นายประกิต หลิมสกุล นามปากกา กิเลน ประลองเชิง เป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน ที่มีประสบการณ์ชีวิตเข้มข้น ผ่านวิริยะบากบั่นสามารถเรียนรู้ และกลั่นกรองประสบการณ์เหล่านั้นเป็นงานเขียน เพื่อประโยชน์แก่คนอื่นและสังคมได้อย่างงดงาม
            
เกิดเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๘  ที่บ้านริมคลองบางเรือหัก ตำบลท้ายหาด หมู่ที่ ๗ อำเภอเมือง สมุทรสงคราม  เป็นบุตรชายคนเดียว ลำดับที่ห้า  เริ่มเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนนิพัทธหริณสูตร์ (วัดประทุมคณาวาส) สมุทรสงคราม ต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนศรัทธาสมุทร สมุทรสงครามได้สองปี ลาออกไปบวชเณรที่วัดเขาย้อย เพชรบุรี  หลังจากนั้นไปอยู่วัดดาวดึงษ์ บางยี่ขัน ธนบุรี ได้ศึกษาต่อที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร สอบได้นักธรรมเอกเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗  ต่อมา พ.ศ.๒๕๓๑ ศึกษาต่อจนจบปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
            
พ.ศ.๒๕๐๙-พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นลูกเรือและนายท้ายเรือในทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ปลายปี พ.ศ.๒๕๑๓  เริ่มงานนักข่าวภูธร ส่งข่าวให้หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พ.ศ.๒๕๑๘ ได้ประจำการเป็นนักข่าวเดลินิวส์  ทำข่าวทั่วประเทศ  และ มีประสบการณ์เขียนคอลัมน์จิปาถะ พ.ศ.๒๕๒๒ ย้ายมาอยู่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เขียนคอลัมน์ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พ.ศ.๒๕๓๔ ได้รับรางวัลนักเขียนบทความดีเด่น ประจำปี จากกองทุน ม.ร.ว.อายุมงคล โสณกุล  พ.ศ.๒๕๓๕ ใช้นามปากกา “เหยี่ยวพญา” เขียนข่าวสังคม  ต่อมาหลังการตายของนักข่าวภูมิภาคไทยรัฐ ได้ลาออกไปร่วมงานกับ นสพ. อีกหลายฉบับ อาทิ ผู้จัดการ สยามโพสต์ แนวหน้า สยามรัฐ ไทยไฟแนนเชียล  จากนั้นกลับ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ สังกัดเดิม รับงานหัวหน้า “สกู๊ปข่าวหน้าหนึ่ง”  ต่อมา พ.ศ.๒๕๔๑ ใช้นามปากกา “กิเลน ประลองเชิง” เขียนคอลัมน์ “ชักธงรบ” มาจนถึงทุกวันนี้ 
            
ประกิตเป็นนักหนังสือพิมพ์มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๓  เป็นทั้งนักข่าวและคอลัมนิสต์หลากหลาย  มีประสบการณ์ชีวิต  การทำข่าวและการอ่านหนังสือ ทำให้กอปรด้วยคุณสมบัติ ดังนี้
            
๑. เป็นผู้มีวิชารู้จักมนุษย์ เพราะเหตุที่เคยผ่านวิกฤติชีวิตทั้งในวัยเยาว์และในยามเป็นนักหนังสือพิมพ์  ทำให้เขาเรียนรู้ความเป็นมนุษย์จากตัวเองเป็นเบื้องต้น และจากประสบการณ์ในการทำงานเป็นประการต่อมา จนสามารถเข้าใจและเขียนถึงมนุษย์ทั้งตนเองและคนอื่นได้อย่างลึกซึ้งและได้ประเด็นคิด
            
๒. เป็นสุภาพบุรุษนักหนังสือพิมพ์ ทำงานในฐานะนักหนังสือพิมพ์มายาว นานกว่า ๕๐ ปี  คงความเป็นกลาง และความเป็น “สุภาพบุรุษ” คือการทำเพื่อคนอื่น ตามแบบกุหลาบ สายประดิษฐ์ ไว้ได้โดยตลอด
            
๓. เป็นผู้สามารถในการใช้ภาษา การเขียนคอลัมน์ “ชักธงรบ” ในนาม “กิเลน ประลองเชิง” ทุกวันมายาวนานกว่า ๒๐ ปี สะท้อนให้เห็นว่า ศักยภาพในการคิด เขียน และการใช้ภาษารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วอย่างสมบูรณ์
            
กองทุนศรีบูรพา จึงขอประกาศเกียรติมอบรางวัลศรีบูรพา  ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๕  แด่  นายประกิต หลิมสกุล และขอเป็นพลังใจให้เรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าต่อไปอย่างเต็มกำลัง
 
 
นางชมัยภร บางคมบาง
ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ 
ประธานคณะกรรมการกองทุนศรีบูรพา
วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕