🏀 จํานวนเกมส์ขั้นตํ่ากับการได้รางวัล

Jason Tatum เคยออกมาโวยว่าที่ปีก่อนไม่มีชื่อติด All-NBA น่าจะเป็นเพราะเขามีจํานวนนัดที่ลงน้อยเกินไปคือ 64 เกมส์ทั้งๆ ที่มีผลงานดีถึง 26.4 PPG, 7.4 RBs เเละอยากให้ลีกกําหนดตัวเลขให้เเน่ชัดไปเลยว่าต้องลงกี่เกมส์ถึงจะมีลุ้นได้รางวัล ไม่ใช่ต้องมาคาดเดากันเอาเอง Adam Silver ประมุขลีก NBA เลยจะจัดให้ตามที่ขอมาโดยจะมีการเอาเรื่องนี้เข้าพิจารณาเร็วๆ นี้

ปัจจุบันลีกได้กําหนดจํานวนเกมส์ขั้นตํ่าที่ 70% หรือ 58 เกมส์เเต่กฎนี้ใช้กับกลุ่ม leader สถิติในด้านต่างๆ เท่านั้นเช่น points, blocks, assists, rebounds, steals, minutes per game

ถ้ามีการเอาตัวเลข 58/82 มาคัดเลือกผู้ชนะรางวัลต่างๆ หรือ All-NBA ด้วย มันจะทําให้หลายๆ คนหมดลุ้นทันทีเช่น  Ja Morant, LeBron James หรือ Kevin Durant เเละถ้ามีการเพิ่มตัวเลข threshold ให้อยู่สูงอยู่กว่านี้ก็จะมีตัวดังๆ หลุดโผมากกว่านี้อีก

ข้อดีของการกําหนดจํานวนเกมส์ขั้นตํ่าคือจะช่วยลดการลาพักเเบบ load management ของเหล่า superstar ได้เเละเเฟนบาสก็อาจเข้ามาดูในสนามมากขึ้นเพราะสตาร์จะอู้งานน้อยลงเเต่ข้อเสียก็มีตรงจะทําให้ผู้เล่นเสี่ยงได้รับบาดเจ็บมากขึ้น

นอกจากนี้ Silver ต้องการจัดเเข่งบาสเเบบ mid-season tournament ในเดือนธันวาปี 2023-2024 โดยจะพยายาม lobby เรื่องนี้ให้ผ่านวาระการประชุมครั้งหน้าหลังจากที่เคยถูกยี้ใส่มาก่อนโดยจะมีการเเจกเงินให้กับผู้เล่นของทีมที่ชนะคนละ $1 ล้าน, เเถมสิทธิ์ดราฟต์รอบเเรกที่เป็น pick พิเศษอันดับ 14.5 ที่อยู่ระหว่าง pick #14 เเละ 15 ให้กับทีมที่ชนะเเละชัยชนะในเกมส์ tournament จะถูกนับรวมในตารางคะเเนนฤดูกาลปกติเเต่จะได้เพิ่มเป็น 2 เเต้มต่อเกมส์

Credit: NBC Sports
 
 
 
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่