ส่งเอกสาร
- ผลตรวจ RT-PCR พบเชื้อ
- ใบเสร็จจากโรงแรม รอยัลรัตนโกสินทร์ (Hospitel ในเครือโรงพยาบาลปิยะเวท)
- ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาลปิยะเวท (ระบุว่าเป็นผู้ป่วยใน)
รายละเอียดตามนี้ค่ะ
#รีวิวเคลมประกันแต่ไม่ได้สินไหม ของ ไทยประกันชีวิต
เพราะอะไรมาอ่านกันค่ะ
4 เมษายน 7.30 น. ตรวจ ATK ด้วยตนเองติดเชื้อ (2 ขีด)
4 เมษายน 9.30 น. เข้าตรวจ RT-PCR โรงพยาบาลปิยะเวท ให้รอผลที่บ้าน สำรองจ่าย 2,500 บาท
4 เมษายน 10.30 เข้าบ้านไม่ได้ ตัดสินใจเข้าพักเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ที่โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ (Hospitel ในเครือโรงพยาบปิยะเวท) เพื่อรอผลตรวจ (จะให้ไปรอที่ไหน) สำรองจ่าย 2,000 บาท
4 เมษายน 21.00 โรงพยาบาลปิยะเวทโทรมาแจ้งผลตรวจ RT-PCR ยังไม่ได้บอกว่าให้ไปที่ไหน
5 เมษายน 8.00 แจ้งทางโรงแรมรอยัลฯ ว่าติดเชื้อ ส่งผล RT-PCR ให้ Hospitel ตรวจสอบ ยอมรับเข้าฮอสพิเทล สำรองเงินจ่าย 19,600 บาท
5 เมษายน 14.00 โรงพยาบาลปิยะเวทโทรมาแจ้งเรื่องต้องเข้ามาตรวจสอบสิทธิเพื่อรักษาและจะส่งตัวไปฮอสพิเทลอีกที่ (ไปทำไมกูนอนอยู่ฮอสพิเทลสะดวกสบายอยู่แล้ว) แล้วจะให้ร่อนเอาเชื้อไปแพร่ที่ไหนอีก
5-13 รักษาตัวในฮอสพิเทลจนแพทย์มีดุลยพินิจให้สิ้นสุดการรักษากลับบ้านได้ ได้รับใบรับรองแพทย์ว่าเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลปิยะเวท ตั้งแต่วันที่ 5-13 เมษายน ได้รับใบเสร็จจาก Hospital ว่าสำรองจ่ายค่า Hospital 19,600 บาท
ส่งเรื่องเคลมทั้งค่าตรวจ RT-PCR ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน เอกสารครบถ้วนแต่ไทยประกันชีวิต ไม่อนุมัติ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน อนุมัติเฉพาะค่าตรวจ RT-PCR 2,500 + 7 (ดอกเบี้ย) เป็น 2507 บาท
เหตุที่ไม่ได้ค่ารักษาพยาบาลทางสินไหมแจ้งว่าในใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุว่ามีเหตุจำเป็นทางการแพทย์ให้เป็นผู้ป่วยใน (แต่ในใบรับรองแพทย์ระบุเป็นผู้ป่วยในไปแล้ว)
เหตุที่ไม่ได้รับค่าชดเชยรายวันทางสินไหมแจ้งว่า หากไม่เข้าเกณฑ์ 5 ข้อของกระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุมัติแม้จะเป็นผู้ป่วยใน
บริษัทไทยประกันชีวิตถึงไม่เคลมค่ารักษาและค่าชดเชยรายวัน ในกรณีติดเชื้อ Covid-19 ใบรับรองแพทย์เป็นผู้ป่วยใน
- ผลตรวจ RT-PCR พบเชื้อ
- ใบเสร็จจากโรงแรม รอยัลรัตนโกสินทร์ (Hospitel ในเครือโรงพยาบาลปิยะเวท)
- ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาลปิยะเวท (ระบุว่าเป็นผู้ป่วยใน)
รายละเอียดตามนี้ค่ะ
#รีวิวเคลมประกันแต่ไม่ได้สินไหม ของ ไทยประกันชีวิต
เพราะอะไรมาอ่านกันค่ะ
4 เมษายน 7.30 น. ตรวจ ATK ด้วยตนเองติดเชื้อ (2 ขีด)
4 เมษายน 9.30 น. เข้าตรวจ RT-PCR โรงพยาบาลปิยะเวท ให้รอผลที่บ้าน สำรองจ่าย 2,500 บาท
4 เมษายน 10.30 เข้าบ้านไม่ได้ ตัดสินใจเข้าพักเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ที่โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์ (Hospitel ในเครือโรงพยาบปิยะเวท) เพื่อรอผลตรวจ (จะให้ไปรอที่ไหน) สำรองจ่าย 2,000 บาท
4 เมษายน 21.00 โรงพยาบาลปิยะเวทโทรมาแจ้งผลตรวจ RT-PCR ยังไม่ได้บอกว่าให้ไปที่ไหน
5 เมษายน 8.00 แจ้งทางโรงแรมรอยัลฯ ว่าติดเชื้อ ส่งผล RT-PCR ให้ Hospitel ตรวจสอบ ยอมรับเข้าฮอสพิเทล สำรองเงินจ่าย 19,600 บาท
5 เมษายน 14.00 โรงพยาบาลปิยะเวทโทรมาแจ้งเรื่องต้องเข้ามาตรวจสอบสิทธิเพื่อรักษาและจะส่งตัวไปฮอสพิเทลอีกที่ (ไปทำไมกูนอนอยู่ฮอสพิเทลสะดวกสบายอยู่แล้ว) แล้วจะให้ร่อนเอาเชื้อไปแพร่ที่ไหนอีก
5-13 รักษาตัวในฮอสพิเทลจนแพทย์มีดุลยพินิจให้สิ้นสุดการรักษากลับบ้านได้ ได้รับใบรับรองแพทย์ว่าเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลปิยะเวท ตั้งแต่วันที่ 5-13 เมษายน ได้รับใบเสร็จจาก Hospital ว่าสำรองจ่ายค่า Hospital 19,600 บาท
ส่งเรื่องเคลมทั้งค่าตรวจ RT-PCR ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน เอกสารครบถ้วนแต่ไทยประกันชีวิต ไม่อนุมัติ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน อนุมัติเฉพาะค่าตรวจ RT-PCR 2,500 + 7 (ดอกเบี้ย) เป็น 2507 บาท
เหตุที่ไม่ได้ค่ารักษาพยาบาลทางสินไหมแจ้งว่าในใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุว่ามีเหตุจำเป็นทางการแพทย์ให้เป็นผู้ป่วยใน (แต่ในใบรับรองแพทย์ระบุเป็นผู้ป่วยในไปแล้ว)
เหตุที่ไม่ได้รับค่าชดเชยรายวันทางสินไหมแจ้งว่า หากไม่เข้าเกณฑ์ 5 ข้อของกระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุมัติแม้จะเป็นผู้ป่วยใน