คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 66
มันไม่ใช่หน้าที่ผู้หญิงที่ต้องไปหิ้ว หรือเข็นชีวิตผู้ชายให้มันดีขึ้นอ่ะ
เพราะไม่ได้อยู่ในวัยเรียน นี่คือมีลูกแล้วด้วย ต้องคิดเป็น
ชีวิตตัวเองก็มีเรื่องมากพออยู่แล้ว
เอาภาระมาเพิ่มอีกทำไม ต้องถามตัวเองดีกว่าค่ะ
แล้วชีวิตคุณไม่ค้องการความก้าวหน้าหรือ
หาคู่ชีวิต มีสามีดีๆ ค่ะ
ไม่ใช่ได้ลูกชายมา 2 แล 2 คน
สิ่งที่คุณกำลังทำ มันคือหน้าที่แม่ ไม่ใช่หน้าที่เมีย
แล้วที่คบอยู่ก็เป็นแค่เด็กผู้ชายที่หาแม่พึ่งพิง ไม่ได้หาเมียเพื่อจะเดินเคียงข้างกันไปค่ะ
หักใจ แล้วเดินหน้าต่อเถอะ
เขาอาจจะเป็นคนที่เรารักมากที่สุด แต่เขาไม่เหมาะที่สร้างชีวิตคู่ไปด้วยกันค่ะ
เพราะไม่ได้อยู่ในวัยเรียน นี่คือมีลูกแล้วด้วย ต้องคิดเป็น
ชีวิตตัวเองก็มีเรื่องมากพออยู่แล้ว
เอาภาระมาเพิ่มอีกทำไม ต้องถามตัวเองดีกว่าค่ะ
แล้วชีวิตคุณไม่ค้องการความก้าวหน้าหรือ
หาคู่ชีวิต มีสามีดีๆ ค่ะ
ไม่ใช่ได้ลูกชายมา 2 แล 2 คน
สิ่งที่คุณกำลังทำ มันคือหน้าที่แม่ ไม่ใช่หน้าที่เมีย
แล้วที่คบอยู่ก็เป็นแค่เด็กผู้ชายที่หาแม่พึ่งพิง ไม่ได้หาเมียเพื่อจะเดินเคียงข้างกันไปค่ะ
หักใจ แล้วเดินหน้าต่อเถอะ
เขาอาจจะเป็นคนที่เรารักมากที่สุด แต่เขาไม่เหมาะที่สร้างชีวิตคู่ไปด้วยกันค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ทำไมต้องกังวลว่าจะดูใจร้ายกับแฟนและพ่อแฟน เราว่าทางนั้นมากกว่าที่ควรคิดว่าตัวเองกำลังใจร้ายกับคุณและกำลังเกาะคุณกินหรือป่าว
อย่าว่าแต่คุณเป็นผู้หญฺิงเลยนะ ต่อให้คุณเป็นผู้ชาย แล้วทางนั้นเขาเป็นผู้หญิง เราก็ว่าไม่โอเค
มีทั้งลูกติด มีทั้งภาระผ่อนรถ คิดได้ไงไม่ทำงาน ถึงต่อให้ตกงานถูกให้ออกจากงานมาก็ควรหาอะไรทำ ไม่ใช่ทำแบบนี้ แล้วถ้าไม่มีคุณ เขาจะเลี้ยงลูกยังไง ทีนี้คุณก็มากังวลอีกว่าจะดูเป็นคนใจร้าย เลยต้องช่วยเขาออกไปซะทุกอย่าง ไอ้เรื่องส่งของทำงานบ้านอ่ะ ถ้าไม่ทำซิยิ่งแย่ มาอยู่มากินมาเกาะขนาดนี้
ถ้ายังรักยังชอบเขาอยู่ ยื่นคำขาดให้เขาไปหางานทำค่ะ แล้วรถที่ผ่อนอยู่ที่ใคร หรืออยู่กับพ่อแฟน
คือมันได้นะถ้าคุณยินดีสลับหน้าที่กันให้คุณเป็นคนหาเงินแล้วเขาเป็นพ่อบ้าน(ซึ่งคู่ปกติเป็นแบบนี้เมื่อแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่พึ่งคบกันได้แค่ 7 เดือน) แต่นี่เขายกภาระมาให้คุณดูแลกันทั้งครอบครัว มันเกินไปอ่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไม่ไหว อยากจะเลิก แล้วคุณจะกล้าเลิกไหม เพราะกลัวจะดูเป็นคนใจร้าย
ชีวิตมันไม่มีตัวเลือกผู้ชายที่ดีกว่านี้แล้วหรือคะ หรือนี่คือดีสำหรับคุณแล้ว คนเราบางทีมันก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีแฟนนะ
อย่าว่าแต่คุณเป็นผู้หญฺิงเลยนะ ต่อให้คุณเป็นผู้ชาย แล้วทางนั้นเขาเป็นผู้หญิง เราก็ว่าไม่โอเค
มีทั้งลูกติด มีทั้งภาระผ่อนรถ คิดได้ไงไม่ทำงาน ถึงต่อให้ตกงานถูกให้ออกจากงานมาก็ควรหาอะไรทำ ไม่ใช่ทำแบบนี้ แล้วถ้าไม่มีคุณ เขาจะเลี้ยงลูกยังไง ทีนี้คุณก็มากังวลอีกว่าจะดูเป็นคนใจร้าย เลยต้องช่วยเขาออกไปซะทุกอย่าง ไอ้เรื่องส่งของทำงานบ้านอ่ะ ถ้าไม่ทำซิยิ่งแย่ มาอยู่มากินมาเกาะขนาดนี้
ถ้ายังรักยังชอบเขาอยู่ ยื่นคำขาดให้เขาไปหางานทำค่ะ แล้วรถที่ผ่อนอยู่ที่ใคร หรืออยู่กับพ่อแฟน
คือมันได้นะถ้าคุณยินดีสลับหน้าที่กันให้คุณเป็นคนหาเงินแล้วเขาเป็นพ่อบ้าน(ซึ่งคู่ปกติเป็นแบบนี้เมื่อแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่พึ่งคบกันได้แค่ 7 เดือน) แต่นี่เขายกภาระมาให้คุณดูแลกันทั้งครอบครัว มันเกินไปอ่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไม่ไหว อยากจะเลิก แล้วคุณจะกล้าเลิกไหม เพราะกลัวจะดูเป็นคนใจร้าย
ชีวิตมันไม่มีตัวเลือกผู้ชายที่ดีกว่านี้แล้วหรือคะ หรือนี่คือดีสำหรับคุณแล้ว คนเราบางทีมันก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีแฟนนะ
แสดงความคิดเห็น
แฟนมีลูกติด1คน และไม่ทำงาน และเราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เริ่มจากคบกับแฟนมาได้7 เดือนแล้วค่ะ แต่แฟนไม่ได้ทำงาน ย้ายมาอยู้กับเรา เราขายออนไลน์ให้เค้าช่วยส่งของไปเอาของให้ เค้าทำงานบ้านทุกอย่าง เค้ามีลูกติด1 คน (ผช6ขวบค่ะ) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกแฟนเราเป็นคนออกทั้งหมด
และมีค่างวดรถมอไซค์เค้าอีก1 คัน(แต่รถไม่ได้อยู่กับเค้า)เราก็เป็นคนจ่าย
ลูกตืดแฟนจะอยู่กับปู่ ซึ่ง5เดือนแรกเรารับส่งลูกเค้ามาอยู่ด้วยทุกส-อาทิตย์ แต่เราคิดว่าเปิดเทอมนี้ 17พค.เราจะรับมาแค่อาทิตย์ เว้นอาทิตย์ จะดูใจร้ายไปมั้ยคะ (เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ไป-กลับ 40 โล)แฟนจะโกรธเรามั้ย เพราะเค้าค่อนข้างตามใจเรา และพ่อของแฟนชอบให่เราไปรับไม่ชอบให้ไปอยู่กับแม่ของเด็ก (อยากให้เราเป็นแม่) เค้าคาดหวังกับเรามาก และเราช้วยเหลือครอบครัวเค้าด้วยในบางครั้ง (ตอนนี้ไม่ได้ช่วยแล้วค่ะ) แต่บางทีเราก็ไม่ไหวค่าใช้จ่ายเยอะมาก เราควรใช้เหตุผลพูดอย่างไร ให้ดูไม่ใจร้ายทั้งกับพ่อแฟนและแฟนดีคะ ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ🙇🏻♀️🙇🏻♀️