สวัสดีค่ะ จขกท ขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆทั้งสิ้น แค่อยากระบายให้ผู้อ่านได้ฟังว่าเคยเจอเหมือน จขกท ไหม
เรื่องมีอยู่ว่า ตัวเราแต่งงานกับสามีและมีลูกด้วยกัน 2 คน ครอบครัวเราคือลงตัวหมดทุกอย่าง ลูกคนโต 5 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบค่ะ แต่ตัว จขกทเอง ได้มีโอกาสเจอเพื่อนคนนึงซึ่งเขาย้ายบ้านมาอยู่ใกล้บ้าน จขกท ในระแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้ใกล้มากนะคะ ขอบอกว่าสมัยก่อน จขกท ยังไม่ได้มาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกประจำนะคะ เราทำงานบริษัท ก็มีเวลาไปปาร์ตี้หรือพบปะสังสรรค์เพื่อนๆมากมายตามปกติ เพื่อคอนเนคชั่น ซึ่งตอนนี้ จขกท ได้ออกจากงานประจำแล้วมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ส่วนเพื่อน จขกท คนนี้ก็รู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี แต่ตัวเขานั้นก็พยายามดึงเราออกไปข้างนอกแบบไม่เว้นวันไม่เว้นสัปดาห์ อย่างเช่น ชวนออกไปดื่มบ้าง ซึ่งเราก็บอกปฏิเสธไปทุกครั้งว่าไม่มีคนดูแลลูก แต่เพื่อนคนนี้ก็ยังพยายามที่จะให้เราไปให้ได้ ด้วยการยื่นข้อเสนอต่างๆมากมาย อย่างเช่น ถ้าไม่ออกไปดื่มนอกบ้าน ก็ไปดื่มที่บ้านเขา เดี๋ยวจะวานให้แม่บ้านช่วยดูแลลูกเราให้
**** ขอบอกก่อนนะคะว่า เพื่อนเรามีลูกแล้ว 2 คนเช่นกันค่ะ แต่เพื่อนหย่าขาดกับสามีแล้วค่ะ ลูกของเพื่อนอายุเท่าลูกของ จขกท เลยค่ะ คนโต 5 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ ซึ่งบางทีเราสงสารเพื่อนค่ะ ด้วยความหวังดีคิดว่าเพื่อนคงไม่มีใคร ก็ไปบ้าง ไม่ไปบ้างแล้วแต่โอกาส แต่มันหนักเข้าเรื่อยๆ ถึงขนาดว่า ถ้าเราไม่ไป เพราะไม่มีคนดูลูก เขาก็ยื่นขอเสนอเดี๋ยวจะให้แม่บ้านเอาลูกเขามาเล่นกับลูกเราที่บ้านนะ เพื่อให้เราออกไปข้างนอกกับเขาหรือออกไปดื่มกับเขา โดยที่ลูกๆอยู่กับแม่บ้านเขาที่บ้านเรา ซึ่งเราก็ปฏิเสธไปว่าถ้าสามีมาเห็นลักษณะแบบนี้ มีหวังบ้านแตกแน่ๆ หรืออย่างเช่น ตัวเขาอยากไป ตปท ก็จะโทรมาหาเรา มาชวนเราสารพัด แต่ต้องไปแค่เรากับเขาเท่านั้นนะคะ ไม่เอาลูกๆไป ซึ่งเราก็ปฏิเสธ เพื่อนคนนี้ก็ยังคงยื่นข้อเสนอให้เราอีก โดยเขาจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน แล้วให้เราผ่อนจ่ายเขาทีหลัง ซึ่งความจริง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินเลย จะให้เราทิ้งลูกไว้แล้วไป ตปท สามีคงไม่ยอมแน่ๆ เพราะต้องเสียงานลาพักร้อนมาดูลูกแทนเรา แล้ว จขกท เองก็คงทำไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายเราก็ปฏิเสธไป จนเขาตื้อให้เราเอาลูกไปให้คุณพ่อคุณแม่เราเลี้ยง เราก็ปฏิเสธเขาไปอีก อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า เพื่อนของ จขกท ทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ ซึ่ง จขกท ก็แปลกใจว่าทำไมไม่ดูแลเรื่องงานให้เรียบร้อยก่อน เพราะพอถึงเวลาที่เพื่อนจะไป ตปท จริงๆ ไม่มีใครดูแลธุรกิจให้แทนนางชั่วคราว นางเลยไลน์มาบอกให้เราไปช่วยดูแลแทน ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเราไปให้ไม่ได้แน่นอน เพราะเราติดลูกๆ
**** ขออนุญาติข้ามกลับไปก่อนเรื่องเพื่อนไป ตปท นะคะ พอเขาชวนเราออกไปข้างนอกไม่ได้ คราวนี้ชวนออกไปทำงาน Part-Time ด้วยกันค่ะ ทั้งๆที่เพื่อนของ จขกท ไม่มีปัญหาเรื่องเงินนะคะ ก็ทำการไปสมัครงานที่ห้างบ้าง เป็นเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์บ้าง แคชเชียร์ที่ร้านอาหารบ้าง แต่ในทุกๆงาน ต้องมาตามตื้อให้ จขกท ไปทำงานด้วยเป็นเพื่อนกัน เวลาเข้างานต้องเข้างานพร้อมกัน กลับบ้านก็ขับรถกลับด้วยกัน ซึ่งเราไม่สะดวกใจมากๆ และก็ไม่เคยคิดจะทำด้วยค่ะ อารมณ์เพื่อนประมาณว่า ว่างๆ อยากหาอะไรทำไปพลางๆ แต่เอาเราไปเป็นเพื่อนทำงานด้วย ซึ่งเราก็ปฏิเสธค่ะ ถึงแม้ว่าเงินก็เป็นส่วนหนึ่งในการเลือกอยากทำงานสำหรับเรานะ ชีวิตแม่บ้าน บางทีก็อยากใช้เงินของตัวเองโดยไม่เดือดร้อนสามี แต่เรื่องลูกและครอบครัวสำหรับเราก็สำคัญกว่า คือเราไม่อยากบกพร่องเรื่องภายในครอบครัวเลย เพราะตอนที่ปรึกษาเรื่องงานกับสามี สามีเราเองก็ไม่ให้ทำค่ะ เพราะรายได้สามีเองก็ซัพพอร์ตครอบครัวได้โดยที่ไม่เดือดร้อน สามีจึงไม่เห็นด้วยในการไปทำงาน Part Time โดยเฉพาะ ถ้าลูกเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมา ก็ต้องลางานกระทันหัน เสียงานอีกค่ะ
**** จนล่าสุด เพื่อนของ จขกท คนนี้โทรมาชวนเรากับลูกๆไปเล่นสวนน้ำกับลูกของเขา ซึ่งวันนั้นเป็นวันเสาร์ เรามีนัดกับแม่บ้านที่เลี้ยงลูกอีกกลุ่มนึงไว้เช่นกันแต่คนละสถานที่ เราก็เลยบอกเขาให้มาที่ห้างสรรพสินค้าย่านนี้เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับคนอีกหลายๆคน และลูกๆจะได้มีเพื่อนเล่นเยอะๆด้วย เพื่อน จขกท ตอบกลับมาว่า ไม่สะดวก เพราะดูแล้วค่อนข้างไกล แล้วก็ถาม จขกท ต่อว่าถ้าเป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เอาลูกๆเราไปเล่นสวนน้ำกันดีไหม แล้วเราไปเดินชอปปิ้งกัน มีแม่บ้านเราดูแลเด็กๆให้ ไม่มีปัญหาหรอก ซึ่งเราบอกว่าไม่ได้ค่ะ ลูกเราซนมาก คลาดสายตาไม่ได้ค่ะ เพื่อนก็ยังคงตื้อต่อไป "ไม่เป็นไรหรอก แม่บ้านเราดูได้" แต่เดี๋ยวนะ แม่บ้านคนเดียวนะคะ ลูกเรา 2 คน ลูกเพื่อนเราอีก 2 คน รวมกันเป็น 4 คน สรุป แม่บ้าน 1 คน กับเด็ก 4 คน จะดูยังไงคะ แล้วให้เราไปเดินชอปปิ้งกับคุณนี่นะ เขาก็ตื้อต่อว่า ถ้าไม่สบายใจ เราไปฟิตเน็ตกันก็ได้ ฟิตเน็ตอยู่ชั้นบนติดกับสระว่ายน้ำ ถ้าไม่สบายใจ มองลงมาก็เห็นเด็กๆ เล่นน้ำอยู่ เดี๋ยวนะ ฮัลโหล..... ถ้าลูกเราจมน้ำแล้วคือให้ดิฉันวิ่งลงมาจากฟิตเน็ตนี่นะ คงไม่ทันแล้วแบบนี้ แล้วเพื่อนก็ตอบกลับมาอีกว่า แต่น้ำตรงสระเด็กไม่ลึกนะ แต่ในใจ จขกท คือคิดแล้วว่า (ไม่ว่าจะลึกหรือไม่ลึกยังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทิ้งลูกไว้กับน้ำแล้วเราก็ไปธุระของตัวเอง) แต่ จขกท ไม่ได้พูดประโยคนั้นออกไปนะคะด้วยความให้เกียรติ แต่ก็ปฏิเสธไปว่า ไปไม่ได้ เด็กๆมีเรียนพิเศษ เพื่อน จขกท ก็ตอบกลับว่า ก็ให้มาเล่นน้ำก่อนเวลา จนถึงไปเรียนพิเศษแล้วค่อยไป
ซึ่งความเป็นจริงคือ เด็กๆว่ายน้ำก็เหนื่อยแล้ว ต่อด้วยเรียนพิเศษอีก แล้วเด็กๆเวลาเล่นน้ำก็คือคุณพ่อคุณแม่จะรู้อยู่แล้วว่าเด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน ถ้าได้เล่นแล้วออกยาก ซึ่งทุกๆวันอาทิตย์ลูกเรามีเรียนพิเศษประจำอยู่แล้ว เลยต่อรองเพื่อนว่า อาทิตย์หน้าได้ไหม เพื่อนบอกไม่ได้ เพราะนางต้องทำงาน ดูแลธุรกิจ
*** บอกตรงๆค่ะว่า ใจจริงลึกๆแล้วก็สงสารเพื่อนมากค่ะ ที่เขาไม่มีใคร แต่ จขกท เองก็ลำบากใจทุกครั้งเหมือนกับว่าเขากำลังผลักดันอะไรบางอย่างมาให้ จขกท ตลอด แม้ว่าสิ่งๆนั้น จขกท จะไม่สามารถทำตามที่เขาขอได้ เขาก็จะหาข้ออื่นๆ มาให้ จขกท เป็นการแลกเปลี่ยนให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ มีใครคนไหนมีเพื่อนแบบ จขกท บ้างคะ มาแชร์ประสบการ์ณให้ฟังกันหน่อยนะ หรือมีอะไรแนะนำ จขกท เพิ่มเติม ก็บอกได้เลยนะคะ สำหรับตัว จขกท แล้ว เป็นการยากมากค่ะ ที่จะเลี่ยงเพื่อนคนนี้ เพราะอยู่บ้านใกล้ๆกันค่ะ เห็นกันเป็นประจำทุกวัน
เคยไหม...มีเพื่อนขี้เหงามากๆ จนเราลำบากใจเอง
เรื่องมีอยู่ว่า ตัวเราแต่งงานกับสามีและมีลูกด้วยกัน 2 คน ครอบครัวเราคือลงตัวหมดทุกอย่าง ลูกคนโต 5 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบค่ะ แต่ตัว จขกทเอง ได้มีโอกาสเจอเพื่อนคนนึงซึ่งเขาย้ายบ้านมาอยู่ใกล้บ้าน จขกท ในระแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้ใกล้มากนะคะ ขอบอกว่าสมัยก่อน จขกท ยังไม่ได้มาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกประจำนะคะ เราทำงานบริษัท ก็มีเวลาไปปาร์ตี้หรือพบปะสังสรรค์เพื่อนๆมากมายตามปกติ เพื่อคอนเนคชั่น ซึ่งตอนนี้ จขกท ได้ออกจากงานประจำแล้วมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ส่วนเพื่อน จขกท คนนี้ก็รู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี แต่ตัวเขานั้นก็พยายามดึงเราออกไปข้างนอกแบบไม่เว้นวันไม่เว้นสัปดาห์ อย่างเช่น ชวนออกไปดื่มบ้าง ซึ่งเราก็บอกปฏิเสธไปทุกครั้งว่าไม่มีคนดูแลลูก แต่เพื่อนคนนี้ก็ยังพยายามที่จะให้เราไปให้ได้ ด้วยการยื่นข้อเสนอต่างๆมากมาย อย่างเช่น ถ้าไม่ออกไปดื่มนอกบ้าน ก็ไปดื่มที่บ้านเขา เดี๋ยวจะวานให้แม่บ้านช่วยดูแลลูกเราให้
**** ขอบอกก่อนนะคะว่า เพื่อนเรามีลูกแล้ว 2 คนเช่นกันค่ะ แต่เพื่อนหย่าขาดกับสามีแล้วค่ะ ลูกของเพื่อนอายุเท่าลูกของ จขกท เลยค่ะ คนโต 5 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ ซึ่งบางทีเราสงสารเพื่อนค่ะ ด้วยความหวังดีคิดว่าเพื่อนคงไม่มีใคร ก็ไปบ้าง ไม่ไปบ้างแล้วแต่โอกาส แต่มันหนักเข้าเรื่อยๆ ถึงขนาดว่า ถ้าเราไม่ไป เพราะไม่มีคนดูลูก เขาก็ยื่นขอเสนอเดี๋ยวจะให้แม่บ้านเอาลูกเขามาเล่นกับลูกเราที่บ้านนะ เพื่อให้เราออกไปข้างนอกกับเขาหรือออกไปดื่มกับเขา โดยที่ลูกๆอยู่กับแม่บ้านเขาที่บ้านเรา ซึ่งเราก็ปฏิเสธไปว่าถ้าสามีมาเห็นลักษณะแบบนี้ มีหวังบ้านแตกแน่ๆ หรืออย่างเช่น ตัวเขาอยากไป ตปท ก็จะโทรมาหาเรา มาชวนเราสารพัด แต่ต้องไปแค่เรากับเขาเท่านั้นนะคะ ไม่เอาลูกๆไป ซึ่งเราก็ปฏิเสธ เพื่อนคนนี้ก็ยังคงยื่นข้อเสนอให้เราอีก โดยเขาจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน แล้วให้เราผ่อนจ่ายเขาทีหลัง ซึ่งความจริง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินเลย จะให้เราทิ้งลูกไว้แล้วไป ตปท สามีคงไม่ยอมแน่ๆ เพราะต้องเสียงานลาพักร้อนมาดูลูกแทนเรา แล้ว จขกท เองก็คงทำไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายเราก็ปฏิเสธไป จนเขาตื้อให้เราเอาลูกไปให้คุณพ่อคุณแม่เราเลี้ยง เราก็ปฏิเสธเขาไปอีก อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า เพื่อนของ จขกท ทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ ซึ่ง จขกท ก็แปลกใจว่าทำไมไม่ดูแลเรื่องงานให้เรียบร้อยก่อน เพราะพอถึงเวลาที่เพื่อนจะไป ตปท จริงๆ ไม่มีใครดูแลธุรกิจให้แทนนางชั่วคราว นางเลยไลน์มาบอกให้เราไปช่วยดูแลแทน ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเราไปให้ไม่ได้แน่นอน เพราะเราติดลูกๆ
**** ขออนุญาติข้ามกลับไปก่อนเรื่องเพื่อนไป ตปท นะคะ พอเขาชวนเราออกไปข้างนอกไม่ได้ คราวนี้ชวนออกไปทำงาน Part-Time ด้วยกันค่ะ ทั้งๆที่เพื่อนของ จขกท ไม่มีปัญหาเรื่องเงินนะคะ ก็ทำการไปสมัครงานที่ห้างบ้าง เป็นเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์บ้าง แคชเชียร์ที่ร้านอาหารบ้าง แต่ในทุกๆงาน ต้องมาตามตื้อให้ จขกท ไปทำงานด้วยเป็นเพื่อนกัน เวลาเข้างานต้องเข้างานพร้อมกัน กลับบ้านก็ขับรถกลับด้วยกัน ซึ่งเราไม่สะดวกใจมากๆ และก็ไม่เคยคิดจะทำด้วยค่ะ อารมณ์เพื่อนประมาณว่า ว่างๆ อยากหาอะไรทำไปพลางๆ แต่เอาเราไปเป็นเพื่อนทำงานด้วย ซึ่งเราก็ปฏิเสธค่ะ ถึงแม้ว่าเงินก็เป็นส่วนหนึ่งในการเลือกอยากทำงานสำหรับเรานะ ชีวิตแม่บ้าน บางทีก็อยากใช้เงินของตัวเองโดยไม่เดือดร้อนสามี แต่เรื่องลูกและครอบครัวสำหรับเราก็สำคัญกว่า คือเราไม่อยากบกพร่องเรื่องภายในครอบครัวเลย เพราะตอนที่ปรึกษาเรื่องงานกับสามี สามีเราเองก็ไม่ให้ทำค่ะ เพราะรายได้สามีเองก็ซัพพอร์ตครอบครัวได้โดยที่ไม่เดือดร้อน สามีจึงไม่เห็นด้วยในการไปทำงาน Part Time โดยเฉพาะ ถ้าลูกเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมา ก็ต้องลางานกระทันหัน เสียงานอีกค่ะ
**** จนล่าสุด เพื่อนของ จขกท คนนี้โทรมาชวนเรากับลูกๆไปเล่นสวนน้ำกับลูกของเขา ซึ่งวันนั้นเป็นวันเสาร์ เรามีนัดกับแม่บ้านที่เลี้ยงลูกอีกกลุ่มนึงไว้เช่นกันแต่คนละสถานที่ เราก็เลยบอกเขาให้มาที่ห้างสรรพสินค้าย่านนี้เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับคนอีกหลายๆคน และลูกๆจะได้มีเพื่อนเล่นเยอะๆด้วย เพื่อน จขกท ตอบกลับมาว่า ไม่สะดวก เพราะดูแล้วค่อนข้างไกล แล้วก็ถาม จขกท ต่อว่าถ้าเป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เอาลูกๆเราไปเล่นสวนน้ำกันดีไหม แล้วเราไปเดินชอปปิ้งกัน มีแม่บ้านเราดูแลเด็กๆให้ ไม่มีปัญหาหรอก ซึ่งเราบอกว่าไม่ได้ค่ะ ลูกเราซนมาก คลาดสายตาไม่ได้ค่ะ เพื่อนก็ยังคงตื้อต่อไป "ไม่เป็นไรหรอก แม่บ้านเราดูได้" แต่เดี๋ยวนะ แม่บ้านคนเดียวนะคะ ลูกเรา 2 คน ลูกเพื่อนเราอีก 2 คน รวมกันเป็น 4 คน สรุป แม่บ้าน 1 คน กับเด็ก 4 คน จะดูยังไงคะ แล้วให้เราไปเดินชอปปิ้งกับคุณนี่นะ เขาก็ตื้อต่อว่า ถ้าไม่สบายใจ เราไปฟิตเน็ตกันก็ได้ ฟิตเน็ตอยู่ชั้นบนติดกับสระว่ายน้ำ ถ้าไม่สบายใจ มองลงมาก็เห็นเด็กๆ เล่นน้ำอยู่ เดี๋ยวนะ ฮัลโหล..... ถ้าลูกเราจมน้ำแล้วคือให้ดิฉันวิ่งลงมาจากฟิตเน็ตนี่นะ คงไม่ทันแล้วแบบนี้ แล้วเพื่อนก็ตอบกลับมาอีกว่า แต่น้ำตรงสระเด็กไม่ลึกนะ แต่ในใจ จขกท คือคิดแล้วว่า (ไม่ว่าจะลึกหรือไม่ลึกยังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทิ้งลูกไว้กับน้ำแล้วเราก็ไปธุระของตัวเอง) แต่ จขกท ไม่ได้พูดประโยคนั้นออกไปนะคะด้วยความให้เกียรติ แต่ก็ปฏิเสธไปว่า ไปไม่ได้ เด็กๆมีเรียนพิเศษ เพื่อน จขกท ก็ตอบกลับว่า ก็ให้มาเล่นน้ำก่อนเวลา จนถึงไปเรียนพิเศษแล้วค่อยไป
ซึ่งความเป็นจริงคือ เด็กๆว่ายน้ำก็เหนื่อยแล้ว ต่อด้วยเรียนพิเศษอีก แล้วเด็กๆเวลาเล่นน้ำก็คือคุณพ่อคุณแม่จะรู้อยู่แล้วว่าเด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน ถ้าได้เล่นแล้วออกยาก ซึ่งทุกๆวันอาทิตย์ลูกเรามีเรียนพิเศษประจำอยู่แล้ว เลยต่อรองเพื่อนว่า อาทิตย์หน้าได้ไหม เพื่อนบอกไม่ได้ เพราะนางต้องทำงาน ดูแลธุรกิจ
*** บอกตรงๆค่ะว่า ใจจริงลึกๆแล้วก็สงสารเพื่อนมากค่ะ ที่เขาไม่มีใคร แต่ จขกท เองก็ลำบากใจทุกครั้งเหมือนกับว่าเขากำลังผลักดันอะไรบางอย่างมาให้ จขกท ตลอด แม้ว่าสิ่งๆนั้น จขกท จะไม่สามารถทำตามที่เขาขอได้ เขาก็จะหาข้ออื่นๆ มาให้ จขกท เป็นการแลกเปลี่ยนให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ มีใครคนไหนมีเพื่อนแบบ จขกท บ้างคะ มาแชร์ประสบการ์ณให้ฟังกันหน่อยนะ หรือมีอะไรแนะนำ จขกท เพิ่มเติม ก็บอกได้เลยนะคะ สำหรับตัว จขกท แล้ว เป็นการยากมากค่ะ ที่จะเลี่ยงเพื่อนคนนี้ เพราะอยู่บ้านใกล้ๆกันค่ะ เห็นกันเป็นประจำทุกวัน