อุทาหรณ์สำหรับคนเล่นหุ้น (เพราะความไว้ใจ)

ความจริงที่ต้องบอกกล่าว
ผมอยากจะขอเล่าความจริงในชีวิตที่ผมได้ผ่านมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต ส่งผลให้ชีวิตพลิกผันเป็นอย่างมาก เพราะความไว้เนื้อ เชื่อใจ
เรื่องมีอยู่ว่าในปลายปี 2562 ผมได้มีโอกาสไปเรียนศึกษาการเล่นหุ้นกับสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งสอนเกี่ยวกับการเล่นหุ้น ดูกราฟ ผมก้อได้เรียนจากการแนะนำของเพื่อน เมื่อผมได้เรียนก้อรู้สึกว่าพี่ท่านนี้สอนได้ดี มีการโชว์กำไรที่งดงาม สร้างแง่คิดบวก สร้างพลังบวก และมีลูกศิษย์ที่เรียนอยู่มาก
แต่เนื่องจากพอร์ตของผมในตอนนั้นมีหุ้นค้างหลายสิบตัวมากซึ่งแดงเกือบทุกตัวและตั้งแต่ปลายปี2562 หุ้นได้ลงมาตลอดๆจนในที่สุดในเดือนมีนาคม 2563 จากพอร์ตผมมีการลงทุนในหุ้นไป 14,709,738.08 บาท แต่มีขาดทุนในพอร์ต ณ ตอนนั้นอยู่ 7,875,821.42 บาท คงเหลือมูลค่าหุ้น 6,833,916.66 บาท
ณวันที่ 15/3/2563 นั้นผมเครียดมากและทนไม่ได้จากพอร์ตหุ้นที่ลดลงมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจขอให้พี่ท่านนี้ซึ่งเป็นครู อาจารย์ ในการเทรดหุ้นและเป็นเจ้าของสถานที่สอนหุ้นแห่งนี้ให้ช่วยแก้พอร์ตให้ผม พี่เขาก้อรับปากจะช่วยแก้พอร์ตให้ผม ซึ่งผมดีใจมากว่าเขาจะช่วยแก้พอร์ตให้ ซึ่งผมมีการโอนเงินไปให้เขา 2,000,000 บาทเพื่อให้เขามีพอร์ตอีกพอร์ตในการเล่นหุ้นและมีพอร์ตผมให้เขาเล่นด้วย พอร์ตผมเป็นพอร์ตที่ตัดเงินออกจากบัญชีที่ผมผูกไว้ได้เลย ซึ่งเงินจำนวนนั้นเป็นเงินที่ผมเก็บไว้ลงทุนธุจกิจและใช้หมุนเวียนธุรกิจและรายจ่ายในครอบครัว
เนื่องจากศรัทธาและเชื่อมั่นใจตัวพี่เค้า ปีนั้นผมก้อได้ลงเรียนคอร์สการเล่นหุ้นกับสถานที่แห่งนี้ด้วยทุกคอร์สที่พี่เขามีเปิดสอน
ในระหว่างนั้นพี่ท่านนี้ก้อแก้พอร์ตให้ผมไปเรื่อยๆ มีกำไรบ้างขาดทุนบ้างแต่ผลขาดทุนมากกว่ากำไร ผมได้ถามพี่เขาว่าเทรดเป็นยังไงบ้าง ผมเห็นเงินตัดออกจากบัญชีไปจึงคอยถามไถ่ตลอด เพราะแผลเก่าที่ขาดทุนมาเยอะยังฝังในใจผมอยู่ พี่เขาบอกไม่ต้องห่วงนะพอร์ตผมขาดทุนแต่มีอีกพอร์ตกำไรค้ำอยู่ไม่ต้องห่วงนะพี่ดูให้อยู่ (ซึ่งผมไม่เคยเห็นพอร์ตนั้นเลยว่ามีกำไรแค่ไหน) คำว่าไม่ต้องห่วงนะพีดูให้อยู่มันเหมือนเรามีความหวังว่าเขาจริงใจที่จะช่วยเราจริงๆ
ผมก้อเชื่อมั่นในตัวพี่เขาเพราะผมยังลงเรียนกับเขาอยู่ด้วย เขาไม่น่ามีปัญหาและโกหกอะไรผมเพราะมีนักเรียนเรียนกับเขาเยอะเขาก้อบอกให้คิดบวกอย่าคิดลบ
ในปี 2563 นั้นธุรกิจที่ผมทำอยู่ก้อย้ำแย่เนื่องจากพิษโควิด ผมจึงต้องดูแลธุรกิจเพื่อให้ดำรงอยู่ได้ ในการเล่นหุ้นผมก็ไม่ได้ติดตามมาก เพราะยังเชื่อมั่นในตัวพี่เค้าและคำพูดที่พี่เค้าคอยบอก ไม่ต้องห่วงนะพี่ดูให้อยู่ ซึ่งผมพอทราบว่าการเทรดหุ้นมีความเสี่ยงแต่พี่เขาก้อสอนเรื่องจุดเข้า จุดออก rr การวางmoney management และ การตัดขาดทุนเสมอตอนที่พี่เขาสอนนักเรียนทุกคน
สุดท้ายปรากฎว่าตั้งแต่ 15/3/2563 - 28/2/2564 ระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่พี่เค้าเทรดแก้พอร์ตให้ผม จากพอร์ตผมขาดทุนจาก 7,875,821.42 บาท กลายเป็นขาดทุน15,776,593.68 บาทซึ่งดึงเงินจากบัญชีในธุรกิจที่ผมทำออกไปเรื่อยๆ ผมก้อถามพี่เขาว่ายังไง พี่เขาก้อบอกก้อขาดทุนตามนั้น ก้อเล่นตามนั้นผมก้อเห็นบัญชีก้อมีส่งไปดูจากพอร์ตที่เล่นในบัญชีผม ซึ่งบัญชีที่พี่เขาเล่นผมไม่เห็นนะ จากการถามก้อมีการโอนเงินคืนมาให้ 650,000 บาทบอกนี่พีช่วยจากบัญชีของพี่เอง ซึ่งในระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่1/3/64-ปัจจุบัน ผ่านมาผมพยายามทวงถาม ขอความช่วยเหลือในส่วนที่ขาดทุนไปเพิ่ม เพราะยังมีความหวังอยู่ว่าพี่เค้าจะช่วยเหลือผมยังไงแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกเลย โทรไม่รับสาย แถมยังบล็อคไลน์บล็อคเฟสทุกช่องทาง
การเชื่อมั่นคนในครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตผมทันที จากขาดทุนที่แย่อยู่แล้วและดึงเงินจากธุรกิจไปขาดทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นซึ่งตัดขาดทุนไปแล้วทั้งหมด เกิดขาดทุน 15,776,593.68 บาท ผมก้อจุกและพูดไม่ออก ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อในชีวิต เพราะธุรกิจที่ผมทำอยู่ก้อแย่อยู่แล้วยิ่งมาแย่มากกว่า เงินที่จะเหลือใช้ในธุรกิจ จ่ายค่าเรียนลูก ค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว ส่งผลให้สุขภาพผมแย่ลงต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นประจำ
จากเหตุการณ์เหล่านี้จึงมาเล่าให้เพือนๆเป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าเชื่อใจคนอื่นมากจนเกินไป จะทำให้เราเดือดร้อนได้
แชร์ได้นะครับ

สามารถอ่านต่อได้ที่เฟสด้านล่างนี้เลยครับ
https://www.facebook.com/prakit.same/posts/5810164635677291
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่