สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอเรียนแจ้งอย่างนี้นะคะ
ว่านี่เป็นการรีวิวครั้งแรก ของอิชั้นเอง ถ้าาผิดพลาดประกานใดเราต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ บางทีรุปที่รีวิวอาจจะมีไม่ครบบ้างเพราะบางมุมส่วนใหญ่จะเน้นถ่ายวิดิโอ จนลืมถ่ายภาพนิ่งไว้ด้วยบางมุม บางจุดและถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆลุงๆป้าๆตาๆยายๆ หรือมนุษย์ ย่า มนุษย์ปู่ท่านไหนที่จะติชมเราก้ยินดีและเต็มใจรับฟังนะคะ จะได้ปรับปรุงพัฒนาการรีวิวต่อไปค่ะ(แต่คิดในใจว่าคงโดนติมากกว่าชม เพราะเราพึ่งีวิวครั้งแรกไม่มั่นใจในตัวเองเลยบ่องตง)
หลังจากที่เราได้ดูรีวิวห้องฟ้ามานานมาก นานเกิน 10 กว่าปี ตั้งแต่หัดเล่นอินเตอร์เนตเป็น ตอนปี 51-52 ก้เริ่มหาข้อมูล รีวิว สินค้าก็ห้องสีฟ้านี่แหละค่ะจะไปไหนหรือซื้ออะไรทำอะไรก้เสิสจากห้องสีฟ้านี่แหละค่ะ เพราะฉนั้น อิชั้นจึงตัดสินใจมารีวิวที่พักในห้องสีฟ้ากับเขาบ้าง
แต่ที่พักที่เราจะรีวิววันนี้ น่าจะมีคนรีวิวเป็นพันคนแล้วแหละ เราไปมาหลายครั้ง ทั้งไปทานข้าว ไปเล่นน้ำ แต่เราไม่เคยรีวิว พึ่งจะว่างอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เลยลุกมาตั้งกระทู้ ไม่รู้ว่าสายเกินไปหรือป่าวน้าส์
เนื่องจาก จขกท (ตัวอิชั้นเอง)ชอบไปพักผ่อนตามรีสอร์ทและ ตจว. เอามากๆ จากมะก่อนเป็นคนชอบเที่ยวผับเที่ยวบาร์พุดง่ายๆก็สายดื่มนั้นแหละ)แต่พอเวลาผ่านไปเพื่อนฝูงสมาชิคที่เคยข้างเคียงก้แยกย้ายกันไปมีครอบครัวส่วนตัวเรายังโสดเหมือนเดิมก้เลยไปแต่กับเพื่อนคนละเพศด้วยกันเพราะยังโสดเหมือนกันเที่ยวสไตล์เดียวกัน เอาล่ะ ร่ายยาวมาเกือบร้อยบรรทัด ตามเราไปเลยละกันนะ
(ขอย้ำ ว่านี่เป้นการรีวิวครั้งแรกของอิชั้นน่ะ รุปอาจจะมีไม่ครบไม่เยอะตามสถานที่ต่างๆ) ทัวรือย่าลงล่ะ ที่บ้านเป็นแค่ทาวน์โฮม ไม่ได้มีคฤหาสถน์สำหรับจอดรถทัวร์ได้หลายคัน
เนื่องจากเราเกิดความคันจากหลังสงการนต์ เพราะช่วงสงกรานต์ ยังคิดว่าเที่ยวไม่คุ้ม
เราจึงเปิดปฎิทิน ดูวันหยุด และก็เจอวันหยุด2วันติดนั่นก็คือ วันแรงงานแห่งชาติ นั่นเอง
เราจึงเริ่มทำการจองที่พัก สำหรับ 4 ท่าน ก้ได้ห้อง ลาคาเซ็ทต้า พอโทรจองเสร็จ ชำระเงิน เสร็จ ก็รอวันเดินทาง
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน จะมี จนท.โทรมาคอนเฟริ์มกับเราอีกทีว่าพร้อมเดินทางมาพักหรือไม่
และแล้ววันที่เราจะเดินทางก็มาถึง 30/4/65 เราเดินทางกลางคืนและไปพักบ้านญาติๆที่โคราชชานเมืองก่อน ตอนเช้าเราก้ตื่นนอนมาและแวะพาคุณแม่ ไปวัดบ้านไร ที่โคราช
พอเราสักการาหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่เสร็จแล้ว
เราก้ปักหมุดมาที่ ทอสคาน่า วัลเล่ย์ ทันที เราเข้ามา ซึ่งพอมาถึงทางเข้า ก็จะมีป้ายใหญ่ๆๆ และเราก้เลี้ยวเข้ามาในทางเข้าโครงการเลยค่ะ
พอเข้ามาก็จะเจอไม้กั้นๆ พี่ๆ รปภ. ท่านก็จะถามว่า มาติดต่อเรื่องอะไรครับ พวกเราก็แจ้งท่านไปว่า มาพักที่ ลา คาเซ็ทต้าค่ะ
ซึ่งที่นี่จะมีมาตรการความปลอดภัย และมีการเข้มงวดในเรื่องของการเข้าออกอย่างเคร่งครัดนะคะ
พอเราเข้ามาเราก็วนกันอยุ่ในทอสนี่แหละค่ะ ไปตามป้าย La Casetta (ภาพนี้เราถ่ายจากในรถนะคะ เลยดุไม่ค่อยสว่าง) และวันที่ไป เป็นวันที่ฝนครึ้มๆและไม่ค่อยมีแดด
เรามาถึงที่พักประมาน 16.00 เราจองห้องพัก แบบ 4 ท่านนะคะ
ห้องที่เราได้จะเป็นโซนโรงแรม ลา คาเซ็ทต้า นะคะ
เรามาเช๊คอินกันที่นี่ค่ะ พอเช๊คอินเสร็จ จนท.ก้จะแนะนำบริเวรร้านอาหาร แผนที่ พิกัด ว่าอยุ่ตรงไหนๆๆบ้าง (แต่พอดีเรามาทานข้าวที่นี่บ่อยแล้ว ก้เลยพอทราบบ้างว่าสระน้ำ ร้านอาหารอยู่โซนไหนๆ) และก็จะมี จนท.พาเรานั่งรถกอล์ฟไปที่พัก เราจึงนั่งรถกอล์ฟไปกันส่วนสมาชิคที่มาด้วยกันก้ขับรถตามมาค่ะ
พอเข้ามาที่พักพวกเราทุกคนต้องแบกกระเป๋าและสัมภาระ ขึ้นบันไดมาอีกประมาณ 15 ขั้นนะคะ ซึ่งสูงพอควรค่ะ สำหรับคนสูงวัย (เพราะของเรามี คุณแม่มาด้วย ก็จะบอกว่าทางขึ้นห้องสูงไป) พอดีเราไม่ได้ถ่ายรูปบริเวณทางขึ้นมาฝาก เพราะเรามัวแต่ถ่ายวิดิดอกันจนลืมถ่ายภาพนิ่งทางขึ้นห้องและหน้าห้องมาฝากกัน ต้องขออภัยค่ะ
มาเริ่มกันต่อตอนเปิดเข้าห้องมาแล้วนะคะ ก็จะเจอห้องโถงใหญ่ จะเจอโต้ะทานข้าว หรือจะนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือก็แล้วแต่ละท่านค่ะ
ห้องนอนของเราจะได้วิวภูเขาและสระว่ายน้ำนะคะ
นี่คือห้องนอนชั้นล่างค่ะ เป็นเตียงใหญ่ควีนไซส์ นอนได้ 2 ท่าน
และก้นี่เป็นบริเวณทางขึ้นไปชั้น 2
ส่วนชั้นบนจะเป็นเตียงคู่ชิดกัน และมีโซฟา บริเวณหัวมุมน่าต่างด้วย ได้ฟีลที่ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะแสงไฟสลัวๆๆ
ในรูปภาพผ้าปูที่นอนอาจจะยับนะคะ เพราะเราถลกผ้าขึ้นแล้วแต่มานึกได้ทีหลังว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปจึงพยายามเก็บผ้าเข้าไปที่เดิมแต่ได้แค่นี้ค่ะ รูปเลยออกมายับแบบนี้ค่ะ
ในตู้เย็นก็จะมีมินิบาร์ให้ฟรี เฉพาะโค๊ก 2 กระป๋อง สไปร์ท 2 กระป่อง
ส่วนอย่างอื่น ถ้าอยากทานเพิ่ม ก็ชำระเงินวันเช๊คเอ้าท์ค่ะ
พวกมาม่าคัพก็มีนะคะ แต่พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปกันไว้เลย ต้องขออภัยค่ะ
ราคาก็จะประมาณนี้ค่ะ
นี่ก็เป็นบริเวณในห้องน้ำนะคะ ชักโครกที่นี่ เวลาจะกดน้ำทิ้ง เราต้องดึงขึ้นนะคะ
อ่างอาบน้ำ เราไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งอ่างอาบน้ำมา ถ่ายติดแต่สมาชิค ต้องขออภัยค่ะ
แต่ถ้าใครจะตีฟองแนะนำให้เตรียมบาทโฟทหรือบับเบิลมาเองนะคะ
ห้องน้ำที่นี่กับห้องอาบน้ำ อยู่ที่เดียวกันแต่ จะมีประตูกั้นกันระหว่างห้องอาบน้ำ กับห้องน้ำนะคะ
เผื่อใครจะทำธุระ ใครจะอาบน้ำ ตีฟอง ก็จะได้ไม่ต้องมารอกันค่ะ ที่นี่แยกกันค่ะ
ส่วนอ่างอาบน้ำกับห้องอาบน้ำก็จะแยกกันเป็นสัดส่วน มี rain shower ปกติเหมือนๆกับที่อื่นค่ะ
พวกเครื่องใช้ แปรงสีฟัน มีให้ 4 ชุด แต่หมวกอาบน้ำมีให้แค่ 2 ใบ
หวี 2 อัน
แชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ มีให้เต็มขวด
ไม่ต้องขอเพิ่มเลย
และขอบอกว่าครีมอาบน้ำ ครีมทาผิวที่นี่ หอมมาก เหมือนประมาณว่าเรากำลังมาเข้าสปา อาบน้ำแร่ แช่ช้ำนมกันเลยแหละ
ยังไม่ทันไรเลย ก็จะค่ำแล้วเราเลยไปคาเฟ่ หอเอน
วันนี้ จนทแจ้งว่า วันนี้จะเปิด พุ่งนี้เป็นวันจันทร์จะปิด เพราะคาเฟ่หอเอนจะเปิดแค่ เสาร์-อาทิตย์ ค่ะ
บรรยากาศหอเอนค่ะ
และพอได้เวลาค่ำ เราก้ไปทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหาร Club Lago ซึ่งห้องอาหารนี้ อยูใกล้ๆกับที่พัก ของเรามากที่สุดค่ะ เราจึงมาฝากท้องมื้อเย็นกันที่นี่
ส่วนห้องอาหารเช้า ทุกท่านที่พัก La Casetta ก็ต้องลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Club Lago นี้คะ
(อาหารที่นี่ ถามว่าอร่อยไหม เราก็ว่าอร่อยอยู่นะคะ เพราะสมาชิคเราทานไม่เผ็ด อาหารที่นี่ ส่วนมากจะไม่ค่อยเผ็ด)
เพราะเรามาทานอาหารที่ Club House ก็จะรสชาติไม่ค่อยเผ็ดค่ะ
ส่วนค่าเสียหายตามใบเสร็จค่ะ
ระหว่างรออาหารมาเสริพ เราก็เก็บภาพบรรยากาศกันหน่อย
พอทานอาหารเสร็จเราก็กลับไปที่พัก ไปชมเล่นน้ำหลังห้องกันต่อ
เราว่าจะเล่นน้ำ แต่ดูในสระแล้วมันมีฝุ่นเราเลยไม่ลงเล่นกัน และไฟมันมืดไปหน่อยเราทั้ง 3 จึงขึ้นห้องนอนพักผ่อนตามกาลเวลา
หลับแล้วตื่นมา ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้จร้า
และพอเช้าๆเราก้ออกไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Club Lago
ไลน์อาหารเช้าที่นี่ก็จะเป็นบุฟเฟต์ มีให้เลือกทานหลากหลายทั้งอาหารไทย และอาหารนานาชาติ
โซนอาหารจะมี 2 ชั้น ลูกค้าท่านใดที่ไม่สะดวกขึ้นบันไดที่ห้องอาหารนี้ก็มีลิฟท์ไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ
แต่เราไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งไลน์อาหารมาไห้ชม ต้องขออภัยด้วยค่ะ
พอทานอาหารเสร็จเราก็ไปว่ายน้ำกันต่อที่ สระว่ายน้ำ Club House
วันที่เราไป คืออากาศดีมาก หนาว ละอองฝนลงปอยๆ มีหมอก ไม่มีแดดทั้งวัน แต่น้ำในสระที่นี่ อุ่นมาก ลงไปแช่ โดยที่ไม่ต้องกรี้สสสแบบผีโดนข้าวสารเสกเลย น้ำอุ่นมาก อยากแช่ตัวแบบออนเซ็น ก็ยังได้ แต่ด้วยเวลามีจำกัด จึงต้องรีบว่ายรีบกลับ
(แต่ระหว่างที่พักเรากับ Club House ห่างกันประมาณ 4 กิโล น่ะ ถ้าจะมาว่ายน้ำที่นี่ต้องใช้รถค่ะ เดินมาไม่ไหวค่ะ)
แต่ถ้าใครไม่อยากขับรถ ก็โทรติดต่อที่ Lobby เขาจะมีบริการมีรถตู้คอยรับส่งให้ค่ะ
แต่ถ้าใครอยากชมบรรยากาศ ให้เช่าจักรยาน ส่วนราคาจักรยานเราไม่ได้ไปถามเพราะขี้เกียจเดินไป
ส่วนโซนที่ให้เช่าจักรยาน จะอยุ่บริเวณ ทาวสเเควร์
มีบริการให้เช่ารถกอล์ฟ 2 ชม. 500 บาท 1 วัน กี่บาทก็ไม่รู้ เราจำไม่ได้แล้ว ต้องขออภัย
และเมื่อได้เวลา พวกเราทั้ง 4 ท่าน ก็ได้ทำการเก็บสัมภาระ และไปที่ Lobby เพื่อทำการ Check out
เป็นอันว่า เรามาพักผ่อนที่นี่ เรารู้สึกว่า เวลามันเดินใวมาก เรายังว่ายน้ำไม่ครบทุกสระเลย
ยังไม่ได้ปั่นจักรยานด้วย
แต่การบริการที่นี่ถือว่า ดีเลยทีเดียว
เราขอน้ำเปล่าเพิ่ม โทรขอนู่นนี่นั่นเพิ่ม จนท.เดินเอามาให้ตามที่เราต้องการทุกอย่าง
ถ้าใครอยากพักผ่อนสุดสัปดาห์ แนะนำที่นี่เลยค่ะ Toscana Valley
เราขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
By Cr.ชะนีพาเที่ยว
[CR] Review ที่พักผ่อนเขาใหญ่ Toscana Valley
ว่านี่เป็นการรีวิวครั้งแรก ของอิชั้นเอง ถ้าาผิดพลาดประกานใดเราต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ บางทีรุปที่รีวิวอาจจะมีไม่ครบบ้างเพราะบางมุมส่วนใหญ่จะเน้นถ่ายวิดิโอ จนลืมถ่ายภาพนิ่งไว้ด้วยบางมุม บางจุดและถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆลุงๆป้าๆตาๆยายๆ หรือมนุษย์ ย่า มนุษย์ปู่ท่านไหนที่จะติชมเราก้ยินดีและเต็มใจรับฟังนะคะ จะได้ปรับปรุงพัฒนาการรีวิวต่อไปค่ะ(แต่คิดในใจว่าคงโดนติมากกว่าชม เพราะเราพึ่งีวิวครั้งแรกไม่มั่นใจในตัวเองเลยบ่องตง)
หลังจากที่เราได้ดูรีวิวห้องฟ้ามานานมาก นานเกิน 10 กว่าปี ตั้งแต่หัดเล่นอินเตอร์เนตเป็น ตอนปี 51-52 ก้เริ่มหาข้อมูล รีวิว สินค้าก็ห้องสีฟ้านี่แหละค่ะจะไปไหนหรือซื้ออะไรทำอะไรก้เสิสจากห้องสีฟ้านี่แหละค่ะ เพราะฉนั้น อิชั้นจึงตัดสินใจมารีวิวที่พักในห้องสีฟ้ากับเขาบ้าง
แต่ที่พักที่เราจะรีวิววันนี้ น่าจะมีคนรีวิวเป็นพันคนแล้วแหละ เราไปมาหลายครั้ง ทั้งไปทานข้าว ไปเล่นน้ำ แต่เราไม่เคยรีวิว พึ่งจะว่างอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เลยลุกมาตั้งกระทู้ ไม่รู้ว่าสายเกินไปหรือป่าวน้าส์
เนื่องจาก จขกท (ตัวอิชั้นเอง)ชอบไปพักผ่อนตามรีสอร์ทและ ตจว. เอามากๆ จากมะก่อนเป็นคนชอบเที่ยวผับเที่ยวบาร์พุดง่ายๆก็สายดื่มนั้นแหละ)แต่พอเวลาผ่านไปเพื่อนฝูงสมาชิคที่เคยข้างเคียงก้แยกย้ายกันไปมีครอบครัวส่วนตัวเรายังโสดเหมือนเดิมก้เลยไปแต่กับเพื่อนคนละเพศด้วยกันเพราะยังโสดเหมือนกันเที่ยวสไตล์เดียวกัน เอาล่ะ ร่ายยาวมาเกือบร้อยบรรทัด ตามเราไปเลยละกันนะ
(ขอย้ำ ว่านี่เป้นการรีวิวครั้งแรกของอิชั้นน่ะ รุปอาจจะมีไม่ครบไม่เยอะตามสถานที่ต่างๆ) ทัวรือย่าลงล่ะ ที่บ้านเป็นแค่ทาวน์โฮม ไม่ได้มีคฤหาสถน์สำหรับจอดรถทัวร์ได้หลายคัน
เนื่องจากเราเกิดความคันจากหลังสงการนต์ เพราะช่วงสงกรานต์ ยังคิดว่าเที่ยวไม่คุ้ม
เราจึงเปิดปฎิทิน ดูวันหยุด และก็เจอวันหยุด2วันติดนั่นก็คือ วันแรงงานแห่งชาติ นั่นเอง
เราจึงเริ่มทำการจองที่พัก สำหรับ 4 ท่าน ก้ได้ห้อง ลาคาเซ็ทต้า พอโทรจองเสร็จ ชำระเงิน เสร็จ ก็รอวันเดินทาง
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน จะมี จนท.โทรมาคอนเฟริ์มกับเราอีกทีว่าพร้อมเดินทางมาพักหรือไม่
และแล้ววันที่เราจะเดินทางก็มาถึง 30/4/65 เราเดินทางกลางคืนและไปพักบ้านญาติๆที่โคราชชานเมืองก่อน ตอนเช้าเราก้ตื่นนอนมาและแวะพาคุณแม่ ไปวัดบ้านไร ที่โคราช
พอเราสักการาหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่เสร็จแล้ว
เราก้ปักหมุดมาที่ ทอสคาน่า วัลเล่ย์ ทันที เราเข้ามา ซึ่งพอมาถึงทางเข้า ก็จะมีป้ายใหญ่ๆๆ และเราก้เลี้ยวเข้ามาในทางเข้าโครงการเลยค่ะ
พอเข้ามาก็จะเจอไม้กั้นๆ พี่ๆ รปภ. ท่านก็จะถามว่า มาติดต่อเรื่องอะไรครับ พวกเราก็แจ้งท่านไปว่า มาพักที่ ลา คาเซ็ทต้าค่ะ
ซึ่งที่นี่จะมีมาตรการความปลอดภัย และมีการเข้มงวดในเรื่องของการเข้าออกอย่างเคร่งครัดนะคะ
พอเราเข้ามาเราก็วนกันอยุ่ในทอสนี่แหละค่ะ ไปตามป้าย La Casetta (ภาพนี้เราถ่ายจากในรถนะคะ เลยดุไม่ค่อยสว่าง) และวันที่ไป เป็นวันที่ฝนครึ้มๆและไม่ค่อยมีแดด
เรามาถึงที่พักประมาน 16.00 เราจองห้องพัก แบบ 4 ท่านนะคะ
ห้องที่เราได้จะเป็นโซนโรงแรม ลา คาเซ็ทต้า นะคะ
เรามาเช๊คอินกันที่นี่ค่ะ พอเช๊คอินเสร็จ จนท.ก้จะแนะนำบริเวรร้านอาหาร แผนที่ พิกัด ว่าอยุ่ตรงไหนๆๆบ้าง (แต่พอดีเรามาทานข้าวที่นี่บ่อยแล้ว ก้เลยพอทราบบ้างว่าสระน้ำ ร้านอาหารอยู่โซนไหนๆ) และก็จะมี จนท.พาเรานั่งรถกอล์ฟไปที่พัก เราจึงนั่งรถกอล์ฟไปกันส่วนสมาชิคที่มาด้วยกันก้ขับรถตามมาค่ะ
พอเข้ามาที่พักพวกเราทุกคนต้องแบกกระเป๋าและสัมภาระ ขึ้นบันไดมาอีกประมาณ 15 ขั้นนะคะ ซึ่งสูงพอควรค่ะ สำหรับคนสูงวัย (เพราะของเรามี คุณแม่มาด้วย ก็จะบอกว่าทางขึ้นห้องสูงไป) พอดีเราไม่ได้ถ่ายรูปบริเวณทางขึ้นมาฝาก เพราะเรามัวแต่ถ่ายวิดิดอกันจนลืมถ่ายภาพนิ่งทางขึ้นห้องและหน้าห้องมาฝากกัน ต้องขออภัยค่ะ
มาเริ่มกันต่อตอนเปิดเข้าห้องมาแล้วนะคะ ก็จะเจอห้องโถงใหญ่ จะเจอโต้ะทานข้าว หรือจะนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือก็แล้วแต่ละท่านค่ะ
ห้องนอนของเราจะได้วิวภูเขาและสระว่ายน้ำนะคะ
นี่คือห้องนอนชั้นล่างค่ะ เป็นเตียงใหญ่ควีนไซส์ นอนได้ 2 ท่าน
และก้นี่เป็นบริเวณทางขึ้นไปชั้น 2
ส่วนชั้นบนจะเป็นเตียงคู่ชิดกัน และมีโซฟา บริเวณหัวมุมน่าต่างด้วย ได้ฟีลที่ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะแสงไฟสลัวๆๆ
ในรูปภาพผ้าปูที่นอนอาจจะยับนะคะ เพราะเราถลกผ้าขึ้นแล้วแต่มานึกได้ทีหลังว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปจึงพยายามเก็บผ้าเข้าไปที่เดิมแต่ได้แค่นี้ค่ะ รูปเลยออกมายับแบบนี้ค่ะ
ในตู้เย็นก็จะมีมินิบาร์ให้ฟรี เฉพาะโค๊ก 2 กระป๋อง สไปร์ท 2 กระป่อง
ส่วนอย่างอื่น ถ้าอยากทานเพิ่ม ก็ชำระเงินวันเช๊คเอ้าท์ค่ะ
พวกมาม่าคัพก็มีนะคะ แต่พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปกันไว้เลย ต้องขออภัยค่ะ
ราคาก็จะประมาณนี้ค่ะ
นี่ก็เป็นบริเวณในห้องน้ำนะคะ ชักโครกที่นี่ เวลาจะกดน้ำทิ้ง เราต้องดึงขึ้นนะคะ
อ่างอาบน้ำ เราไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งอ่างอาบน้ำมา ถ่ายติดแต่สมาชิค ต้องขออภัยค่ะ
แต่ถ้าใครจะตีฟองแนะนำให้เตรียมบาทโฟทหรือบับเบิลมาเองนะคะ
ห้องน้ำที่นี่กับห้องอาบน้ำ อยู่ที่เดียวกันแต่ จะมีประตูกั้นกันระหว่างห้องอาบน้ำ กับห้องน้ำนะคะ
เผื่อใครจะทำธุระ ใครจะอาบน้ำ ตีฟอง ก็จะได้ไม่ต้องมารอกันค่ะ ที่นี่แยกกันค่ะ
ส่วนอ่างอาบน้ำกับห้องอาบน้ำก็จะแยกกันเป็นสัดส่วน มี rain shower ปกติเหมือนๆกับที่อื่นค่ะ
พวกเครื่องใช้ แปรงสีฟัน มีให้ 4 ชุด แต่หมวกอาบน้ำมีให้แค่ 2 ใบ
หวี 2 อัน
แชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ มีให้เต็มขวด
ไม่ต้องขอเพิ่มเลย
และขอบอกว่าครีมอาบน้ำ ครีมทาผิวที่นี่ หอมมาก เหมือนประมาณว่าเรากำลังมาเข้าสปา อาบน้ำแร่ แช่ช้ำนมกันเลยแหละ
ยังไม่ทันไรเลย ก็จะค่ำแล้วเราเลยไปคาเฟ่ หอเอน
วันนี้ จนทแจ้งว่า วันนี้จะเปิด พุ่งนี้เป็นวันจันทร์จะปิด เพราะคาเฟ่หอเอนจะเปิดแค่ เสาร์-อาทิตย์ ค่ะ
บรรยากาศหอเอนค่ะ
และพอได้เวลาค่ำ เราก้ไปทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหาร Club Lago ซึ่งห้องอาหารนี้ อยูใกล้ๆกับที่พัก ของเรามากที่สุดค่ะ เราจึงมาฝากท้องมื้อเย็นกันที่นี่
ส่วนห้องอาหารเช้า ทุกท่านที่พัก La Casetta ก็ต้องลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Club Lago นี้คะ
(อาหารที่นี่ ถามว่าอร่อยไหม เราก็ว่าอร่อยอยู่นะคะ เพราะสมาชิคเราทานไม่เผ็ด อาหารที่นี่ ส่วนมากจะไม่ค่อยเผ็ด)
เพราะเรามาทานอาหารที่ Club House ก็จะรสชาติไม่ค่อยเผ็ดค่ะ
ส่วนค่าเสียหายตามใบเสร็จค่ะ
ระหว่างรออาหารมาเสริพ เราก็เก็บภาพบรรยากาศกันหน่อย
พอทานอาหารเสร็จเราก็กลับไปที่พัก ไปชมเล่นน้ำหลังห้องกันต่อ
เราว่าจะเล่นน้ำ แต่ดูในสระแล้วมันมีฝุ่นเราเลยไม่ลงเล่นกัน และไฟมันมืดไปหน่อยเราทั้ง 3 จึงขึ้นห้องนอนพักผ่อนตามกาลเวลา
หลับแล้วตื่นมา ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้จร้า
และพอเช้าๆเราก้ออกไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Club Lago
ไลน์อาหารเช้าที่นี่ก็จะเป็นบุฟเฟต์ มีให้เลือกทานหลากหลายทั้งอาหารไทย และอาหารนานาชาติ
โซนอาหารจะมี 2 ชั้น ลูกค้าท่านใดที่ไม่สะดวกขึ้นบันไดที่ห้องอาหารนี้ก็มีลิฟท์ไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ
แต่เราไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งไลน์อาหารมาไห้ชม ต้องขออภัยด้วยค่ะ
พอทานอาหารเสร็จเราก็ไปว่ายน้ำกันต่อที่ สระว่ายน้ำ Club House
วันที่เราไป คืออากาศดีมาก หนาว ละอองฝนลงปอยๆ มีหมอก ไม่มีแดดทั้งวัน แต่น้ำในสระที่นี่ อุ่นมาก ลงไปแช่ โดยที่ไม่ต้องกรี้สสสแบบผีโดนข้าวสารเสกเลย น้ำอุ่นมาก อยากแช่ตัวแบบออนเซ็น ก็ยังได้ แต่ด้วยเวลามีจำกัด จึงต้องรีบว่ายรีบกลับ
(แต่ระหว่างที่พักเรากับ Club House ห่างกันประมาณ 4 กิโล น่ะ ถ้าจะมาว่ายน้ำที่นี่ต้องใช้รถค่ะ เดินมาไม่ไหวค่ะ)
แต่ถ้าใครไม่อยากขับรถ ก็โทรติดต่อที่ Lobby เขาจะมีบริการมีรถตู้คอยรับส่งให้ค่ะ
แต่ถ้าใครอยากชมบรรยากาศ ให้เช่าจักรยาน ส่วนราคาจักรยานเราไม่ได้ไปถามเพราะขี้เกียจเดินไป
ส่วนโซนที่ให้เช่าจักรยาน จะอยุ่บริเวณ ทาวสเเควร์
มีบริการให้เช่ารถกอล์ฟ 2 ชม. 500 บาท 1 วัน กี่บาทก็ไม่รู้ เราจำไม่ได้แล้ว ต้องขออภัย
และเมื่อได้เวลา พวกเราทั้ง 4 ท่าน ก็ได้ทำการเก็บสัมภาระ และไปที่ Lobby เพื่อทำการ Check out
เป็นอันว่า เรามาพักผ่อนที่นี่ เรารู้สึกว่า เวลามันเดินใวมาก เรายังว่ายน้ำไม่ครบทุกสระเลย
ยังไม่ได้ปั่นจักรยานด้วย
แต่การบริการที่นี่ถือว่า ดีเลยทีเดียว
เราขอน้ำเปล่าเพิ่ม โทรขอนู่นนี่นั่นเพิ่ม จนท.เดินเอามาให้ตามที่เราต้องการทุกอย่าง
ถ้าใครอยากพักผ่อนสุดสัปดาห์ แนะนำที่นี่เลยค่ะ Toscana Valley
เราขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
By Cr.ชะนีพาเที่ยว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้