กำแพง 2 ชั้นของเป๊บและอาการห่วงหน้าพะวงหลังของคล็อป


เมื่อคืนจากเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเก็บ 3 แต้มจากวิลล่าปาร์คออกมาได้ ที่ตอนแรกอาจจะคิดว่าง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเพราะดันเสียประตูเร็วไปก่อน (แต่ยังดีที่ตีเสมอได้เร็วด้วย)
จากที่คิดว่าสบายๆ ก็ไม่สบาย , คิดว่าไม่หนักก็กลายเป็นหนักไปซะยังงั้น ครึ่งหลังพอเปลี่ยนติอาโก้ลงมาได้ 3 นาที ก็ได้ประตูขึ้นนำ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะผ่อนเกมลง ทำให้ไม่สามารถโถมบุกเพื่อเอาประตูได้เสียเพิ่มมากขึ้นได้ เพราะทรงเกมก็ไม่ได้เหนือกว่าวิลล่ามากเท่าไหร่ ขืนย่ามใจบุกเพลินก็อาจถูกตีเสมอได้ นั่นก็จะเสียหายหนักเข้าไปอีก ดังนั้นหงส์แดงจึงเล่นด้วยความระมัดระวัง เอาชัวร์ไว้ก่อน กองหน้าถ้าไม่ชัวร์ก็ไม่บุก(จะมีบุกบ้างเป็นบางจังหวะ) ผิดกับทางฝั่งวิลล่า ที่ได้บอลทีถึงหน้าประตูลิเวอร์พูลและได้ลุ้นตลอด(หลังจากเปลี่ยนเอาดิอาซออก กองหน้าเราเลี้ยงกินตัวไม่มีเลย มีแต่แปะไปแปะมา โชต้าก็ติดเชื้อซาล่าห์มา เลี้ยงติดงึกๆ งักๆ ยิ่งพอซาล่าห์ลงมาก็เลย งึกๆงักๆ x2 เลย... ยิ้ม ...ฮา)

นี่คืออาการห่วงหน้าพะวงหลังจริงๆ ( 3 แต้มก็อยากได้ ,ประตูได้เสียถ้าได้ก็ยิ่งดี แต่ยังต้องเก็บตัวไว้เจอกับเชลซีในถ้วย FA อีก (ไม่รู้ฟาบินโญ่กับเกอิต้าจะเจ็บมากแค่ไหน) มันเลยทำอะไรได้ไม่สุด แต่ก็ถือว่าปีนี้ลิเวอร์พูลมาได้ไกลจริงๆ นักเตะก็ตัวเดิมๆ เทียบกับปีที่แล้วนี่เจ็บกันไปค่อนทีม ปีนี้ถือว่าคล็อปบริหารจัดการผู้เล่นได้ดีมากๆ (ได้ดิอาซมาช่วยเหมือนถูกรางวัลที่ 1 เลย นึกกลับไปหลายๆ เกมที่ผ่านมา ถ้าไม่มีดิอาซ ลิเวอร์พูลก็คงแย่กว่านี้)

ส่วนเป๊บสร้างกำแพง 2 ชั้นไว้แล้ว ถึงวันนี้ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มได้ ก็ยังแซงขึ้นที่ 1 ไม่ได้ เพราะลูกได้เสียยังตามอยู่ 3 ลูก
ใน 3 เกมสุดท้ายของเป๊บยังสามารถแพ้ได้อีก 1 เกม

ปล.ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุให้ทีมของเป๊บแพ้ไปซักเกมจริงๆ สุดท้ายแล้วคะแนนเท่ากัน แต่ลิเวอร์พูลต้องมาแพ้เพราะประตูได้เสีย มันจะเจ็บปวดยิ่งกว่าฤดูกาล 2018-2019 ที่ตามจ่าฝูงแค่แต้มเดียวหรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่