ถ้าหมอปลาไม่พลาด ผมว่าสังคมพระน่าจะดีกว่านี้นะครับ

แกไปพลาดตรงจับพระหลวงปู่แสงนะครับ แต่ความดีอื่นๆ ไม่น่าจะถูกลบล้างได้นะครับ เรียกว่าแกช่วยคนเยอะ จะพระกินหมูกะทะ มีเหล้า มีเบียร์ จับพระอยู่กับสีกานะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
สิ่งที่หมอปลาทำ นั้น  โดยรวมถูกต้องและควรทำอย่างยิ่งครับ

เหตุผลก็คือ  ทุกวันนี้พระสงฆ์ไทยมีความเกี่ยวข้องกับทางโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป  ทั้งเรื่องเงินทอง  สมณศักดิ์  ผลงานที่เป็นรูปธรรม  
สีกา  เสพยา   และที่สำคัญคือ  วัตรปฏิบัติแย่ ๆ ของพระสงฆ์ไทยมีแนวโน้ม
เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ครับ   และสมัยนี้คือยุค Cyber   เกือบทุกคนมี Smartphone
สามารถถ่ายภาพ / คลิป  เก็บหลักฐานวัตรปฏิบัติแย่ ๆ ของพระได้

ก่อนหน้านี้  แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีแหละนะ  
แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิดชาวบ้านจึงปล่อยผ่านไป  แต่วันนี้เมื่อมีหลักฐาน
ที่บันทึกไว้ได้แบบนี้  จึงมีการร้องเรียนมากขึ้น  ซึ่งการร้องเรียนนี้ทางหน่วยงานหลัก คือ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ก็ทำงานล่าช้า (คงไม่มีใครปฏิเสธนะ)  
จึงเป็นเหตุให้มีคนอย่างหมอปลาขึ้นมา
แนวคิดที่ว่า  องค์กรของฉัน  ฉันจัดการกันเองได้ ..... หมดสมัยไปแล้วครับ
ในยุคนี้มันจะต้องมีการตรวจสอบจากภายนอกมากขึ้น  เพื่อเปิดหูเปิดตาประชาชน
อย่างองค์กรใหญ่ ๆ แบบทหาร - ตำรวจ  ยังมีกรรมาธิการสำหรับตรวจสอบเลย
ซึ่งกรรมาธิการทหาร - ตำรวจ  ทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร   แต่ .....
วงการศาสนา - พระสงฆ์  นี่สิ   หน่วยตรวจสอบมีเพียงสำนักพุทธ ฯ  ซึ่งทำงานช้า
หรือ  ร้องเรียนแล้วเงียบหายไปก็มีครับ

ผมขอพูดตรง ๆ ว่า   พื้นฐานสังคมคนไทยจะให้ความเคารพเลื่อมใสพระสงฆ์มาก
ทำให้พระแย่ ๆ เอาความเลี่อมใสศรัทธานี้ไปเป็นเครื่องมือปิดบังความชั่วตนเอง
และอาจคิดไปถึงว่าไม่มีใครทำอะไรได้  ที่ผ่านมาหน่วยงานหลักที่ควรจะจัดการเรื่องนี้
กลับทำงานล่าช้า  พระเหล่านี้จึงได้ใจ  ทำชั่วอย่างต่อเนื่องได้นานหลายปี

กลับมาที่หมอปลา ..... สิ่งที่หมอปลาทำที่ผมบอกว่าเหมาะสม นั้น
มันก็ยังมีข้อควรปรับปรุงหลายอย่าง  เช่น  ข้อมูล/หลักฐานจะต้องแน่นจริง
เพราะการบุกเข้าไปถึงตัวพระเหล่านี้ก็หมายถึงการต่อต้านจากประชาชนที่ศรัทธาด้วย
ดังนั้น  หากข้อมูลไม่ครบถ้วนอย่างกรณีหลวงปู่แสง  หมอปลาก็จะพังแบบนี้แหละครับ
แต่ที่ผ่านมาในพระรูปอื่นที่ข้อมูลร้องเรียนถูกต้อง  ก็จับออกสื่อได้แบบ "คงหนังคาเขา"

และก็มีเรื่องกฏหมายบางข้อที่จะหมอปลาต้องระวังด้วย  เช่น  การบุกรุก  การหมิ่นประมาท
การดูหมิ่น  เพราะหมอปลาและทีมงานใช้วิธีการที่ค่อนข้างจะ แรง ในการบุกเข้าไปถึงตัวพระเหล่านั้น
แถมยังมีสื่อมวลชนตามไปอีกนับสิบ  จึงต้องระวังเรื่องกฏหมายให้มาก

สรุปแล้ว  หมอปลาควรทำเรื่องแบบนี้ต่อไป
เพื่อเป็นการกำจัดพระแย่ ๆ ออกจากวงการศาสนาให้ลดลงไปเรื่อย ๆ ครับ
หากหมอปลายุติบทบาทนี้  ผมว่าอีกเพียงไม่กี่เดือนต่อมา  พระกลุ่มนี้ก็จะกลับมา
ทำเรื่องแย่ ๆ เช่นเดิมอีกครับ
ความคิดเห็นที่ 17
ไม่เคยแสดงความเห็นเรื่องนี้ แต่อดไม่ได้จริงๆ ขอสักหน่อยละกัน

คนที่ทำเรื่องนี้ ทั้งคณะ ถ้าทำเพราะจิตเมตตา คิดดีต่อศาสนาจริงๆ  ภาพมันจะไม่ออกมาแบบนี้

หลวงพี่ไปหุงข้าว-เองเถอะ นี่มันใช่วิธีพูดที่มีความเมตตากรุณาอุเบกขาหรือครับ

ผมในฐานะคนๆนึงที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ดีเมนเทีย  เห็นหลวงปู่ครั้งแรกจากคลิป รู้เลยครับว่าอาการมันเป็นคนป่วย

ถ้าคณะนี้ไปด้วยจิตที่ดี เห็นอาการแล้ว ต้องถามไถ่ดีๆ หัวหน้าคณะต้องบอกให้ทุกคนอย่าวู่วาม  กลับมาตั้งหลักก่อน คุยกันก่อน

แต่ที่เห็นคือว่า ง้างมีดมาจากบ้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร ป่วยไม่ป่วย ฟันให้ตาย เอาให้ยับ ขนาดพระป่วยอาการเห็นชัด

แต่ด้วยทิฐฐิบังตา มันจะเอาให้ได้ ขนาดมีการจัดฉากอัดคลิป ถามคำเดียว ก่อนทำ ทำไมทั้งคณะ ไม่มีคนที่มีความเฉลียวพอสักคนที่จะทักท้วงกันบ้าง

ถ้าเป็นญาติคุณแล้วป่วยไม่รู้ตัว แล้วเจอกดดันแบบนี้  มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้เหรอ

จับพระเลวจับเลย ทุกฝ่ายย่อมเห็นดีเห็นงาม

แต่จับพระดี แอบจัดฉากเพื่อจะเอาผิดพระแก่เกือบร้อยปี  อันนี้มันมาจากนรกขุมไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่