นับตั้งแต่โครงการกระสวยอวกาศปิดตัวลงในปี 2011 สหรัฐฯ ได้พึ่งพายานอวกาศ Soyuz ของรัสเซียในการขนส่งนักบินอวกาศไปและกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) โดยนักบินอวกาศชาวอเมริกัน Mark Vande Hei ซึ่งกลับมาในเดือนมีนาคม 2022 เป็นคนล่าสุดที่ได้สัมผัสยานอวกาศ Soyuz MS-19 ของรัสเซีย แต่ NASA ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพารัสเซียและขยายทางเลือกในการส่งมอบสิ่งของบรรทุกของมนุษย์สู่อวกาศ ในปี 2014 NASA จึงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างจรวดและยานอวกาศในโปรแกรมเชิงพาณิชย์ Commercial Crew (CCP)
โดย CCP มีข้อกำหนดสำหรับระบบขนส่งใหม่ นั่นคือ ยานพาหนะจะต้องนำนักบินอวกาศไปและกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติอย่างปลอดภัย การขนส่งต้องมีความน่าเชื่อถือและราคาดี และบริษัทที่ร่วมงานกับ NASA จะสามารถออกแบบ สร้าง และทดสอบการขนส่งประเภทใดก็ได้ที่ตรงกับความต้องการของ NASA ซึ่งบริษัทสองแห่งในความร่วมมือนี้ได้แก่ Space X และ Boeing
แม้ทั้งสองจะใช้ยานพาหนะและวิธีการที่ต่างกัน แต่ทั้งสองบริษัทมีเป้าหมายเดียวกันคือ สร้างและใช้งานยานอวกาศที่สามารถบรรทุกลูกเรือและเสบียงไปยัง ISS อย่างปลอดภัยและส่งกลับคืนสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัยเช่นกัน (ภารกิจ SpaceX Crew- 4 โดยยานอวกาศ Crew Dragon และ Boeing Starliner โดยยานอวกาศ CST-100 Starliner)
ในขณะที่ Space X กับยานอวกาศ Crew Dragon ได้ทดสอบเที่ยวบินปฏิบัติการหลายเที่ยวบินไปยังห้องปฏิบัติการ ISS ที่โคจรอยู่ จนในปี 2020 ได้ปล่อยยาน Dragon 2 แบบมีมนุษย์ควบคุมในภารกิจที่ชื่อว่า Crew Dragon Demo-2 ซึ่งเป็นการทดสอบเป็นครั้งแรกที่นำนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศ และเป็นครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาและ NASA ที่มีการส่งนักบินอวกาศด้วยยานสัญชาติอเมริกาจากแผ่นดินอเมริกาในรอบ 9 ปีหลังจากการปลดกระจำการของโครงการกระสวยอวกาศ โดย Dragon 2 สามารถขน Supply ได้มากกว่า 3,307 ก.ก. และยังสามารถพานักบินอวกาศไป ISS ได้มากกว่า 7 คน (แต่ NASA ใช้แค่ 4 คน) และยานผ่านการทดสอบเป็นที่เรียบร้อย
Soyuz MS-19
สำหรับ Starliner ยานอวกาศรุ่นต่อไปของ Boeing ในชื่อ CST-100 Starliner ซึ่งกำลังทดสอบเพื่อส่งนักบินอวกาศขึ้นสู่อวกาศนั้น มีรูปร่างคล้ายกับยานอวกาศจากโครงการ Apollo ของ NASA แต่ยานอวกาศเชิงพาณิชย์ใหม่นี้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำหน้ากว่าครึ่งศตวรรษ เป็นรูปทรงกรวย จุดที่กว้างที่ สุดขนาด 14.8 ฟุต (4.5 ม.) และจะบินขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Atlas V ก่อน ทั้งนี้ ยานอวกาศได้รับการออกแบบให้บรรทุกนักบินอวกาศได้ถึง 7 คน แต่หากมีนักบินอวกาศจำนวนน้อยลงในระหว่างภารกิจเฉพาะ ก็สามารถบรรทุกสินค้าเพิ่มเติมได้
ที่ผ่านมา การทดสอบ Starliner นั้น มีการเตรียมการทดสอบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเที่ยวบินแรกสู่อวกาศมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อกำหนดลักษณะอากาศพลศาสตร์ของยาน โมเดลถูกวางไว้ในตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่งเพื่อจำลองขั้นตอนต่างๆ ของการลงจอด ตลอดจนการทำงานของร่มชูชีพและถุงลมนิรภัยสำหรับการลงจอดที่ราบรื่นและปลอดภัย หลังจากล้มเหลวสองครั้ง Starliner ของ Boeing จะลองอีกครั้งในสัปดาห์นี้เพื่อไปถึง ISS
โดยในปี 2014 Boeing ได้เปิดตัวยานอวกาศจำลองเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี ซึ่งเผยให้เห็นด้านในของยานอวกาศเป็นครั้งแรกต่อสาธารณชน ต่อมาในปี 2016 ยานอวกาศประสบความสำเร็จในการทดสอบถุงลมนิรภัย และในปี 2017 ประสบความสำเร็จในการทดสอบร่มชูชีพในทะเลทรายนิวเม็กซิโก แต่ในปี 2018 Boeing ต้องยกเลิกการทดสอบเครื่องยนต์เนื่องจากมีปัญหาระหว่างการทดสอบ ทำให้ต้องเลื่อนเที่ยวบินทดสอบครั้งแรกของ Starliner ไปเป็นปี 2019
CST-100 Starliner ยานอวกาศเชิงพาณิชย์ของ Boeing
ในเดือนธันวาคม 2019 Starliner ได้เปิดตัวสู่อวกาศเป็นครั้งแรกโดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ Orbital Flight Test / OFT-1 เป็นการบินทดสอบแบบไร้คนขับไปยังสถานีอวกาศนานาชาติที่จะเทียบท่าและโคจรรอบโลกประมาณสองวัน แต่แคปซูลไปไม่ถึงสถานีอวกาศ โดยประสบปัญหาข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ทำให้เครื่องขับดันไม่สามารถพุ่งได้ และแคปซูลเผาผลาญเชื้อเพลิงมากเกินไปที่จะเทียบท่ากับสถานีอวกาศได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นในปี 2021 มีการทดสอบอีกครั้งงแต่ Orbital Flight Test - 2 /OFT-2 ไม่ออกจาก Launchpad เนื่องจากติดอยู่ในแนวที่ไม่ถูกต้อง และไม่สามารถวินิจฉัยหรือแก้ไขปัญหาได้ทันทีในสถานที่ปฏิบัติงานจริง ยานจึงถูกส่งกลับไปยังโรงงานของ Boeing ที่ Kennedy Space Center เพื่อทำการทดสอบใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญของ NASA และ Boeing ในเชิงลึกมากขึ้น สำหรับการทดสอบในครั้งที่สาม
จนกระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา หลังจากความพยายามล้มเหลวสองครั้ง การบินทดสอบแบบไร้คนขับของ Starliner สามารถเทียบท่ากับสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จเป็นครั้งแรกและเปิดให้นักบินอวกาศที่อาศัยอยู่บนห้องปฏิบัติการโคจรเข้าได้อย่างเป็นทางการแล้ว Robert Hines นักบินอวกาศของ NASA กล่าวว่า นี่เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของ NASA ที่ทุกคนจินตนาการถึง ตอนนี้มี 3 ยานอวกาศแล้วที่สามารถไปถึงสถานีอวกาศ ISS ได้ นั่นคือ Crew Dragon ของ SpaceX, Soyuz ของรัสเซีย และ Starliner ของ Boeing ทั้งยังเป็นการปูทางสำหรับอนาคตที่เริ่มเปิดใช้งานเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ในวงโคจรต่ำของโลก ในขณะที่ NASA ใช้ไปเยือนดวงจันทร์และในที่สุดก็ไปยังดาวอังคาร
Crew Dragon ภารกิจนำมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศของ SpaceX
สำหรับ Boeing นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับร้อยปีที่ได้รับการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คนว่าเป็นผู้บุกเบิกการเปิดตัวด้านอวกาศ ขณะที่ SpaceX เริ่มต้นในเวลาที่น้อยกว่า แต่ในความเป็นจริง SpaceX นั้นพุ่งไปข้างหน้าได้เร็วกว่าและเพิ่งส่งลูกเรือ 4 คนไปประจำที่สถานีวิจัยแล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งของภารกิจของ Starliner ครั้งนี้คือการส่งมอบสินค้าไปยัง ISS
แม้ว่า Starliner เป็นการบินทดสอบแบบไร้คนขับ แต่ก็มีผู้โดยสารเพียงหนึ่งเดียวคือหุ่นจำลองการบินชื่อ Rosie the Rocketeer สัญลักษณ์ของสงคราม โลกครั้งที่ 2 (ตัวแทนของผู้หญิงที่ทำงานในโรงงานและอู่ต่อเรือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) ที่จะไปและกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติ ตามข้อมูลของ Boeing / Rosie the Riveter ซึ่งมีน้ำหนัก 180 ปอนด์ (82 กิโลกรัม) จะช่วยรักษาจุดศูนย์ถ่วงของยานให้คงที่ตลอดเที่ยวบิน และมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลเที่ยวบินด้วยเซ็นเซอร์ 15 ตัวของมันเพื่อเรียนรู้ว่ามนุษย์อวกาศจะได้พบกับอะไร
Mike Fincke นักบินอวกาศของ NASA ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในลูกเรือกลุ่มแรก ที่ได้รับเลือกให้ปฏิบัติภารกิจสาธิตโดยใช้คนบังคับในปลายปี 2022 นี้กล่าวว่าเขารู้สึกอิจฉา Rosie นิดหน่อย และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ลูกเรือบนห้องแล็บที่โคจรอยู่จะนำเสบียงประมาณ 500 ปอนด์ (226 กิโลกรัม) ออกจาก Starliner จากนั้นจะบรรจุตัวเรือด้วยสินค้าเกือบ 600 ปอนด์ (270 กก.) ที่ทำเครื่องหมายไว้แล้วกลับมายังโลก
ทั้งนี้ Starliner จะใช้เวลาประมาณห้าวันในอวกาศ จากนั้นจะปลดออกและกลับสู่พื้นโลกในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ โดยใช้ร่มชูชีพขนาดยักษ์ลงจอดในทะเลทรายทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
หุ่นจำลองการบิน Rosie the Rocketeer คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับการทดสอบการเปิดตัว Starliner ครั้งที่ 2 ของ Boeing
Kjell Lindgren นักบินอวกาศของ NASA ถ่ายภาพของ Rosie the Rocketeer ขณะที่เพื่อนร่วมทีม Robert Hines ไปทำงานในอีกส่วน
หลังจากที่เข้าสู่ยานอวกาศ Starliner ของ Boeing เป็นครั้งแรกในวันที่ 21 พฤษภาคม 2022 (Cr.ภาพ NASA TV)
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ในที่สุด Starliner ของ Boeing ก็ประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อสถานี ISS
ที่ผ่านมา การทดสอบ Starliner นั้น มีการเตรียมการทดสอบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเที่ยวบินแรกสู่อวกาศมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อกำหนดลักษณะอากาศพลศาสตร์ของยาน โมเดลถูกวางไว้ในตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่งเพื่อจำลองขั้นตอนต่างๆ ของการลงจอด ตลอดจนการทำงานของร่มชูชีพและถุงลมนิรภัยสำหรับการลงจอดที่ราบรื่นและปลอดภัย หลังจากล้มเหลวสองครั้ง Starliner ของ Boeing จะลองอีกครั้งในสัปดาห์นี้เพื่อไปถึง ISS
โดยในปี 2014 Boeing ได้เปิดตัวยานอวกาศจำลองเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี ซึ่งเผยให้เห็นด้านในของยานอวกาศเป็นครั้งแรกต่อสาธารณชน ต่อมาในปี 2016 ยานอวกาศประสบความสำเร็จในการทดสอบถุงลมนิรภัย และในปี 2017 ประสบความสำเร็จในการทดสอบร่มชูชีพในทะเลทรายนิวเม็กซิโก แต่ในปี 2018 Boeing ต้องยกเลิกการทดสอบเครื่องยนต์เนื่องจากมีปัญหาระหว่างการทดสอบ ทำให้ต้องเลื่อนเที่ยวบินทดสอบครั้งแรกของ Starliner ไปเป็นปี 2019
ในเดือนธันวาคม 2019 Starliner ได้เปิดตัวสู่อวกาศเป็นครั้งแรกโดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ Orbital Flight Test / OFT-1 เป็นการบินทดสอบแบบไร้คนขับไปยังสถานีอวกาศนานาชาติที่จะเทียบท่าและโคจรรอบโลกประมาณสองวัน แต่แคปซูลไปไม่ถึงสถานีอวกาศ โดยประสบปัญหาข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ทำให้เครื่องขับดันไม่สามารถพุ่งได้ และแคปซูลเผาผลาญเชื้อเพลิงมากเกินไปที่จะเทียบท่ากับสถานีอวกาศได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นในปี 2021 มีการทดสอบอีกครั้งงแต่ Orbital Flight Test - 2 /OFT-2 ไม่ออกจาก Launchpad เนื่องจากติดอยู่ในแนวที่ไม่ถูกต้อง และไม่สามารถวินิจฉัยหรือแก้ไขปัญหาได้ทันทีในสถานที่ปฏิบัติงานจริง ยานจึงถูกส่งกลับไปยังโรงงานของ Boeing ที่ Kennedy Space Center เพื่อทำการทดสอบใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญของ NASA และ Boeing ในเชิงลึกมากขึ้น สำหรับการทดสอบในครั้งที่สาม
จนกระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา หลังจากความพยายามล้มเหลวสองครั้ง การบินทดสอบแบบไร้คนขับของ Starliner สามารถเทียบท่ากับสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จเป็นครั้งแรกและเปิดให้นักบินอวกาศที่อาศัยอยู่บนห้องปฏิบัติการโคจรเข้าได้อย่างเป็นทางการแล้ว Robert Hines นักบินอวกาศของ NASA กล่าวว่า นี่เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของ NASA ที่ทุกคนจินตนาการถึง ตอนนี้มี 3 ยานอวกาศแล้วที่สามารถไปถึงสถานีอวกาศ ISS ได้ นั่นคือ Crew Dragon ของ SpaceX, Soyuz ของรัสเซีย และ Starliner ของ Boeing ทั้งยังเป็นการปูทางสำหรับอนาคตที่เริ่มเปิดใช้งานเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ในวงโคจรต่ำของโลก ในขณะที่ NASA ใช้ไปเยือนดวงจันทร์และในที่สุดก็ไปยังดาวอังคาร
สำหรับ Boeing นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับร้อยปีที่ได้รับการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คนว่าเป็นผู้บุกเบิกการเปิดตัวด้านอวกาศ ขณะที่ SpaceX เริ่มต้นในเวลาที่น้อยกว่า แต่ในความเป็นจริง SpaceX นั้นพุ่งไปข้างหน้าได้เร็วกว่าและเพิ่งส่งลูกเรือ 4 คนไปประจำที่สถานีวิจัยแล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งของภารกิจของ Starliner ครั้งนี้คือการส่งมอบสินค้าไปยัง ISS
แม้ว่า Starliner เป็นการบินทดสอบแบบไร้คนขับ แต่ก็มีผู้โดยสารเพียงหนึ่งเดียวคือหุ่นจำลองการบินชื่อ Rosie the Rocketeer สัญลักษณ์ของสงคราม โลกครั้งที่ 2 (ตัวแทนของผู้หญิงที่ทำงานในโรงงานและอู่ต่อเรือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) ที่จะไปและกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติ ตามข้อมูลของ Boeing / Rosie the Riveter ซึ่งมีน้ำหนัก 180 ปอนด์ (82 กิโลกรัม) จะช่วยรักษาจุดศูนย์ถ่วงของยานให้คงที่ตลอดเที่ยวบิน และมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลเที่ยวบินด้วยเซ็นเซอร์ 15 ตัวของมันเพื่อเรียนรู้ว่ามนุษย์อวกาศจะได้พบกับอะไร
Mike Fincke นักบินอวกาศของ NASA ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในลูกเรือกลุ่มแรก ที่ได้รับเลือกให้ปฏิบัติภารกิจสาธิตโดยใช้คนบังคับในปลายปี 2022 นี้กล่าวว่าเขารู้สึกอิจฉา Rosie นิดหน่อย และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ลูกเรือบนห้องแล็บที่โคจรอยู่จะนำเสบียงประมาณ 500 ปอนด์ (226 กิโลกรัม) ออกจาก Starliner จากนั้นจะบรรจุตัวเรือด้วยสินค้าเกือบ 600 ปอนด์ (270 กก.) ที่ทำเครื่องหมายไว้แล้วกลับมายังโลก
ทั้งนี้ Starliner จะใช้เวลาประมาณห้าวันในอวกาศ จากนั้นจะปลดออกและกลับสู่พื้นโลกในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ โดยใช้ร่มชูชีพขนาดยักษ์ลงจอดในทะเลทรายทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา