[CR] แชร์ประสบการณ์การรักษา "นิ่วในท่อไต" ของชายวัยกลางคน

ด้วยความที่ได้ยินเรื่องราวของนิ่วจากคนในที่ทำงานมาหลายปี แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง

ทุกเย็นหลังเลิกงานผมจะออกกำลังกายเบาๆ ที่บ้าน ซึ่งเย็นวันพุธที่ 23 ก.พ. 65 เริ่มมีอาการเสียวท้องน้อย (แถวกระเพาะปัสสาวะ) ถึงด้านข้างเอวฝั่งซ้าย ร้าวลงอัณฑะลูกซ้าย แต่ไม่มาก และก็ไม่คิดอะไร อาจจะปวดท้องถ่ายอะไรทำนองนั้น

เช้าวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. 65 ได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งต้องมีการเก็บฉี่ โดยผมสังเกตดูว่า ฉี่มีสีเหลืองเข้ม เริ่มออกไปทางส้มอมน้ำตาล และคิดว่า มันผิดสังเกตุแล้ว ไม่น่าจะปกติ แต่ก็ยังฟันธงอะไรไม่ได้ ต้องรอผลตรวจสุขภาพอีก 1-2 สัปดาห์

เช้าวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. ตอนเช้าหลังตื่นนอน เข้าห้องน้ำฉี่ สีเริ่มเข้มออกน้ำตาลเข้ม และเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ฉี่ก็มีสีเข้มขึ้น แทบจะออกสีแดง แต่ไม่มีอาการปวดอะไรแถวท้องน้อยหรือเอวด้านข้าง เหลือแต่อาการปวดลงลูกอัณฑะข้างซ้าย แต่ปวดแบบรำคาญครับ ทนได้

จนมาวันจันทร์ที่ 28 ก.พ. มาทำงาน และเข้าห้องน้ำช่วงสาย เท่านั้นแหล่ะครับ ฉี่มาเป็นสายน้ำสีแดง เลือดปนในฉี่ สุดท้ายตอนเย็นต้องไปหาหมอด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งต้องบอกก่อนครับว่า ต่างจังหวัดหมอเฉพาะทางจะมีแต่ในโรงพยาบาลรัฐฯ ประจำจังหวัดเท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลเอกชน จะมีเข้าเฉพาะบางวัน แต่โชคดีที่มีคุณหมอท่านหนึ่งเปิดคลีนิค จึงไปหาช่วงเย็นหลังเลิกงาน เล่าอาการต่างๆ คุณหมอเลยทำอัลตราซาวน์ แต่ไม่เห็นอะไรนะครับ เบื้องต้น คุณหมอสรุปว่า น่าจะเป็นนิ่วในไต และคุณหมอก็ได้ให้ยาสลายนิ่วมากินและยาแก้ต่อมลูกหมากโต และนัดเพื่อทำ CT Scan ที่โรงพยาบาลเอกชนที่หนึ่งที่คุณหมอเข้าช่วงเย็นเพียง 1 วันต่อสัปดาห์
หมายเหตุ : คุณหมอแนะนำตอนแรกให้ทำ X-Ray ฉีดสี แต่ผมพวกใจร้อนเลยขอวิธีอื่นที่ไวกว่า จึงลงเอยด้วย CT Scan ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 14k - 15k

แต่แล้วเจ้ากรรมนิ่วก้อนนี้มันเริ่มแผลงฤทธิ์เอาคืนวันจันทร์ 28 ก.พ.จนถึงเช้าตรู่วันอังคารที่ 1 มี.ค. คือ ปวดฉี่ทั้งคืน แทบไม่ได้นอน และหลังฉี่เสร็จ ก็เหมือนฉี่ไม่สุด และร้ายกว่านั้นคือ มันเริ่มปวดเอวถึงหลังบริเวณด้านซ้าย ปวดมากแทบจะเป็นลม แต่รอดตัวมาได้แบบฟลุ๊คๆ เพราะยาพาราเซตามอล 2 เม็ด อาการปวดเบาลงจนแทบไม่มีเลยหลังกินยาไป 1-2 ชั่วโมง

จนมาถึงวันที่นัดทำ CT Scan หลังทำคุณหมอแจ้งผลคือ พบก้อนนิ่วคาอยู่ในท่อไต ขนาด 0.69cm หรือประมาณ 7mm ทางคุณหมอบอกว่า เป็นขนาดทั่วๆ ไป มีโอกาสที่จะหลุดออกมาเองได้ แต่ปลายท่อไตจะเป็นส่วนที่แคบที่สุดก่อนจะเข้ากระเพาะปัสสาวะ จึงต้องลุ้นเอาว่ามันจะไหลหลุดออกมาเองหรือเปล่า
หมายเหตุ : ผมถามคุณหมอว่า ถ้านิ่วมันเข้ากระเพาะปัสสาวะแล้ว มันจะคาที่ท่อปัสสาวะหรือเปล่า แกบอกว่า ท่อปัสสาวะมีขนาดใหญ่กว่าท่อไต ดังนั้น โอกาสที่นิ่วจะติดคาที่ท่อปัสสาวะแทบจะไม่มีครับ

ผมก็รักษาและมาตามนัดอยู่เรื่อยๆ มา 1 เดือน แบบไม่มีอาการอะไรเลย แบบปกติทุกอย่าง จนมาถึงวันที่ 6 เม.ย. ทำ CT Scan อีกรอบ ปรากฎว่า มันก็ยังอยู่ใกล้ๆ ที่เดิม มีขยับลงมานิดหน่อย แต่ก็ยังอยู่แถวบริเวณปลายท่อไต อะไรจะเหนียวแน่นขนาดนั้น ผมเลยขอแนวทางการรักษากับคุณหมอ ซึ่งมี 2 วิธี คือ

วิธีที่ 1 ใช้เครื่องคลื่นเสียงกระแทกบริเวณที่นิ่วมันคาอยู่ ให้ก้อนนิ่วแตกเป็นชิ้นเล็กๆ และออกมาพร้อมกับฉี่ แต่คุณหมอแจ้งว่า อาจจะไม่ได้ผล เพราะตำแหน่งนิ่วมันอยู่ลึก

วิธีที่ 2 ส่องกล้อง กรอให้แตกและคล้องออกมา โดยแอดมิทโรงพยาบาล 1 คืน ซึ่งคุณหมอแนะนำวิธีนี้ชัวร์ที่สุด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก้อนนิ่วมันจะอยู่ไปกับผมตลอดคงไม่ได้ เลยทำการนัดวัน ได้เป็นวันเสาร์ที่ 23 เม.ย.

จนมาถึงวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. ทางคุณหมอให้มาแต่เช้าเพื่อติดต่อกับทางโรงพยาบาลเดินเรื่องเป็นผู้ป่วยใน โดยต้องงดอาหารและน้ำก่อนเข้าห้องผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ซึ่งกำหนดการที่จะเข้าห้องผ่าตัดคือประมาณ 18.00 น. ดังนั้น ผมต้องกินข้าวตอน 12.00 น. เป็นมื้อสุดท้ายของวันนั้น และก็นอนให้น้ำเกลืออยู่ในห้อง เปลี่ยนชุดผู้ป่วยแบบชุดคลุม ถอดหมดโล่งโจ้ง จนถึงเวลา 18.00 น. มีเจ้าหน้าที่มารับไปที่ห้องผ่าตัด ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่เข้าห้องผ่าตัด

ผมนอนรอคุณหมอในห้องผ่าตัด ก็มีเจ้าหน้าที่ในห้องผ่าตัดชวนผมคุยสนุกสนานเฮฮา เพื่อไม่ให้ผมกังวล และก่อนที่คถณหมอจะเข้ามาถึง ผมได้บอกเจ้าหน้าที่ในห้องผ่าตัดไปว่า ผมขอแบบสลบนะครับ น่าจะเหมาะกว่า เพราะตอนผมหลับ อยากทำอะไรก็ทำเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆ หลังจากนั้นคุณหมอเข้ามาประมาณ 18.30 น. และเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดก็เอาที่ครอบเหมือนให้ออกซิเจนมาครอบที่จมูก ให้ผมสูดหายใจลึกๆ 2-3 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะครับ หลังจากนั้นภาพตัดเลย มาตื่นอีกทีหน้าห้องผ่าตัดประมาณ 20.10 น. พร้อมกับสายท่อระบายฉี่ที่เสียบคาปิ๊กกะจู้ไว้ แต่ไม่รู้สึกเจ็บนะครับ ทางเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเอาเศษก้อนนิ่วมาให้ดูที่ใส่ถุงพลาสติกเอาไว้ แทบจะไม่เป็นก้อนอย่างที่ผมคิด นิ่วมันถูกสลายเหลือเม็ดกรวดเล็กๆ เหมือนเม็ดทราย และได้ย้ายผมกลับมาที่ห้องพักตอน 20.30 น.

ทั้งคืนคุณพยาบาลเข้ามาวัดไข้และความดัน ก็ให้กินน้ำอย่างน้อย 2 ลิตร เพื่อระบายเลือดออกให้เยอะๆ จนมาถึงช่วงเช้าประมาณ 7.00 น. ทางคุณพยาบาลมาดึงสายท่อระบายออก โดยบอกให้ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ (อันนี้คุณพยาบาลไม่ได้บอก ผมนึกเอง) จังหวะที่ดึงออก บอกเลย ไม่เจ็บ แต่มันเสียวแบบปวดฉี่อย่างรุนแรง ตอนนั้นผมรีบอั้นฉี่ไว้ และรีบลุกไปห้องน้ำ แต่มีฉี่ไหลออกมาอย่างน้อยนิดเท่านั้นครับ หลังจากนั้นผมก็กินน้ำเยอะๆ แบบกินปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยๆ และเข้าห้องน้ำฉี่ สิ่งที่ตามมาคือ พอฉี่ไหลออกมา มันปวดท้องบริเวณกระเพาะปัสสาวะด้านซ้าย แบบปวดมากแทบทรุด จะปวดทุกครั้งที่ฉี่ครับ

จนมาถึง 9.00 น. คุณหมอได้เข้ามาถามอาการ ผมเลยเล่าให้ฟังถึงอาการปวดตอนฉี่ คุณหมอเลยบอกว่า คุณหมอใส่ท่อขยายในท่อไตไว้ เพื่อกันท่อไตมันตีบเนื่องจากก้อนนิ่วมันคาอยู่แบบนั้น จนส่งผลให้ท่อไตเริ่มมีอาการอักเสบ และอาจเกิดผังผืดจนทำให้ท่อไตตีบตันได้ อาการที่ปวดน่าจะเกิดจากท่อขยายที่ใส่ไว้ ทางคุณหมอบอกว่า นิ่วขนาดเกือบๆ 1cm (น่าภูมิใจจริงๆ ในไตผมเคยมีก้อนนิ่วขนาดเกือบ 1cm อยู่มาก่อน) และบอกว่าให้กลับบ้านได้เลย แต่เชื่อหรือเปล่าครับว่า กว่าผมจะได้ออกก็เกือบ 20.00 น. เพราะต้องเคลียร์กับประกันที่ทำไว้ ซึ่งแต่ละเจ้าต้องรออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง

สรุปการรักษาด้วยการส่องกล้องเอานิ่วในท่อไตซ้ายออก
1) ค่าใช้จ่ายรวมเบ็ดเสร็จ 94k-95k ดีที่มีประกันเลย Fax claim ไปได้ แต่มีที่ต้องออกเองไปก่อน จำนวน 15k เพราะประกันเจ้านี้ ผมเพิ่งทำได้ไม่ถึง 1 ปี จึงขอเวลาตรวจสอบก่อน และจะได้คืนตามหลัง

2) ท่อขยายที่ใส่ไว้ คุณหมอนัดเอาออกวันที่ 11 พ.ค. แทบไม่อยากคิดว่า จะเอาออกยังไง เดี๋ยวกระทู้หน้ามาเล่าให้ฟังพร้อมกับสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วครับ
ชื่อสินค้า:   นิ่วในท่อไตและการรักษา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่