เทพ”แจงเหตุเชียร์“สกลธี ” เชื่อนโยบายหาเสียงหลายเรื่องทำได้จริง ทำเศรษฐกิจกทม-ประเทศดีขึ้นแน่ บอกไม่อยากให้คนใน“ระบอบทักษิณ”ได้เพราะอาจจะมาสร้างรากฐานการเมืองรองรับการกลับมา
12 พฤษภคม 2565 เฟสบุ๊คส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)”ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 28
นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้บรรยากาศในกรุงเทพฯก็ตื่นเต้นคึกคักมาก เพราะเหลือเวลาอีก10 วัน ก็จะเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ จริงๆแล้ว ไม่ใช่เป็นความสนใจเฉพาะชาวกรุงเทพฯ แต่เป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศ ติดตามสนใจ เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองสำหรับทุกคน ชาวต่างจังหวัด อย่างตนก็ได้อาศัยมาทำงานที่กรุงเทพฯ มาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯเพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่ในประเทศ ต่างก็พากันลุ้นว่าผู้ว่ากทม.ฯคนใหม่ จะเป็นใครซึ่งก็ต้องติดตามกัน แต่ก็มีเพื่อนฝูง คนที่เคารพนับถือจำนวนมาก เห็นว่าเชียร์ นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครเบอร์ 3 ได้ติดต่อสอบถามมาว่า มีเหตุผลอะไร ที่ตนเอาจริงเอาจัง ในการสนับสนุน นายสกลธี ก็ขอถือโอกกาสบอกว่า มีเหตุผลสำคัญหลายประการ ที่เห็นว่า นายสกลธี เหมาะสม ที่จะเป็น ผู้ว่ากทม.คนใหม่มากกว่าคนอื่นๆ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เรื่องแรกคือ เรื่องนโยบาย เราเคยเห็นการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ฯมาหลายยุคหลายสมัย มีคนโฆษณานโยบายดีๆ สวยหรูมากมาย แต่มีคนทำจริงน้อย นโยบายของนายสกลธี เท่าที่ติดตามมา ไม่ได้สวยหรู เลอเลิศ อะไรมากมาย แต่เป็นนโยบายที่สมควรจะนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง เช่นเรื่องแรก ที่ประกาศว่าจะทำให้คนกรุงเทพ มีชีวิตที่มีความสุข มีชีวิตที่ดีขึ้น อันนี้ตรงจุดเลย เราจะเลือกผู้ว่ากทม.ไปทำไม ถ้าไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น หรือชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นขึ้น การที่คนกทม.จะมีชีวิตที่ดีขึ้นมีความสุขขึ้น ต้องทำให้สิ่งแวดล้อมดี คนกรุงเทพฯมีงานทำ มีรายได้ไปไหนมาไหนสะดวกมีสุขภาพอนามัยดี ลูกหลานเรียนหนังสือดี มีอนาคต
"ไปดูนโยบายของนายสกลธี เขาชัดเจน เรียบง่าย และเชื่อว่าทำได้ เช่นนโยบายทางด้านการศึกษา ที่บอกว่าจะทำโรงเรียนใกล้บ้าน ให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกันทุกแห่ง ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ สอน 2 - 3 ภาษา เตรียมคนกรุงเทพไว้เป็นคนอินเตอร์ในอนาคต เมื่อดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันต้องการความจริงจัง ที่สำคัญมีการพูดเรื่องโภชนาการของนักเรียน เด็กนักเรียนอยู่ในวัยเจริญเติบโต ไม่ได้กินข้าวที่บ้านกับพ่อแม่ ไปโรงเรียนกินข้าวที่โรงเรียน เขาต้องได้รับอาหารที่ดีมีคุณค่า ร่างกายเขาก็จะเจริญเติบโต ต้องปรับปรุงหลักสูตรที่ทำให้เขาพร้อมที่จะออกไปสู้ชีวิต เป็นคนดี มีอนาคต"นายสุเทพ กล่าว
https://www.naewna.com/politic/653145 
สุเทพเททือกเชียร์เบอร3เหรอ
12 พฤษภคม 2565 เฟสบุ๊คส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)”ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 28
นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้บรรยากาศในกรุงเทพฯก็ตื่นเต้นคึกคักมาก เพราะเหลือเวลาอีก10 วัน ก็จะเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ จริงๆแล้ว ไม่ใช่เป็นความสนใจเฉพาะชาวกรุงเทพฯ แต่เป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศ ติดตามสนใจ เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองสำหรับทุกคน ชาวต่างจังหวัด อย่างตนก็ได้อาศัยมาทำงานที่กรุงเทพฯ มาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯเพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่ในประเทศ ต่างก็พากันลุ้นว่าผู้ว่ากทม.ฯคนใหม่ จะเป็นใครซึ่งก็ต้องติดตามกัน แต่ก็มีเพื่อนฝูง คนที่เคารพนับถือจำนวนมาก เห็นว่าเชียร์ นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครเบอร์ 3 ได้ติดต่อสอบถามมาว่า มีเหตุผลอะไร ที่ตนเอาจริงเอาจัง ในการสนับสนุน นายสกลธี ก็ขอถือโอกกาสบอกว่า มีเหตุผลสำคัญหลายประการ ที่เห็นว่า นายสกลธี เหมาะสม ที่จะเป็น ผู้ว่ากทม.คนใหม่มากกว่าคนอื่นๆ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เรื่องแรกคือ เรื่องนโยบาย เราเคยเห็นการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ฯมาหลายยุคหลายสมัย มีคนโฆษณานโยบายดีๆ สวยหรูมากมาย แต่มีคนทำจริงน้อย นโยบายของนายสกลธี เท่าที่ติดตามมา ไม่ได้สวยหรู เลอเลิศ อะไรมากมาย แต่เป็นนโยบายที่สมควรจะนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง เช่นเรื่องแรก ที่ประกาศว่าจะทำให้คนกรุงเทพ มีชีวิตที่มีความสุข มีชีวิตที่ดีขึ้น อันนี้ตรงจุดเลย เราจะเลือกผู้ว่ากทม.ไปทำไม ถ้าไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น หรือชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นขึ้น การที่คนกทม.จะมีชีวิตที่ดีขึ้นมีความสุขขึ้น ต้องทำให้สิ่งแวดล้อมดี คนกรุงเทพฯมีงานทำ มีรายได้ไปไหนมาไหนสะดวกมีสุขภาพอนามัยดี ลูกหลานเรียนหนังสือดี มีอนาคต
"ไปดูนโยบายของนายสกลธี เขาชัดเจน เรียบง่าย และเชื่อว่าทำได้ เช่นนโยบายทางด้านการศึกษา ที่บอกว่าจะทำโรงเรียนใกล้บ้าน ให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกันทุกแห่ง ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ สอน 2 - 3 ภาษา เตรียมคนกรุงเทพไว้เป็นคนอินเตอร์ในอนาคต เมื่อดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันต้องการความจริงจัง ที่สำคัญมีการพูดเรื่องโภชนาการของนักเรียน เด็กนักเรียนอยู่ในวัยเจริญเติบโต ไม่ได้กินข้าวที่บ้านกับพ่อแม่ ไปโรงเรียนกินข้าวที่โรงเรียน เขาต้องได้รับอาหารที่ดีมีคุณค่า ร่างกายเขาก็จะเจริญเติบโต ต้องปรับปรุงหลักสูตรที่ทำให้เขาพร้อมที่จะออกไปสู้ชีวิต เป็นคนดี มีอนาคต"นายสุเทพ กล่าว
https://www.naewna.com/politic/653145