แม่สามีจะให้มาช่วยกิจการ แต่เรามีงานประจำทำอยู่แล้ว

ขออนุญาตเล่าก่อนว่า เพิ่งแต่งเข้าบ้านสามีได้ 6 เดือน
สามีเคยมีภรรยาและลูกมาก่อน
ซึ่งภรรยาเก่าทำหน้าที่เป็นเลขาให้แม่สามี
ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ แม้จะหย่ากันแล้วก็ตาม

กิจการของครอบครัวสามีแบ่งออกเป็นหลายสาขา หลายจังหวัด
เรามาประจำอยู่ที่จังหวัดหนึ่ง
สาขาใหญ่เป็นสาขาที่แม่สามีกับภรรยาเก่าดูแลอยู่
ตัวเราเองมีอาชีพเป็นนักเขียนออนไลน์
รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
ในขณะที่สามีทำหน้าที่บริหารกิจการสาขานี้ได้เดือนละ 2 หมื่นบาท
เงินส่วนใหญ่ที่ใช้จ่ายร่วมกันเราเป็นคนออกมากกว่า

ขออนุญาตขยายความว่า
เดิมทีแม่สามีไม่ชอบเราตั้งแต่แรก
เค้าถึงขั้นเคยประกาศเลยว่า บ้านนี้รับลูกสะใภ้แค่คนเดียว
แต่พอตอนหลังเค้าเห็นเราทำให้ชีวิตลูกชายเค้าดีขึ้นได้ 
เค้าจึงต้องยอมรับแบบกลายๆและให้เราย้ายมาอยู่กับลูกชายเค้า
เดิมทีงานเราเป็นงานที่ทำที่ไหนก็ได้ ใช้คอมแค่เครื่องเดียว
เราที่แต่งงานแล้วจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กับสามี

แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น
คือแม่สามีเค้าต้องการให้เรามาช่วยงาน 
(ในขณะที่เราต้องทำงานของเราด้วย แต่เค้าไม่สนใจ)
และพอเราช่วยแค่นิดๆหน่อยๆ วันละ1-2ชั่วโมง
เช่น ทำบัญชี ตัดยอดขายรายวัน
เค้าก็ไม่พอใจ ต้องการให้เรามาทำทั้งวัน ช่วยแบบเต็มตัว
(ไม่จ่ายเงินเดือนให้นะคะ ทำฟรีค่ะ)

แม่สามีพูดกับคนอื่นในเชิงว่า ' เป็นลูกสะใภ้ไม่คิดจะช่วยพ่อผัวแม่ผัวทำงานหน่อยเหรอ'
และพูดต่อประมาณว่า ขนาดเค้าไม่ใช่พ่อแม่เรา เค้ายังช่วยดูแลเราเลย
(ดูแลในที่นี้คือ เรามาอยู่บ้านเค้า ซึ่งเป็นอีกสาขา ไม่ใช่สาขาใหญ่ คนละจังหวัด
และเค้าไม่เคยให้เกียรติเราในฐานะสะใภ้เลย ต่างคนต่างอยู่ค่ะ)

เราคุยกับสามี
สามีเห็นด้วยว่า ไม่ต้องช่วย ไม่ต้องไปทำ 
ทำงานของตัวเองต่อไป
เราเองก็คิดเหมือนกัน เราไม่อยากยุ่งกับกิจการของเค้าเลย
แต่ในใจก็ไม่อยากมีปัญหากับผู้ใหญ่
คือไม่ได้อยากมีศัตรูค่ะ

จึงอยากฟังความคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่นๆ
ว่าเราควรวางตัวอย่างไรให้เหมาะสมในสถานการณ์นี้ดีคะ

ปล.เราไม่เคยเล่าให้ครอบครัวฟังว่าแม่สามีไม่ชอบเรา
เราไม่อยากให้แม่เป็นห่วงเพราะเรามาอยู่ไกลด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นล่วงหน้านะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อย่าไปทำเต็มตัวเด็ดขาดค่ะ  หากอยากช่วย ก็ช่วยดูแลบัญชีเล็กๆน้อยๆไป

เรายึดหลัก เรื่องความกตัญญู เรามีความเคารพผู้ใหญ่ ยิ่งเป็นแม่สามี ยิ่งต้องให้ความเคารพ

แต่ …

ไม่ได้แปลว่า “ต้องยอม” ตะพึดตะพือ
และการไม่ยอม ไม่ได้แปลว่า ต้อง แข็งกระด้างใส่นะคะ

มีจุดยืนให้ท่านเห็นค่ะ ว่า คุณ “รับผิดชอบ” ครอบครัวของคุณ ด้วยเงินที่คุณหามา
ดูจากอัตราส่วนแล้ว มากกว่า ของลูกชายท่านถึงห้าเท่า !

ส่วนท่านจะไปพูดอย่างไร เรื่องของท่าน จะไปกระแนะกระแหน แบบไหน กรรมของท่าน
หากไม่มี คุณธรรม ของความเป็นแม่สามีที่ดี  คือ รักลูกสะใภ้ เหมือนเป็นลูกสาวตนเองคนหนึ่ง
ก็เรื่องของพฤติกรรมท่าน  ไม่ต้องไปทุกข์  ไปใส่ใจตรงนี้เยอะ

คุณ ต้องมีคุณธรรมของความเป็นลูกสะใภ้ที่ดี อ่อนน้อม อ่อนโยน ดูแลท่านตามสมควร  “เท่าที่ทำได้”
แต่มันหมดสมัย นางทาส ที่ต้องทนรับใช้ ร้องไห้ กล้ำกลืนแล้วค่ะ
เป็นนางหงส์สวยๆ ทำงานของคุณไป ท่านว่าอะไรมา ก็ยิ้มเย็นๆตอบเม่าอดีต

ดูแลครอบครัวของตัวเอง ในแบบตัวเอง
ความที่ ไม่หวังทรัพย์สินใดจากท่าน _ ความที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้ผู้ใหญ่ จะมองเคืองๆว่าลูกชายปีกกล้าขาแข็ง
แต่ก็ไม่อาจจะลามมาทำร้ายคุณได้มากกว่าคำพูดหรอกค่ะ

สรุป ในอนาคต อย่าเผลอไปใจอ่อนเองเพราะถูกหว่านล้อม หรืออย่าเชื่อเรื่องผลประโยชน์ที่ อ้างว่า “จะให้” นะคะ

เทียน
ความคิดเห็นที่ 2
ก็ไม่ต้องทำยังไง สามีเข้าใจก็ไม่น่ามีปัญหาขนาดลูกเจ้าของกิจการอย่างสามีคุณทำงานเต็มเวลายังได้แค่2หมื่นเอง จ้างลูกน้องคงเคี่ยวน่าดู คุณช่วยแค่เวลาว่างก็พอ ไม่มีอะไรต้องคิดมากเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่