1.ความจริงที่ว่าคนกทม.ไม่เคยเลือกผู้ว่ามาจากระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก
2.คะแนนในระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก ในปีนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน...และต้องแย่งชิงกันเอง
...ส่วนแรกอยู่กับเพื่อพ่อ ก็คือ ชัชชาด นั่นแหละ ไม่ต้องมาแอ๊ปตาใสๆ...ส่วนสองอยู่กับใกล้กาว ส่วนนี้ยึดแน่น ถาวร แกะออกยากมาก ....ส่วนที่สามอยู่กับป้าแว่นที่กุมพื้นที่กทม.มาตั้งแต่ป้าแว่นยังสาว จนเดี๋ยวนี้สาวกว่า ส่วนนี้ป้าแว่นต้องออกแรงยื้อมากหน่อยเพราะมีผลต่อพรรคป้าแว่นในอนาคต..
หากดูดีๆ คะแนนในส่วนของระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก มันไม่ได้ไหลไปหาชัชชาดง่ายๆอย่างในโพลหรอกนะ
วางเดิมพันได้เลยว่า ใกล้กาวมีคะแนนตุนไม่น้อยกว่าห้าแสนคะแนน และป้าแว่นมีคะแนนตุนไว้ไม่น้อยกว่าสี่แสนคะแนน เมื่อหักจากคะแนนรวมของระบอบคอรฺรัปชั่นหนีคุกซึ่งมีอยู่ราวๆ ล้านห้าในกทม. ชัชชาดก็จะเหลือคะแนนเพียง หกแสนคะแนน เท่านั้นครับ
คะแนนของทั้งสามส่วนสูสีและไม่ได้ห่างกันไกลลิบๆ อย่างในโพลบอก
3. คะแนนของคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ตรงนี้ฟันธงดูจากผลการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นของฝั่งระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุกละครับ แต่เป็นของอีกฝ่าย ที่ไม่ชอบตอบโพล มักจะตอบเลี่ยงๆไป
ไม่เหมือนสาวกของคนหนีคุกที่ชอบเสนอหน้าตอบให้โพลออกมาสวยๆ ดูดี และเชื่อว่า ชัชชาดจะไม่ได้คะแนนจากส่วนนี้ไปเพราะใครๆก็รู้ว่าชัชชาดสร้างภาพว่าอิสระและต่อสายกับคนหนีคุก
4.ครั้งนี้จะมีการพาดหัวข่าวกันสนั่นหลังการเลือกตั้ง 22พค.ว่า พลิกโผ แหกโผ หักปากกาโพล....ความจริงแล้ว ไม่ได้พลิกอะไรหรอกครับ โพลก็ทำมาถูกแต่ผิดไปที่ว่า...
คนกทม.ที่ตอบโพลนั้น ไม่มีทะเบียนบ้านในกทม. อาจอยุ่นนท์ ปทุม ปากน้ำ หรืออีสาน เหนือ ไม่มีสิมธิ์กาบัตร แต่อยากตอบโพล มีรัยป่ะ!! ผลที่ออกมามันก็จะเป็นอย่างที่มันเป็นแหละ
5.ชัชชาดมั่นใจว่า บ้านมีรั้วคนมีการศึกษาเป็นของตายของเขา นั่นผิดครับ เพราะคนมีการศึกษาอยู่ในบ้านมีรั้ว มองออกว่า ชัชชาดต่อสายสะดือมาจากคนหนีคุก พรรคพวกเดียวกัน...ภาพความเจ็บปวดบ้านเมืองโดนดผาในปี 53 ยังสะเทือนอารมณ์ งั้น...คงต้องคิดบัญชีเก่ากันละ
6.ชัชชาด ไม่มั่นใจเสียงจากชุมชน ตรงนี้ชัชชาดมองถูกต้องเผง แล้วครับ เพราะในชุมชนนั้นมีการพึ่งพา ผู้นำชุมชน สก. สข. และคนกลถ่มนี้เชิ่อมโยงกับพรรคการเมืองทั้งสิ้น สายของ ปชป. สายของใกล้กาว สายของพปชร.สายของใกล้กาว...สายของชัชชาดไม่มี ส่วนสายของเพื่อพ่อ เหลือน้อยเต็มทีเพราะสายนี้คือสายของป้าแว้นทั้งนั้น
7.นโยบายสะเทือนเลื่อนลั่นของชัชชาดทำเอาคนกทม.ผวาหนัก เพราะชัชชาดจะเปิดเสรีในการก่อม็อบ เอาวะ มาเลยไม่ต้องขออนุญาติ จัดรถสุขา รถพยาบาล รถน้ำดื่มพร้อม ไฟพร้อม คราวนี้แหละ รถติด การเผาทำลายข้าวของ ภัยคุกคามกลางถนน คือสิ่งที่คนกทม.ต้องเผชิญ จากนโยบายของผู้ว่าโพลชัชชาด...คนกทม.ส่ายหน้าแบบพัดลม ไม่ไหวครับ
ทั้ง 7 ข้อนี้คือ ความจริงล้วนๆ ครับ ไม่ไดัมโน ไม่ใช่ฝันหวานสีพาสเทลอย่างในโพล ถ้าผมเป็นชัชชาดก็จะมองจ้องตาเหลือกอยุ่กับโพลแหละ เพราะมันคือฉากในเรื่อง ซินเดอริล่า ที่เมื่อถึงวันที่ 22 พค. ความจริงก็จะปรากฎให้เห็นกับตาตัวเองว่า เป็นผู้ว่าสอบตก
ผมบอกแล้วบอกอีก บอกด้วยความจริงที่พิสูจน์ได้ ชัดเจนกว่าโพล แต่มันไม่สวยเท่ากับฉากของซินเดอริล่า แต่สุดท้ายชัชชาดก็จะกลายเป็นเหมือนชายคนหนึ่ง...ที่เข่าอ่อน จนต้องมีคนมาพยุงปีกเดินออกจากห้องประชุม ทบ. ในปี 57
ผมเตือนแล้วนะ
อิอิ
ชัชชาดน้ำตาตกหลังพบความจริงนี้...
2.คะแนนในระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก ในปีนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน...และต้องแย่งชิงกันเอง
...ส่วนแรกอยู่กับเพื่อพ่อ ก็คือ ชัชชาด นั่นแหละ ไม่ต้องมาแอ๊ปตาใสๆ...ส่วนสองอยู่กับใกล้กาว ส่วนนี้ยึดแน่น ถาวร แกะออกยากมาก ....ส่วนที่สามอยู่กับป้าแว่นที่กุมพื้นที่กทม.มาตั้งแต่ป้าแว่นยังสาว จนเดี๋ยวนี้สาวกว่า ส่วนนี้ป้าแว่นต้องออกแรงยื้อมากหน่อยเพราะมีผลต่อพรรคป้าแว่นในอนาคต..
หากดูดีๆ คะแนนในส่วนของระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุก มันไม่ได้ไหลไปหาชัชชาดง่ายๆอย่างในโพลหรอกนะ
วางเดิมพันได้เลยว่า ใกล้กาวมีคะแนนตุนไม่น้อยกว่าห้าแสนคะแนน และป้าแว่นมีคะแนนตุนไว้ไม่น้อยกว่าสี่แสนคะแนน เมื่อหักจากคะแนนรวมของระบอบคอรฺรัปชั่นหนีคุกซึ่งมีอยู่ราวๆ ล้านห้าในกทม. ชัชชาดก็จะเหลือคะแนนเพียง หกแสนคะแนน เท่านั้นครับ
คะแนนของทั้งสามส่วนสูสีและไม่ได้ห่างกันไกลลิบๆ อย่างในโพลบอก
3. คะแนนของคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ตรงนี้ฟันธงดูจากผลการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นของฝั่งระบอบคอร์รัปชั่นหนีคุกละครับ แต่เป็นของอีกฝ่าย ที่ไม่ชอบตอบโพล มักจะตอบเลี่ยงๆไป
ไม่เหมือนสาวกของคนหนีคุกที่ชอบเสนอหน้าตอบให้โพลออกมาสวยๆ ดูดี และเชื่อว่า ชัชชาดจะไม่ได้คะแนนจากส่วนนี้ไปเพราะใครๆก็รู้ว่าชัชชาดสร้างภาพว่าอิสระและต่อสายกับคนหนีคุก
4.ครั้งนี้จะมีการพาดหัวข่าวกันสนั่นหลังการเลือกตั้ง 22พค.ว่า พลิกโผ แหกโผ หักปากกาโพล....ความจริงแล้ว ไม่ได้พลิกอะไรหรอกครับ โพลก็ทำมาถูกแต่ผิดไปที่ว่า...
คนกทม.ที่ตอบโพลนั้น ไม่มีทะเบียนบ้านในกทม. อาจอยุ่นนท์ ปทุม ปากน้ำ หรืออีสาน เหนือ ไม่มีสิมธิ์กาบัตร แต่อยากตอบโพล มีรัยป่ะ!! ผลที่ออกมามันก็จะเป็นอย่างที่มันเป็นแหละ
5.ชัชชาดมั่นใจว่า บ้านมีรั้วคนมีการศึกษาเป็นของตายของเขา นั่นผิดครับ เพราะคนมีการศึกษาอยู่ในบ้านมีรั้ว มองออกว่า ชัชชาดต่อสายสะดือมาจากคนหนีคุก พรรคพวกเดียวกัน...ภาพความเจ็บปวดบ้านเมืองโดนดผาในปี 53 ยังสะเทือนอารมณ์ งั้น...คงต้องคิดบัญชีเก่ากันละ
6.ชัชชาด ไม่มั่นใจเสียงจากชุมชน ตรงนี้ชัชชาดมองถูกต้องเผง แล้วครับ เพราะในชุมชนนั้นมีการพึ่งพา ผู้นำชุมชน สก. สข. และคนกลถ่มนี้เชิ่อมโยงกับพรรคการเมืองทั้งสิ้น สายของ ปชป. สายของใกล้กาว สายของพปชร.สายของใกล้กาว...สายของชัชชาดไม่มี ส่วนสายของเพื่อพ่อ เหลือน้อยเต็มทีเพราะสายนี้คือสายของป้าแว้นทั้งนั้น
7.นโยบายสะเทือนเลื่อนลั่นของชัชชาดทำเอาคนกทม.ผวาหนัก เพราะชัชชาดจะเปิดเสรีในการก่อม็อบ เอาวะ มาเลยไม่ต้องขออนุญาติ จัดรถสุขา รถพยาบาล รถน้ำดื่มพร้อม ไฟพร้อม คราวนี้แหละ รถติด การเผาทำลายข้าวของ ภัยคุกคามกลางถนน คือสิ่งที่คนกทม.ต้องเผชิญ จากนโยบายของผู้ว่าโพลชัชชาด...คนกทม.ส่ายหน้าแบบพัดลม ไม่ไหวครับ
ทั้ง 7 ข้อนี้คือ ความจริงล้วนๆ ครับ ไม่ไดัมโน ไม่ใช่ฝันหวานสีพาสเทลอย่างในโพล ถ้าผมเป็นชัชชาดก็จะมองจ้องตาเหลือกอยุ่กับโพลแหละ เพราะมันคือฉากในเรื่อง ซินเดอริล่า ที่เมื่อถึงวันที่ 22 พค. ความจริงก็จะปรากฎให้เห็นกับตาตัวเองว่า เป็นผู้ว่าสอบตก
ผมบอกแล้วบอกอีก บอกด้วยความจริงที่พิสูจน์ได้ ชัดเจนกว่าโพล แต่มันไม่สวยเท่ากับฉากของซินเดอริล่า แต่สุดท้ายชัชชาดก็จะกลายเป็นเหมือนชายคนหนึ่ง...ที่เข่าอ่อน จนต้องมีคนมาพยุงปีกเดินออกจากห้องประชุม ทบ. ในปี 57
ผมเตือนแล้วนะ
อิอิ