สวัสดีค่ะ เราขอปรึกษาเพื่อนๆเกี่ยวกับการจัดการความรู้สึกของเรา จากเหตุการณ์ที่พ่อนอกใจแม่ค่ะ
พ่อเราภายนอกเป็นข้าราชการระดับสูง มีความรู้ ชอบอ่านหนังสือ ชอบธรรมมะ แต่ความจริงคือตั้งแต่เราอยู่มัธยม จนปัจจุบันเรียนจบมหาลัยพ่อเรานอกใจแม่มาหลายครั้ง แม่จับได้บ้างไม่ได้บ้าง ทะเลาะกันทีก็บ้านแตก
ช่วงที่พ่อแม่ทะเลาะกันแรกๆ เราอยู่ม.ต้น แม่จับได้ว่าพ่อนอกใจและแอบซุกเงินไว้ให้ผู้หญิง แม่เราทะเลาะกับพ่อแรงมาก ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เอาปืนมาขู่ แม่เราหนีไปอยู่บ้านป้าที่กทม.แต่พ่อก็ตามกลับมา แม่เราพูดเรื่องจะหย่ากับพ่อหลายครั้ง ถึงขั้นขอให้เราไปกราบพ่อแล้วช่วยพูดกับพ่อให้ยอมหย่า แต่พ่อก็ไม่ยอมเพราะพ่อบอกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด และสัญญาจะไม่ทำอีก กว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะสงบได้ก็ตอนช่วงก่อนเราไปเรียนมหาลัย
ผ่านมาหลายปี จนปัจจุบันเราเรียนจบมาดูแลกิจการที่บ้าน แม่เราทำงานนอกบ้าน พ่อรับราชการเหมือนเดิม เราคิดว่าพ่อคงกลับตัวกลับใจได้จริงๆแล้ว แต่แล้วคืนหนึ่งเราลงมาชั้นล่าง ซึ่งแม่เราเข้านอนแล้ว(ปกติแม่นอนเร็วเพราะต้องตื่นเช้ามืด) พ่อเราปกตินอนดึกอยู่แล้วเพราะยังเคลียงานไม่เสร็จ แต่คืนนั้น เราเห็นพ่อกำลังเล่นมือถือแชทคุยกับบางคนอยู่ เราเริ่มเอะใจตั้งแต่ตอนนั้น วันรุ่งขึ้นเราไปแอบค้นมือถือพ่อแต่ไม่พบอะไรผิดปกติ เราเลยคิดว่าเราคงคิดมากไปเอง แต่เรื่องมันมาแตกเพราะคืนหนึ่งเราแอบเห็นพ่อ ใช้กุญแจไขลิ้นชักที่โต๊ะทำงานแล้วเอามือถืออีกเครื่องออกมา รุ่นเดียวกันสีเดียวกันกับเครื่องที่ใช้เป็นประจำ แล้วพ่อก็แชทกับคนในมือถือ
เราค้นพบความจริงในมือถือนั้นว่า พ่อเราแอบแชทคุยกับผู้หญิงหลายคน ส่งรูป ส่งคลิปให้กัน มีหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงที่พ่อเคยไปติดพันสมัยเราอยู่มัธยม เราเห็นแล้วช็อคมาก เหตุการณ์นี้มันทำร้ายจิตใจเราอีกครั้ง แต่เราเลือกที่จะเก็บความลับไว้กับตัวคนเดียว ไม่บอกใครแม้แต่พ่อกับแม่ เรารู้ว่าพ่อรักเรามากและแม่ก็รักพ่อ ทุกวันนี้เราเห็นแม่ยิ้ม มีความสุขดี เราไม่อยากเห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานราวตกนรกเหมือนในอดีตอีกแล้ว
เราปิดบังความลับนี้มาตลอดเป็นปีๆจนถึงตอนนี้ แต่ผลกระทบมันมาตกที่เรา จิตใจเราบอบช้ำที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับพ่อและเห็นเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆเกือบทุกคืน ถ้าเลือกได้เราขอไม่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ยังจะดีกว่า บางครั้งเราได้ยินเสียงพ่อไขกุญแจเปิดลิ้นชักเราก็มีแต่ความหวาดระแวง จนเราเกลียดเสียงเปิดลิ้นชักของพ่อไปเลย เรามองพ่อไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถึงภายนอกจะดูเหมือนเดิมแต่ความเคารพนับถือภายในมันแทบไม่เหลือ ทุกครั้งที่พ่อเล่าเรื่องธรรมะ การใช้ชีวิต หรือวิจารณ์คนโน้นคนนี้ เรารู้สึกไม่อินจนอยากจะเดินหนี เพราะเรารู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไง
ขอโทษที่ยาวไปนิด ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านจนจบนะคะ เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้กับพ่อเลย เคยพยายามมองเขาในแง่ดีกับเรื่องอื่นๆ แต่พอเรามาเห็นพฤติกรรมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันทำใจปล่อยวางได้ยากจริงๆ เราอยากถามเพื่อนๆว่าเราควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะหรือเพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์คล้ายๆกันมาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
เมื่อเราหมดความนับถือคนเป็นพ่อ
พ่อเราภายนอกเป็นข้าราชการระดับสูง มีความรู้ ชอบอ่านหนังสือ ชอบธรรมมะ แต่ความจริงคือตั้งแต่เราอยู่มัธยม จนปัจจุบันเรียนจบมหาลัยพ่อเรานอกใจแม่มาหลายครั้ง แม่จับได้บ้างไม่ได้บ้าง ทะเลาะกันทีก็บ้านแตก
ช่วงที่พ่อแม่ทะเลาะกันแรกๆ เราอยู่ม.ต้น แม่จับได้ว่าพ่อนอกใจและแอบซุกเงินไว้ให้ผู้หญิง แม่เราทะเลาะกับพ่อแรงมาก ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เอาปืนมาขู่ แม่เราหนีไปอยู่บ้านป้าที่กทม.แต่พ่อก็ตามกลับมา แม่เราพูดเรื่องจะหย่ากับพ่อหลายครั้ง ถึงขั้นขอให้เราไปกราบพ่อแล้วช่วยพูดกับพ่อให้ยอมหย่า แต่พ่อก็ไม่ยอมเพราะพ่อบอกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด และสัญญาจะไม่ทำอีก กว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะสงบได้ก็ตอนช่วงก่อนเราไปเรียนมหาลัย
ผ่านมาหลายปี จนปัจจุบันเราเรียนจบมาดูแลกิจการที่บ้าน แม่เราทำงานนอกบ้าน พ่อรับราชการเหมือนเดิม เราคิดว่าพ่อคงกลับตัวกลับใจได้จริงๆแล้ว แต่แล้วคืนหนึ่งเราลงมาชั้นล่าง ซึ่งแม่เราเข้านอนแล้ว(ปกติแม่นอนเร็วเพราะต้องตื่นเช้ามืด) พ่อเราปกตินอนดึกอยู่แล้วเพราะยังเคลียงานไม่เสร็จ แต่คืนนั้น เราเห็นพ่อกำลังเล่นมือถือแชทคุยกับบางคนอยู่ เราเริ่มเอะใจตั้งแต่ตอนนั้น วันรุ่งขึ้นเราไปแอบค้นมือถือพ่อแต่ไม่พบอะไรผิดปกติ เราเลยคิดว่าเราคงคิดมากไปเอง แต่เรื่องมันมาแตกเพราะคืนหนึ่งเราแอบเห็นพ่อ ใช้กุญแจไขลิ้นชักที่โต๊ะทำงานแล้วเอามือถืออีกเครื่องออกมา รุ่นเดียวกันสีเดียวกันกับเครื่องที่ใช้เป็นประจำ แล้วพ่อก็แชทกับคนในมือถือ
เราค้นพบความจริงในมือถือนั้นว่า พ่อเราแอบแชทคุยกับผู้หญิงหลายคน ส่งรูป ส่งคลิปให้กัน มีหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงที่พ่อเคยไปติดพันสมัยเราอยู่มัธยม เราเห็นแล้วช็อคมาก เหตุการณ์นี้มันทำร้ายจิตใจเราอีกครั้ง แต่เราเลือกที่จะเก็บความลับไว้กับตัวคนเดียว ไม่บอกใครแม้แต่พ่อกับแม่ เรารู้ว่าพ่อรักเรามากและแม่ก็รักพ่อ ทุกวันนี้เราเห็นแม่ยิ้ม มีความสุขดี เราไม่อยากเห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานราวตกนรกเหมือนในอดีตอีกแล้ว
เราปิดบังความลับนี้มาตลอดเป็นปีๆจนถึงตอนนี้ แต่ผลกระทบมันมาตกที่เรา จิตใจเราบอบช้ำที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับพ่อและเห็นเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆเกือบทุกคืน ถ้าเลือกได้เราขอไม่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ยังจะดีกว่า บางครั้งเราได้ยินเสียงพ่อไขกุญแจเปิดลิ้นชักเราก็มีแต่ความหวาดระแวง จนเราเกลียดเสียงเปิดลิ้นชักของพ่อไปเลย เรามองพ่อไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถึงภายนอกจะดูเหมือนเดิมแต่ความเคารพนับถือภายในมันแทบไม่เหลือ ทุกครั้งที่พ่อเล่าเรื่องธรรมะ การใช้ชีวิต หรือวิจารณ์คนโน้นคนนี้ เรารู้สึกไม่อินจนอยากจะเดินหนี เพราะเรารู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไง
ขอโทษที่ยาวไปนิด ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านจนจบนะคะ เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้กับพ่อเลย เคยพยายามมองเขาในแง่ดีกับเรื่องอื่นๆ แต่พอเรามาเห็นพฤติกรรมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันทำใจปล่อยวางได้ยากจริงๆ เราอยากถามเพื่อนๆว่าเราควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะหรือเพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์คล้ายๆกันมาแชร์กันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ