่วยเราลองฝึกหายใจในใต้น้ำได้นาน ๆ พร้อมติดตามอัตราการเต้นจังหวะหัวใจและวัดออกซิเจนในเลือดได้ด้วย หากเราทำภารกิจดำน้ำทั้งสองอย่างเสร็จ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health บนเมนูหลัก HEALTH เขาจะช่วยวิเคราะห์การดำน้ำทุกครั้งอย่างอัตโนมัติและถ้าใครใช้ Android หรือ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดได้ครับ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญที่จะช่วยนักกอล์ฟมีความมั่นใจในการออกรอบแบบมือโปร นั้นก็คือ Driving Range Mode เป็นโหมดที่จะช่วงปรับท่าวงสวิงของเรา ให้ตีกอล์ฟได้อย่างแม่นยำขึ้น โดยจะแบ่งออกเป็น 3 Step ไต่ระดับไปตั้งแต่ไฟเเดงถึงไฟเขียว ประเดิม Step แรกคือ Swing Tempo ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนตีวงสวิงกอล์ฟไม่ถูกต้อง ตัวเรือนจะส่งเสียงพร้อมสั่นทันทีและเข็มจะชี้ไปสีแดง ต่อมา Step ที่สอง Too Much Backswing หรือการหมุนแขนกลับก่อนตีลูกกอล์ฟ สูงจนเกินไป หากเข็มชี้ไปสีเหลืองเราจะต้องจัดท่าใหม่ให้สมบูรณ์ จนกว่าจะทำ Step สุดท้ายที่ถูกต้องอย่าง Swing Tempo (Perfect) หรือจังหวะของวงสวิงเหมาะสม ถ้าใครตีกอล์ฟได้เพอร์เฟคมากพอ เข็มก็จะชี้ไปสีเขียวครับ ก็เป็นอันจบในการฝึกตีกอล์ฟครับ
ถ้าออกรอบเสร็จ อยากจะดูข้อมูลแต่ละช็อตที่ตีไปว่าทำได้ดีขนาดไหน เราสามารถดูได้บนแอปพลิเคชัน HUAWEI Health เขาจะทำการวิเคราะห์การตีกอล์ฟของเราได้อย่างละเอียดเลยครับ
HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟีเจอร์ผู้ช่วยคนเก่งอย่าง AI Running Coach ที่จะทำงานควบคู่กับแอปพลิเคชัน HUAWEI Health โดยตัวระบบจะเข้ามาช่วยเราวางแผนการวิ่งหรือเดินในแต่ละวัน เหมือนกับมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาคอยให้คำแนะเรื่องการออกกำลังกายอยู่ข้าง ๆ ซึ่งแต่ละเทคนิคการวิ่งก็จะไต่ระดับตั้งแต่เบสิคสุด ๆ ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ แถมเรายังสามารถกดดูข้อมูลต่าง ๆ หลังจากที่วิ่งเสร็จ รวมถึงยังแนะนำวันที่เราควรจะพักฟื้นและวันที่จะกลับไปออกกำลังกายอีกครั้งด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Smart Running Plans ที่พร้อมจะช่วยให้การซ้อมวิ่งพิชิตต่าง ๆ ในแต่ละวันหรือสัปดาห์ของเราเป็นจริงและสำเร็จได้ไม่ยาก ที่สำคัญเราสามารถปรับแผนการวิ่ง ตามที่ Smart Running Plans แนะนำได้เลยครับ
เรื่องการออกกำลังกาย HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟีเจอร์โหมดติดตามออกกำลังกายหลากหลายระดับมือโปร ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ให้เราเลือกมากกว่า 100 โหมด ออกกำลังกายพื้นฐาน เช่น วิ่ง เดิน ก็จัดมาให้หมด แต่ ๆ สิ่งที่ผมว้าว ๆ สุดและคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใส่มาให้ อย่าง ระบำหน้าท้อง,เซปักตะกร้อ หรือจะเป็นสกี เชียวนะเพื่อน ๆ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าการออกกำลังกายตัวโปรดของเราให้ไปอยู่เมนูลัดได้ โดยเราสามารถกดปุ่มควบคุมด้านล่างของสมาร์ตวอตช์ หลังจากนั้นเลื่อนลงมาเมนูข้างล่างและเลือก CUSTOM กดตรงปุ่มบวกบนหน้าจอ แป๊ปเดียว กีฬาก็จะขึ้นเต็มไปหมดเลยครับ ให้เราเลือกตามใจชอบได้เลย ก็ถือว่าอีกหนึ่งโหมดที่ตอบโจทย์กับสายออกกำลังกายมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ตัว HUAWEI GT 3 Pro ยังมาพร้อมกับระบบติดตาม GPS Dual - band 5 ที่ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายมุมไหนของโลก ก็สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำอีกด้วยฮะ
เท่านั้นไม่พอ HUAWEI WATCH GT 3 Pro ยังมีฟังก์ชันสำหรับสายเฮลท์ตี้ ที่จะคอยเป็นบัดดี้คู่ใจในการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยระบบสุดอัจฉริยะอย่าง TruSeen 5.0+ สามารถช่วยให้เพื่อน ๆ รู้ข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง หากจังหวะหัวใจตึกตักของเรานั้นเต้นผิดปกติ ตัวฟีเจอร์จะทำการแจ้งทันที เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ส่วนสาว ๆ ใครกำลังจะที่เป็นวันนั้นของเดือน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาช่วงประมาณวันไหน ตัวนาฬิกาสามารถตั้ง notification คาดคะเนช่วงที่ประจำเดือนจะมาได้เป๊ะขึ้น โดยให้เรากรอกข้อมูลและบันทึกอาการต่าง ๆ ที่พบบ่อยในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมา เช่น มีสิว ท้องเสีย ปวดหัวไมเกรน ฯลฯ รวมถึงการเพิ่มโน้ตส่วนตัวในแต่ละวันด้วย บนแอปพลิเคชัน HUAWEI Health ก็จะทำการคำนวนวันตกไข่และรอบเดือนของสาว ๆ ซึ่งเราสามารถเช็กวันที่ใกล้จะมาบนสมาร์ตวอตช์ได้เลยครับ
ในสมาร์ตวอตช์รุ่นนี้ เรายังสามารถวัดระดับค่าอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเราจะใส่ขณะทำงาน ออกกำลังกายหรือนอนหลับก็ตาม รวมถึงยังช่วยตรวจจับโมเลกุลออกซิเจนภายในเลือดได้อัตโนมัติ โดยที่ตัวฟีเจอร์นี้ก็จะทำการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ทราบทันที ซึ่งค่าเฉลี่ยเลือดที่ดีขึ้นไปควรจะอยู่ที่ 95% ขึ้นไปครับ
ตัว HUAWEI WATCH GT 3 Pro เขาก็มีฟังก์ชันสุดเจ๋งอย่าง TruSleep 2.0 หรือ การตรวจจับการนอนแบบเรียลไทม์ ที่สามารถบอกได้เลยว่าเรานอนไปแล้วกี่ชั่วโมง นอนหลับสนิทมากแค่ไหน มีการตื่นระหว่างนอนกี่ครั้ง รวมถึงคุณภาพโดยรวมของการนอนในหลายคืนว่าเราหลับดีแค่ไหน พร้อมให้คำแนะนำการนอนมากกว่า 200 ข้อ และสามารถระบุปัญหาในการนอนถึง 6 อย่าง ที่จะช่วยทำให้เรานอนพักผ่อนได้อย่างเพียงพอและตื่นขึ้นมาสดชื่นรับวันใหม่ครับ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน