คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 70
ขอตอบว่าได้ค่ะ แต่เงื่อนไขเยอะพอสมควร แถมคุณต้องมีระเบียบค่อนข้างดีด้วยถึงจะคุ้มถ้าทำแบบนี้
1. คุณจะต้องหาบ้านที่ราคาประเมินแบงค์สูงกว่าราคาขายจริงค่อนข้างมากกกกก เรารู้จักคอนโดที่นึงราคาประเมินแบงค์ 6 ล้าน แต่ราคาขายจริง 5 ล้าน แบบนี้คือได้เงินสดเกินมา 1 ล้านบาท
อยากให้ลองเปรียบเทียบแบบนี้ สมมติว่าคุณตั้งใจจะซื้อบ้านหลังนี้ 5 ล้าน + รถคันละ 1 ล้านอยู่แล้ว
คุณต้องลองเปรียบเทียบว่า
ถ้าคุณแยกกู้รถ 1 ล้าน สมมติส่ง 7 ปี ดอก 2% นั่นเท่ากับราคารถจริงๆจะเป็น 1.14 ล้าน ( ดอกรถไม่ทีลดต้นลดดอก )
นั่นเท่ากับคุณจะต้องผ่อนรถคันนี้เดือนละ 135xx ไปตลอด 7 ปี
คุณจำตัวเลข 135xx นี้ไว้ค่ะ
แล้วคุณลองนึกว่าคุณกู้บ้านรวม 6 ล้านแทน
โดยในนี้มี 1 ล้านที่เป็นส่วนของรถ
ถ้าคุณคงอัตราการผ่อนที่ 135xx ก็ให้คุณโปะเงินเท่านี้เข้าไปทุกเดือนจากยอดผ่อนบ้านปกติ
ดอกบ้าน 3 ปีแรกตอนนี้ถูกสุด 2.3%
นั่นแปลว่าปีแรกคุณชำระเงินไปทั้งสิ้น 162xxx
ในนี้เป็นต้นประมาณ 140000 เป็นดอก 22,xxx
จบปีแรกหนี้รถคุณจะเหลือ 860000
ปีที่สองโปะไปเท่านี้อีก 162xxx จะลดต้นไป 143000
จบปีที่ 2 หนี้ส่วนของรถคุณจะเหลือ 717,000
ปีที่ 3 จ่ายอีก 162,xxx จะตัดต้นไปอีก 146000
หนี้ส่วนของรถเหลือ 571,000
ปีที่ 4 ดอกบ้านจะขึ้นไป 5% ให้คุณ Retention ขอลดดอก ถ้าประวัติดี ขอได้เกือบ 100% ยกเว้น Kbank ขอยากมากกก จะได้ที่ประมาณ 3-3.5% สมมติว่า 3.5%
ปีที่ 4 คุณจ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 142,000
หนี้จบปีที่ 4 คุณจะเหลือ 429000
ปีที่ 5 จ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 147,000 จบปีที่ 5 หนี้เหลือ 282000
ปีที่ 6 จ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 153000 หนี้จบปีที่ 6 คุณจะเหลือ 129000
ก่อนเข้าปีที่ 7 หนี้คุณเหลือ 129000 รวมดอกปีที่ 7 จะประมาณ 132xxx
ถ้าคุณจ่ายไป 162xxx นั่นแปลว่าคุณจะได้กำไร 30000 บาท เทียบกับการกู้รถแยกปกติ
สรุปคือ ถ้าคุณมีวินัยที่ดีพอ + ทำ retention กู้บ้านเกิน 1 ล้าน แล้วเอาไปซื้อรถเงินสด ครบ 7 ปีคุณจะประหยัดไป 30000 บาท
แต่ถ้าวินัยคุณแย่ คุณก็จะผ่อนรถคันนี้แพงขึ้น
ข้อดีอีก 3 อย่างของการทำแบบนี้คือ
1. ยอดผ่อนจริงๆของรถคันนี้ต่อเดือนจะต่ำมากๆๆ เดือนละ 5-6 พันเท่านั้น แต่ถ้าคุณผ่อนเท่านี้จะใช้เวลา 30 ปี เหมาะกับคนที่ยังไม่พร้อมผ่อนต่องวดเยอะๆในปีแรก
2. การกู้แบบนี้ คุณจ่ายเดือนละ 135xx ทุกเดือนก็จริง แต่หากเดือนไหนคุณสะดุด คุณสามารถจ่ายน้อยลงได้ แต่อย่างน้อยให้เกินอัตราผ่อนบ้านปกติ คุณจะไม่เสียบูโร แต่ถ้าเป็นกู้รถ ยังไงคุณก็ต้องจ่ายขั้นต่ำ 135xx ไปตลอด ถึงจะไม่เสีย
3. การกู้รถปกติคุณจะโปะเดือนละ 50000 100000 ดอกเบี้ยจะไม่ลดเลย แต่ถ้ากู้แบบพร้อมบ้าน การจ่าย 100000 ใน 1 งวด จะช่วยลดดอกเบี้ยลงไปได้พอสมควร ก็คือถ้าคุณสามารถผ่อนเดือนละ 50000 ได้ คุณจะจ่ายหนี้รถครบก่อนการกู้รถปกติแน่นอน
อันนี้ย้ำว่าเหมาะสำหรับคนที่มีวินัยมากๆ และได้บ้านถูกกว่าราคาประเมินมากๆเท่านั้นนะ
1. คุณจะต้องหาบ้านที่ราคาประเมินแบงค์สูงกว่าราคาขายจริงค่อนข้างมากกกกก เรารู้จักคอนโดที่นึงราคาประเมินแบงค์ 6 ล้าน แต่ราคาขายจริง 5 ล้าน แบบนี้คือได้เงินสดเกินมา 1 ล้านบาท
อยากให้ลองเปรียบเทียบแบบนี้ สมมติว่าคุณตั้งใจจะซื้อบ้านหลังนี้ 5 ล้าน + รถคันละ 1 ล้านอยู่แล้ว
คุณต้องลองเปรียบเทียบว่า
ถ้าคุณแยกกู้รถ 1 ล้าน สมมติส่ง 7 ปี ดอก 2% นั่นเท่ากับราคารถจริงๆจะเป็น 1.14 ล้าน ( ดอกรถไม่ทีลดต้นลดดอก )
นั่นเท่ากับคุณจะต้องผ่อนรถคันนี้เดือนละ 135xx ไปตลอด 7 ปี
คุณจำตัวเลข 135xx นี้ไว้ค่ะ
แล้วคุณลองนึกว่าคุณกู้บ้านรวม 6 ล้านแทน
โดยในนี้มี 1 ล้านที่เป็นส่วนของรถ
ถ้าคุณคงอัตราการผ่อนที่ 135xx ก็ให้คุณโปะเงินเท่านี้เข้าไปทุกเดือนจากยอดผ่อนบ้านปกติ
ดอกบ้าน 3 ปีแรกตอนนี้ถูกสุด 2.3%
นั่นแปลว่าปีแรกคุณชำระเงินไปทั้งสิ้น 162xxx
ในนี้เป็นต้นประมาณ 140000 เป็นดอก 22,xxx
จบปีแรกหนี้รถคุณจะเหลือ 860000
ปีที่สองโปะไปเท่านี้อีก 162xxx จะลดต้นไป 143000
จบปีที่ 2 หนี้ส่วนของรถคุณจะเหลือ 717,000
ปีที่ 3 จ่ายอีก 162,xxx จะตัดต้นไปอีก 146000
หนี้ส่วนของรถเหลือ 571,000
ปีที่ 4 ดอกบ้านจะขึ้นไป 5% ให้คุณ Retention ขอลดดอก ถ้าประวัติดี ขอได้เกือบ 100% ยกเว้น Kbank ขอยากมากกก จะได้ที่ประมาณ 3-3.5% สมมติว่า 3.5%
ปีที่ 4 คุณจ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 142,000
หนี้จบปีที่ 4 คุณจะเหลือ 429000
ปีที่ 5 จ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 147,000 จบปีที่ 5 หนี้เหลือ 282000
ปีที่ 6 จ่ายอีก 162xxx จะตัดต้นไป 153000 หนี้จบปีที่ 6 คุณจะเหลือ 129000
ก่อนเข้าปีที่ 7 หนี้คุณเหลือ 129000 รวมดอกปีที่ 7 จะประมาณ 132xxx
ถ้าคุณจ่ายไป 162xxx นั่นแปลว่าคุณจะได้กำไร 30000 บาท เทียบกับการกู้รถแยกปกติ
สรุปคือ ถ้าคุณมีวินัยที่ดีพอ + ทำ retention กู้บ้านเกิน 1 ล้าน แล้วเอาไปซื้อรถเงินสด ครบ 7 ปีคุณจะประหยัดไป 30000 บาท
แต่ถ้าวินัยคุณแย่ คุณก็จะผ่อนรถคันนี้แพงขึ้น
ข้อดีอีก 3 อย่างของการทำแบบนี้คือ
1. ยอดผ่อนจริงๆของรถคันนี้ต่อเดือนจะต่ำมากๆๆ เดือนละ 5-6 พันเท่านั้น แต่ถ้าคุณผ่อนเท่านี้จะใช้เวลา 30 ปี เหมาะกับคนที่ยังไม่พร้อมผ่อนต่องวดเยอะๆในปีแรก
2. การกู้แบบนี้ คุณจ่ายเดือนละ 135xx ทุกเดือนก็จริง แต่หากเดือนไหนคุณสะดุด คุณสามารถจ่ายน้อยลงได้ แต่อย่างน้อยให้เกินอัตราผ่อนบ้านปกติ คุณจะไม่เสียบูโร แต่ถ้าเป็นกู้รถ ยังไงคุณก็ต้องจ่ายขั้นต่ำ 135xx ไปตลอด ถึงจะไม่เสีย
3. การกู้รถปกติคุณจะโปะเดือนละ 50000 100000 ดอกเบี้ยจะไม่ลดเลย แต่ถ้ากู้แบบพร้อมบ้าน การจ่าย 100000 ใน 1 งวด จะช่วยลดดอกเบี้ยลงไปได้พอสมควร ก็คือถ้าคุณสามารถผ่อนเดือนละ 50000 ได้ คุณจะจ่ายหนี้รถครบก่อนการกู้รถปกติแน่นอน
อันนี้ย้ำว่าเหมาะสำหรับคนที่มีวินัยมากๆ และได้บ้านถูกกว่าราคาประเมินมากๆเท่านั้นนะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สำหรับเราเราเคยเจอเคสแบบนี้ กับบางคนอาจจะบอกว่าดี เอาเลย แต่กับเรา เรามองว่ามันคือหนทางสู่นรกทางการเงินชัดๆ
รถไม่ใช่แค่ซื้อแล้วจบ ในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ มีค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ ค่าเสื่อมต่างๆ ค่าประกันด้วย ค่าต่อทะเบียน
แล้วค่าบ้านเองก็ต้องผ่อน ไหนจะค่าเสื่อมของบ้านอีก คิดดูดีๆค่ะ แต่ถ้าคิดว่าไหว ก็ตามสบายค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ
ปล.เคยเจอน้องรู้จักกันยื่นกู้แบบนี้ สรุปได้ยอดไม่ถึง รถที่เคยจะออกสด ก็กลายเป็นว่าได้แค่ดาวน์แทน ก็ประเดประดังเข้ามาไม่ว่าจะค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าซ่อมบำรุง นั้นนนู้นนี้ต่างๆบลาๆๆๆ ต่อมาก็บอกว่าแต่งงานมีลูก ชีวิตลำบากมาก นั้นนนู้นนี้
รถไม่ใช่แค่ซื้อแล้วจบ ในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ มีค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ ค่าเสื่อมต่างๆ ค่าประกันด้วย ค่าต่อทะเบียน
แล้วค่าบ้านเองก็ต้องผ่อน ไหนจะค่าเสื่อมของบ้านอีก คิดดูดีๆค่ะ แต่ถ้าคิดว่าไหว ก็ตามสบายค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ
ปล.เคยเจอน้องรู้จักกันยื่นกู้แบบนี้ สรุปได้ยอดไม่ถึง รถที่เคยจะออกสด ก็กลายเป็นว่าได้แค่ดาวน์แทน ก็ประเดประดังเข้ามาไม่ว่าจะค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าซ่อมบำรุง นั้นนนู้นนี้ต่างๆบลาๆๆๆ ต่อมาก็บอกว่าแต่งงานมีลูก ชีวิตลำบากมาก นั้นนนู้นนี้
แสดงความคิดเห็น
การกู้เงินซื้อที่อยู่แล้วเอาส่วนต่างที่เหลือไปซื้อรถทำได้ไหม
คือมีคนแนะนำมาว่าถ้าจะซื้อรถแล้วยังไม่มีบ้าน ให้กู้เงินซื้อบ้านไปเลยแล้วขอวงเงินเผื่อไปด้วยสำหรับเอามาซื้อรถ
สมมติ
- บ้าน ราคา 1.5 M
- รถ 500K
ก็ให้ยื่นกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยไป 2 M เลย
การทำแบบนี้มันสามารถทำได้จริงไหมครับ แล้วมันดีกว่าการยื่นกู้แยกแบบปกติจริงรึป่าว เพราะดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ จะเป็นสินเชื่อที่ดอกเบี้ยคงที่ ไม่เหมือนกับสินเชื่อบ้าน
ขอคำแนะนำหน่อยครับ