ปกติเราอาจจะเคยเห็นดาราที่แสดงเป็นตัวเองในภาพยนตร์เรื่องอื่นมาบ้าง อาจจะออกไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ตอน แต่ในเรื่อง The Unbearable Weight of Massive talent นักแสดงสุดคัลต์อย่าง Nicolas Cage ต้องเล่นเป็น Nicolas Cage ตลอดทั้งเรื่อง และนั่นคือจุดที่น่าสนใจของภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยคำถามว่ามันเป็นอย่างไรกันนะ?
ตอนที่ดูตัวอย่างและรับรู้ถึงพล็อตเรื่องก็รู้สึกว่ามีความน่าสนใจที่ Nicolas Cage ได้รับบทบาทเป็นตัวเอง เพราะไม่รู้ว่ามันจะไปในทิศทางไหนกันแน่ แต่พอเข้ามาดูจริงๆ แล้ว นี่คงจะไม่ต่างกับการเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชื่อ Nicolas Cage ที่ถ่ายทอดออกมาให้เราเห็นผ่านรูปแบบของภาพยนตร์สไตล์แอ็กชันคอมเมดี้ที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการชมตลอดทาง
มันเต็มไปด้วยมุกแซวผลงานตัวเองอยู่เต็มไปหมด มี Easter Egg แฝงมาเยอะมากต้องคอยมองให้ดีๆ เพราะมาอยู่เกือบจะตลอดทางเลย ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนคลับของ Nicolas Cage จะต้องรู้สึกว้าว! ตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน และไม่เพียงแค่การแซวตัวเองเท่านั้น เขายังแอบติดการล้อเลียนวงการภาพยนตร์ในเรื่อง This is a cinema อยู่ด้วยเหมือนกัน
นอกจากพาร์ทของความบันเทิงที่เราได้เห็นการแซวผลงานตัวเองของ Nicolas Cage แล้ว ในเรื่องนี้เราก็จะเห็นส่วนของดราม่าอยู่บ้าง ซึ่งในส่วนนั้นถ้าจะบอกว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีการดัดแปลงมาจากชีวิตจริง 'บางส่วน' ของ Nicolas Cage ก็น่าจะไม่ผิด เพราะเขาได้หยิบยกเรื่องจริงบางส่วนใส่เข้ามาด้วย ซึ่งนั่นก็ได้ทำให้เรื่องมีความลงตัวยิ่งขึ้น
อีกสิ่งที่เป็นส่วนดีของภาพยนตร์และต้องชื่นชมคือการแสดงของทั้งคู่ Nicolas Cage และ Pedro Pascal การแสดงของพวกเขาทั้งสอง ที่รับบทบาทมาเป็นเหมือน แฟนคลับ, เพื่อน และคู่หูที่เข้าใจกัน ช่วยเหลือกัน มันทำให้เราเชื่อว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ โดยเฉพาะ Pedro Pascal ที่แสดงเป็นติ่งที่รัก Nicolas Cage แบบสุดหัวใจได้อบอุ่นมากๆ
ท้ายที่สุดกลับไปที่คำถามตอนต้นว่า ภาพยนตร์ที่นักแสดงเป็นตัวเองมันจะเป็นอย่างไร? คำตอบมันก็คงจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองออกมาให้เราได้ชมเหมือนเราได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่นักแสดงคนนั้นจัดมา มันอาจจะมีทั้งความดราม่า ความตลก ความแอ็กชัน ซึ่งมันอาจจะไม่ได้สุดทาง แต่ถ้าได้เข้าไปในฐานะของแฟนคลับของคนๆ นั้น ก็จะทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ตลอดการเดินทาง แน่นอนว่าต่อให้ไม่ใช่แฟนคลับแบบติ่งเลยสามารถรับรู้ถึงความบันเทิงได้ไหม ตอบได้เลยว่าไม่มีปัญหากับเรื่องนั้นจริงๆ ดูแล้วก็ยังสามารถเพลินไปกับมันได้ แถมยิ่งทำให้เราอยากไปหาดูผลงานเก่าๆ ของเขาเลย