สวัสดีครับสมาชิกพันทิพย์ทุกท่าน จากการอ่านที่สมาชิกท่านอื่นรีวิว วันนี้ขอมารีวิวบ้างครับกับประสบการณ์การใช้เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Mitsubishi Heavy Duty Inverter รุ่น SRK24YXS-W1
 
 
ก่อนอื่นขอเล่าถึงประวัติการใช้แอร์ของตัวเองก่อนนะครับ เพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพตามว่าผมเคยใช้เครื่องปรับอากาศมากี่ยี่ห้อ
*ปล.ไม่ต้องเดาอายุนะครับเพราะที่บ้านมีหลายห้องครับ และติดเครื่องปรับอากาศหลายยี่ห้อ รวมถึงตอนมหาลัยที่พักหอพัก จะทำให้จำนวนปีที่ใช้มากกว่าอายุผม 



ประสบการณ์จนถึงปี 2564
 
 - Mitsubishi Electric Mr.Slim 14+ ปี
 - Daikin 12+ ปี
 - Hanatsu 12+ ปี
 - Central Air 4 ปี
 - Star Air 5 ปี
 - Samsung 8 ปี
 - Hitachi 10 ปี (มี 2 เครื่องถ้าคูณสองก็ 20ปีครับ)
 
*จำนวนปี+ คือคร่าวๆประมาณนั้นและอาจจะมากกว่าครับ
 
ปี2564-2565
 - Mitsubishi Heavy Duty 7 เดือน
 
 
พอใช้แอร์หลากยี่ห้อทำให้ส่วนตัวค่อนข้างติดแบรนด์ญี่ปุ่นครับเพราะยังไม่เคยผิดหวังทั้งความเงียบ, เย็น และทนทาน แต่ Central Air ก็ไม่ธรรมดานะครับเพราะตอนอยู่หอพักช่วงมหาวิทยาลัย 4 ปี ไม่เคยล้างเลยแต่ก็เย็น, เสียงโอเค และไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
 
เลยตัดสินใจซื้อ Mitsubishi Heavy Duty ครับเพราะคิดว่าแบรนด์ญี่ปุ่นเหมือนกัน และตอนใช้ Mitsubishi Electric ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
 
ด้านล่างคือ Timeline (โดยประมาณ) หลังจากติดตั้ง Mitsibishi Heavy Duty ครับ
 
         วันที่ติดตั้ง:
                 ผม: ถามช่างว่า Compressor ติดตั้งตรงกำแพงที่จะมีปัญหาอะไรมั้ย เรื่องเสียง หรือเรื่องแรงสั่นสะเทือน เพราะ Compressor แอร์ห้องผมมัน วางอีกที่นึง แต่กำแพงห้องผมจะมี Compressor แอร์ห้องอื่นแขวนอยู่ และผนังห้องเป็นอิฐมวลเบา
                 ช่างติดตั้ง: ไม่มีครับ
         เดือนที่ 1: แอร์มีเสียงดังทั้งจาก Compressor และคอยด์เย็น (ตัวแอร์ที่อยู่ในห้อง) จนทนไม่ไหว รวมถึงการสั้นของผนังที่สะเทือนจนกลัวว่าผนังจะพัง
                             >>>  ผมต้องเสียค่าย้าย Compressor ต่างหาก
 
         เดือนที่ 2: หลังจากย้าย Compressor แล้วก็พบว่าตัวคอยด์เย็นมีเสียงดังเหมือนอะไรกระทบกันด้านในเครื่อง
                             >>> หลังจากแจ้งปัญหาประมาณ 2 อาทิตย์ช่างก็เข้ามาดู และทำเรื่องเปลี่ยนคอยด์เย็นให้ใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (รอเครื่องอีก
                                     ประมาณ 2อาทิตย์ครับ)
 
         เดือนที่ 2-3: มีเสียงเหมือนอะไรกระทบกันเวลาเปิดแอร์
                              >>> ช่างมาดูพบว่าช่างชุดที่ติดตั้งไม่ได้เก็บสายไฟตรงตำแหน่งเซ็นเซอร์ให้เข้าช่องเก็บ เลยมีการกระทบกับแผงเก็บสายไฟ
 
         เดือนที่ 3-4: มีเสียงลมอู้อี้แปลกๆในเครื่อง
                              >>> ช่างมาดูบอกว่าเพราะผมปรับใบพัดไปทิศใดทิศหนึ่งไม่ปรับตรงมันเลยเกิด Turbulence (ลมตีกันในเครื่อง) ทำให้เกิดเสียงนั้น 
 
                             ผม: มีวิธีแก้ไขอื่นเปล่าครับ
                             ช่าง: ไม่มีครับถ้าอยากให้เสียงหายตรงปรับตรงอย่างเดียว
 
                             ผม(คิดในใจ): เวลาเปิดแอร์ผมจะปรับใบพัดให้ไปทางฝั่งซ้าย เพราะถ้าปรับตรงหรือขวาลมแอร์จะย้อนมาโดนตัวทำให้รู้สึกไม่สบาย
                                                  แต่นี่ต้องปรับให้ตรงอย่างเดียวและยอมที่จะให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายตัวจากลมเย็นที่กระทบ เพราะถ้าปรับซ้าย-ขวา แล้ว
                                                  มันจะมีเสียงดัง, ทั้งๆที่ยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มาไม่มี ?
 
         เดือนที่ 4-7: เวลาปรับลมเบาแอร์มีเสียงดังแบบความถี่ต่ำเหมือนโพรงกระรอก (ใบพัดในแอร์) หมุนแต่ไม่ smooth  กับ เวลาปรับลมแรงเสียงอะไรกระทบกันด้านในเครื่อง (นานๆได้ยินที แต่เวลาช่างมาจะไม่เคยมีเสียง!)
                             >>> ช่างชุดแรกมาบอกไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงลม ช่างเลยแจ้งว่าจะให้ Foreman ที่มีความชำนาญมากกว่าเข้ามา
                                    (บ้านผมอยู่เขตโรงงานฯเสียงจะค่อนข้างดังถ้าเป็นวันธรรมดาช่วงเวลางาน)
                             >>> ผ่านไป 2-3 อาทิตย์ ช่างชุด Foreman เข้ามา หลังจากฟังอยู่นาน จากการพูดคุยเข้าใจว่าตอนแรกไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร
                                     พอเวลาผ่านไปสักพักนานๆ ช่างเลยลองเปลี่ยนโหมดจากทำความเย็นเป็นพัดลมเพื่อให้ Compressor หยุดการทำงานก็พบว่า
                                     เสียงความถี่ต่ำนั้นหายไป เลยแจ้งผมว่าเสียงนี้เป็นเสียงปกติของแอร์
 
                                ผม: แย้งไปว่าเท่าที่ใช้งานแอร์มาผมไม่เคยเจอนะเสียงแบบนี้ เพราะมันเป็นความถี่ที่รบกวนสมาธิของคน ถ้ายี่ห้อไหนมีเสียงแบบนี้ผมไม่ซื้อแน่ๆ
 
                                ช่าง: แต่นี่มันเป็นเสียงปกติของ Mitsubishi Heavy Duty ครับ, ผมทำงานที่นี่มา 30+ ปีแล้วก็ได้ยินเสียงนี่เป็นปกติ
 
                                ผม (คิดในใจ):  { ถ้าได้ยินเป็นปกติจริง ทำไมต้องฟังนานขนาดนั้น และวินิจฉัยไม่ได้จนต้องเปลี่ยนโหมดมาเป็นโหมดพัดลม
                                                         พอเสียงหายก็มาบอกว่าเป็นปกติของแอร์ยี่ห้อนี้ }
 
                                ผม: แต่ตอนเดือนแรกๆที่ติดตั้งมันไม่มีเสียงนี้นะครับและเสียงมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ตอนที่เรายืนฟังกันอยู่พี่ก็เห็นว่าตอนนี้มัน
                                      ดังขึ้น เสียงแบบนี้ผู้ใช้งานไม่น่าจะรับได้นะครับว่าเป็นเรื่องปกติ
 
                                ช่าง: งั้นเดี๋ยวผมจะแจ้งหัวหน้าให้เรื่องให้ช่างเทคนิคที่มีความชำนาญกว่า Foreman เข้ามาดูครับ แต่ในใบงานผมไม่สามารถลง
                                        ว่าเจอความผิดปกติใดๆได้ เพราะมันคือเสียงปกติของ Mitsubishi Heavy Duty ที่อยากให้ลูกค้าเข้าใจว่าแอร์แต่ละยี่ห้อก็
                                        จะมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกันครับ
 
 
สถานะตอนนี้ก็รอช่างForeman แจ้งหัวหน้าช่าง   เพื่อดูว่าทางศูนย์บริการจะให้ช่างเทคนิคมาดูให้จริงๆหรือเปล่าครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทเป็นระยะๆครับ
 
 
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
 
รีวิวเรื่องการให้บริการของ Mitsubshi Heavy Duty
    ความใส่ใจ = 5/5, ให้บริการดีมากครับช่างที่มาทุกชุดอัธยาศัยดี
    ความสะดวกในการติดต่อ = 3/5,  เบอร์ Call Center ติดต่อยากมากครับ อาจจะเพราะมีคนติดต่อเยอะ แต่สามารถฝากเรื่องผ่านทาง Line Official
                                            ของ Mitsubishi Heavy Duty ได้ครับ ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งกลับภายใน 24 ชม. ถ้าไม่ติดวันหยุด ว่าได้รับเรื่องแล้ว
                                            และแจ้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้แล้วครับ
    ความรวดเร็ว = 1/5, ค่อนข้างช้ามากครับอาจจะเพราะจำนวนลูกค้าเยอะ ติดต่อครั้งนึงต้องรออย่างน้อย 10+ วัน ถ้าคาบเกี่ยววันหยุดหรือเทศกาลก็
                                   20+ วันครับ
 
รีวิวตัวแอร์ (เครื่องปรับอากาศ)
    ความเร็วในการทำอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้ง = 4/5,  ไม่เร็วเท่าบางยี่ห้อที่เคยใช้นะครับแต่ก็ไม่ช้า
    Silent Mode = 1/5,  ไม่มีผลในการทำให้เสียงเบาลงเลยครับ แม้แต่เสียงลมก็ดังเท่าเดิม แต่ช่างบอกว่ามันจะ cap ให้การทำงานของ Compressor
                                     อยู่ที่ 60% จากสูงสุด
    การทำงานของโหมด Auto = 0/5,   
                 1. มีส่วนต่างของอุณหภูมิช่วงที่ Compressor ทำงานกับหยุดพักการทำงานกว้างมาก ทำให้ตอนที่ Compressor ทำงาน ผมรู้สึกหนาวจน
                     ต้องใส่เสื้อกันหนาว (ตั้งอุณหภูมิที่ 26 องศา) พอ Compressor พักการทำงานก็ร้อนจนเหงื่อออกต้องถอดเสื้อกันหนาว
                 2. ตอนที่ Compressor หยุดการทำงานเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตื่นกลางดึกบ่อยครั้งเพราะรู้สึกร้อน สุดท้ายต้องเปลี่ยนเป็นตั้งความเร็วลม
                     คงที่ครับ ทำให้แทนที่จะประหยัดไฟได้ก็ไม่ประหยัด
                 3. พอตั้งโหมดความเร็วลมคงที่ก็ตั้งให้ลมเบาๆไม่ได้อีกเพราะจะมีเสียงความถี่ต่ำคอยรบกวนครับ ทำให้ต้องตั้งลมแรง ก็จะทำให้ผิวแห้ง
                     คอแห้งง่ายครับ
    เสียงรบกวน = 0/5,
                     1. เรื่องแอร์เสียงดังต้องยกให้ Mitsubishi Heavy Duty ครับ มันจะมีเสียงแปลกๆประหลาดทั้ง
                                - การจ่ายน้ำยาแอร์จาก Compressor มาที่คอยด์เย็น
                                - เสียงการฉีดน้ำยาแอร์ เป็นเสียงเหมือนน้ำไหลในท่อเร็วๆแต่ในท่อจะมีช่องว่างอยู่ดัง ฟึบๆๆ
                                - เสียงความถี่ต่ำเวลาตั้งให้ลมเบา ที่ไม่เคยได้ยินในแอร์ยี่ห้ออื่นมาก่อน
                                - เสียงดังอืดๆแบบตู้เย็นใส่เครื่องดื่มน้ำอัดลมตามร้านอาหาร จาก Compressor ที่จะดังแทบตลอดเวลา
                     2. แนะนำว่าถ้าเพื่อนๆที่ต้องการใช้สมาธิเวลาทำงาน หรือต้องการความเงียบในการนอนควรหลีกเลี่ยงนะครับ
                     3. ถ้าท่านอื่นๆไม่เคยเจอปัญหาเรื่องเสียงเหมือนผม ผมก็คง Jackpot มากๆครับ
 

เปรียบเทียบแอร์ทุกยี่ห้อที่เคยใช้งาน

    ความเร็วในการทำอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้ง และความสบายเวลาอยู่ในห้อง = Hitachi > Daikin > Samsung > อื่นๆ, Mitsubishi Heavy Duty
                       *Mitsubishi Heavy Duty นี่เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนครับ, แต่ยี่ห้ออื่นๆที่อยู่ใน list ไม่ใช่ Inverter ถ้าเทียบกับก็อาจจะไม่แฟร์ เลยให้เท่ากันครับ แต่ 3 ยี่ห้อแรกเป็น inverter ครับ และความสบายนี่ต่างกันมาก ด้วยช่วงอุณหภูมิในโหมด Auto ที่ไม่กว้างเกินไปครับ

    Silent Mode = Hitachi > Mitsubishi Electric > Daikin > อื่นๆ > Mitsubishi Heavy Duty
                       *Hitachi นี่กดปุ๊บเงียบปั๊บ

    เสียงรบกวน = Hitachi > Mitsubishi Electric > Daikin > อื่นๆ > Mitsubishi Heavy Duty
                          *เรื่องเสียงนี่ Hitachi กินขาดมากครับ 10 ปี เพิ่งได้ยินเสียงอื่นดังนอกจากเสียงลม

    ความทนทาน = Mitsubishi Electric > Daikin > Hitachi, Hanatsu > อื่นๆ > Samsung
                          *Mitsubishi Electric นี่ทนจริงๆครับไม่เคยซ่อม แต่เปลี่ยนเพราะเรื่องกินไฟ, Daikin มีซ่อมจุกจิกบ้าง แต่ Hitachi จะห่างจาก 2 เจ้า
                           แรกหน่อยตรงที่กว่าจะเสียนานก็จริง แต่พอเสียก็มาแบบซ่อมไม่ได้ต้องซื้ออุปกรณ์ส่วนนั้นๆใหม่ครับ
 

*ส่วนที่ใส่อื่นๆเพราะความประทับใจในยี่ห้อนั้นๆไม่ชัดเจนครับทำให้แยกความแตกต่างไม่ได้ ส่วนความทนทานของ Mitsubishi Heavy Duty ยังไม่รู้ครับเพราะพึ่งใช้งาน แต่มีห้องนึงในบ้านใช้มาหลายปีแล้วไม่รู้ว่าคอยด์เย็นเป็นยังไง แต่ Compressor จะมีเสียงความถี่สูงดังอยู่เป็นระยะๆ บางทีก็ดังจนเข้าห้องผมครับ (ห่างกันประมาณเกือบ 20 เมตร) เพิ่งมาดังหลังผมซื้อแล้ว 
 
 
 
 
หวังว่าการรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในการเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับการใช้งานไม่มากก็น้อยครับ