Once upon a time ทักษิณ ชินวัตร กับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

กระทู้คำถาม

วันหนึ่ง หลังการเลือกตั้งทั่วไป 2554
ทักษิณ กับ ชัชชาติ ได้พบปะพูดคุยกัน

หลังการพบปะพูดคุยกันในวันนั้น
ทักษิณเอ่ยปากกับคนใกล้ชิดว่า คน ๆ นี้ (ชัชชาติ) โอเค ใช้ได้

ก่อนการเลือกตั้ง 2554 เพื่อไทยใช้สโลแกนหาเสียง ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ
ผลการเลือกตั้ง เพื่อไทยชนะขาด ยิ่งลักณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

มกราคม 2555 กระทรวงคมนาคมก็ได้ รมช. ชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ตุลาคม 2555 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็เป็น รมว.คมนาคม

ชัชชาติ ไม่ได้หิ้วถุงเงินเข้าเพื่อไทย
แต่เพราะความรู้ความสามารถ ทำให้ชัชชาติ ได้เป็น รมว.คมนาคม

แล้วโครงการ สร้างอนาคตไทย 2020 ก็เกิดขึ้น
แต่น่าเสียดาย ที่โครงการไม่ได้ทำเพราะประเทศไทยยังมีถนนลูกรัง

ชัชชาติออกจากเพื่อไทย ไม่มีปัญหากับใครในพรรค ไม่มีความขัดเคืองใจใด ๆ กับทักษิณ

เป็น "ความเข้าใจ" แบบผู้ใหญ่เคารพกัน แบบ "มุมมอง" ของนักบริหารเข้าใจกัน

ทักษิณยอมรับความรู้ความสามารถของชัชชาติ สนับสนุนให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม

ชัชชาติออกจากเพื่อไทย ไม่มีแม้สักคำที่เอ่ยถึงพรรคเพื่อไทยและคนในพรรคเพื่อไทยในทางลบเพื่อหวังให้ตัวเองได้รับคะแนนเสียง

นำเสนอด้านนโยบายล้วน ๆ จนได้รับความเชื่อถือจากคน กทม.

50 เขต ชัชชาติชนะรวด ล้านกว่าคน กทม. เทเสียงเลือกชัชชาติ

ที่น่าขบคิดคือ ชัชชาติได้รับความเชื่อมั่นจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร

ปฐมบทของความเชื่อมั่น เกิดขึ้นเมื่อไร เพราะหิ้วถุงแกง ? เพราะวิสัยทัศน์ในตำแหน่ง รมว.คมนาคม ?

ทำให้นึกถึงคนชื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ที่ตอนอยู่ไทยรักไทย เขาได้รับความเชื่อมั่นสูงมาก
แต่หลังจากเขาถอยห่างลาจากไทยรักไทย ตัดขาดทักษิณ ความเชื่อมั่นในตัวเขาก็ลดลง ๆ ๆ ๆ
เมื่อมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี จากปี 2558 ถึงปี 2562 ความเชื่อมั่นต่อคนชื่อสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็แทบเป็นศูนย์

เพราะอะไร ?

งาน กทม. คือ เครื่องเจียระไนคนชื่อชัชชาติ

หิน แค่เก็จแก้ว หรือ เพชรแท้

อีกไม่นานได้เห็นกันครัช