แม่มีลูกเป็นทายาทคนเดียว พ่อแม่ตายหมดแล้ว ทรัพสินมรดกที่แม่มีเป็นสินสมรสจากพ่อเราเอง หากแม่จากไป การจะโอนที่ดิน ถอนเงินบัญชีเงินฝาก ต้องมาฟ้องผีอีกไหม ก็ผีไม่ได้จัดการไว้ให้ลูกอ่ะ
หากทำพินัยกรรมให้ลูกทายาทเพียงคนเดียวจัดการมรดก ยังต้องไปฟ้องผี เพื่อจัดการมรดกโอนเปลี่ยนชื่อที่ดินไหม และถอนเงินบัญชีธนาคารของผีอีก
แม่บอกว่าแม่จากไปลูกจะถอนเงินในบัญชีไม่ได้
ตอนตายายตาย มีที่19ไร่ พี่น้อง5-6 ก็ต้องแต่งทนายฟ้องผี ตั้งผู้จัดการขึ้นศาล แค่ฟังก็ปวดหัว แต่แม่เราสละพี่น้องคนอื่นที่เป็นผู้หญิงสละกันหมดนะ ไม่รับมรดกนี้ เพราะตาดูคนที่จะแต่งงานกับลูกสาวทุกคนต้องมีหลักฐานมั่นคง มีมรดกเลี้ยงดูลูกสาวได้ไม่ลำบากถึงให้แต่งงาน พี่น้องผู้หญิงคนอื่นไปรับมรดกจากทางสามี ส่วนน้าชายคนรองสุดท้อง น้าหญิงที่ได้มรดกแบ่งให้อีกที หรือรับมรดกต่อ
เรา ก็ทำพินัยกรรมสิแม่ เด๋วเคลียร์งานได้ จะหาลู่ทาง อย่าให้เงินญาติรึใครยืมไปจนหมดเกลี้ยงบัญชีอีก ขายที่ แล้วให้พี่ของคนซื้อที่มายืมหมดอย่าสร้างหนี้ หน้าใหญ่เที่ยวกู้เงินให้คนอื่นทุกปี แล้วไม่รู้ด้วยเค้าให้เซ็นกู้เท่าไหร่ ให้ยืมกู้ให้ก็ญาติคนเดิมที่ไม่ยอมใช้หนี้สักที กู้ธนาคารก็ไม่ใช้หนี้ รีบโอนมรดกให้ลูกกลัวธนาคารมายึด ตอนมายืมก็รับส่งพาไปถอนถึงธนาคาร ลูกมันพึ่งไม่ไเบ้านช่องไม่อยู่ไปทำงานที่อื่นจ้างมันจะเหลียวแลหันมาดูแลต้องฉันนี่จะดูแลให้หมด ธนาคารไม่ดีดอกน้อยมาให้หลานยืมดีกว่าธนาคาร พอตอนเราจะใช้กว่าจะทวงได้ ไม่มี ให้บ้างไม่ให้บ้างให้มา1,000นึง ไปหาหมอแม่จะขอติดรถไปด้วยบอกชักช้าอืดอาดยืดยาดกว่าจะไปไหนได้ โทรให้ลูกวิ่งมารับเองฉัรไม่ใช่ลูก แม่กับน้าติดโควิด เราก็พาไป นิสัยแบบนี้ยังจะไปกู้ให้เค้าอีก ญาติก็เถอะ ต้องแยกแยะ ไม่ใช่เอ็นขาดกระดูกก็จะไม่เหลือ เค้าเอาแกงให้ถุงนึงคนดีมีบุญคุณ เอาแกงถึงแลกเงินครึ่งล้านได้ ขายมรดกได้เอาเงินให้คนอื่นหมดสิ้นใช้เงินอย่างไม่รุ้คุณ และเอาแต่ของเก่าออกมา ของใหม่ไม่เพิ่มร่อยหรอหมดลงไปทุกวันๆ แต่ลูกตัวเองหาเอง ญาติก็ลงความเห็นว่าแม่ใช้เงินมรดกสินสมรสแบบไม่มีประโยชน์กับตัวเองไม่เผื่อแผ่ถึงลูก ตัวใครตัวมัน มรดกต้องเอาไปหักหนี้ก่อนถึงจะได้รับ
แม่ ไปบอกญาติว่าเราให้ทำพินัยกรรม
ญาติ ก็ไปโอนให้เลย
เรา โอนเลย ต้องเดินทางไปโอน ต้องมีเงินเสียค่าธรรมเนียม ค่าประเมิน ภาษี ฯ ไม่แน่ใจเงินพอจ่ายไหมเก็บก่อน เก็บเงินได้สัก 50,000ก่อน ไม่อุ่นใจ
มี พินัยกรรม ไว้ไปขอรับมรดกมีคำสั่งศาลหรือพินัยกรรม แต่ก็เสียค่าธรรมเนียมเหมือนกันล่ะ แต่เสียทีหลัง
แม่อายุ70กว่าๆ มีโรคประจำตัว เพิ่งหายจากโควิด ไม่ขอรับมรดกจากทางตาสักชิ้น ให้น้องสาวคนที่ดูแลตายายหมด มีบุตรสาวเหลือเพียง1คน บุตรชายตาย
น้องชายแม่เพิ่งจะเกษียณ เตรียมการไว้ให้ลูก2คน และยังคงทำงานทุกวัน ไม่อยากรบกวนลูก บอกแม่ว่าถ้าไม่คิดจะทำอะไรเลย อยู่รอใช้เงินลูกไปวันๆก็ทำไม่ได้ เงินมีแต่ลดลงไม่ได้เพิ่มพูน ถ้าวันใดจากไปเงินในบัญชีลูกก็เอาออกมาไม่ได้ ลูกต้องเบิกเงินในบัญชีมาใช้จัดงานและใช้จ่ายได้ ต้องจัดการไว้ก่อน มีลูกต้องดูแล ไม่ใช่ตัวใครตัวมันปล่อยตามยถากรรม ตายไปก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
น้ายังบอกแม่อีกว่าตอนเราเรียนก็ไม่ค่อยให้เงินใช้ ส่วนหนึ่งจนด้วย พอได้มาก็เสียดาย เห็นลูกคนอื่นมาหลอกพ่อแม่เงินไม่ไปจ่ายค่าเทอม ก็ระแวงลูกคิดว่ากลัวลูกจะหลอกเปนผุ้หญิงไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เด๋วไปให้ผู้ชาย ลูกเรียนก็ไปกู้เรียน ทำงานก็ใช้หนี้ พ่อแม่ก็ไม่ทำงานแก่แล้วรอใช้เงินลูกจะไปพอกินอะไร ลูกไม่ได้มีต้นทุนที่ดีก็รู้ๆอยู่ อย่าคิดว่าผู้ชายรึคนคนอื่นก็ให้มันเองล่ะมันเป็นผู้หญิงคาดหวังอย่างคนรุ่นก่อนไม่ได้แล้วทรัพยากรมีวันลดหมดได้
แม่เลยมาบอกเรา สั้นๆ ว่าถ้าแม่จากไปลูกจะถอนเงินในบัญชีไม่ได้
คิดว่าทำพินัยกรรมไว้
หรือไปโอนให้เลยดี แต่เงินไม่พร้อมนะ ยังไม่ได้ดูละเอียดเสียค่าใช้จ่ายไรบ้าง
พิจารณาจาก ค่าใช้จ่าย การดำเนินการเสียเวลา สภาพร่างกายผู้ชรากับการเดินทาง ด้วยมอเตอไซด์มีน้อยก็ใช้น้อย เปรียบเทียบแล้วอย่างไหนดีกว่า
คือได้มาด้วยความฟลุครึไงไม่ทราบ พ่อทำโฉนดไม่ทั้งหมดทั้งที่เปนที่ดินแปลงติดกัน ทำโฉนดเฉพาะที่จะแบ่งให้น้องชาย14ไร่และน้องสาวคนเล็กของพ่อ8ไร่ ที่ไปอยู่ตจว. แทบไม่กลับบ้านเลย แปลงที่ทำให้น้องชายโอนไปแล้วน้องชายพ่อดันตาย พ่อไปโอนให้ลูกชายทายาทคนเดียว ก็ดันตายอีก พ่อโอนกลับมาที่พ่อ โฉนดใกล้จะเสร็จแล้ว พ่อก็ตายก่อนอีก เลยโอนมาที่แม่พี่ชายและเรา พี่ชายเราก็ตายอีก แต่เห็นว่าที่ดินเคยเป็นที่ฝังศพมีแต่หลุมผีมาก่อน มีคนบอกว่าเราจะได้ของที่มาจากความตาย ของที่เป็นของเรายังไงก็เป็นของเรา
ทำพินัยกรรมหรือโอนให้ลูกตั้งแต่ยังมีชีวิตแบบไหนดี
หากทำพินัยกรรมให้ลูกทายาทเพียงคนเดียวจัดการมรดก ยังต้องไปฟ้องผี เพื่อจัดการมรดกโอนเปลี่ยนชื่อที่ดินไหม และถอนเงินบัญชีธนาคารของผีอีก
แม่บอกว่าแม่จากไปลูกจะถอนเงินในบัญชีไม่ได้
ตอนตายายตาย มีที่19ไร่ พี่น้อง5-6 ก็ต้องแต่งทนายฟ้องผี ตั้งผู้จัดการขึ้นศาล แค่ฟังก็ปวดหัว แต่แม่เราสละพี่น้องคนอื่นที่เป็นผู้หญิงสละกันหมดนะ ไม่รับมรดกนี้ เพราะตาดูคนที่จะแต่งงานกับลูกสาวทุกคนต้องมีหลักฐานมั่นคง มีมรดกเลี้ยงดูลูกสาวได้ไม่ลำบากถึงให้แต่งงาน พี่น้องผู้หญิงคนอื่นไปรับมรดกจากทางสามี ส่วนน้าชายคนรองสุดท้อง น้าหญิงที่ได้มรดกแบ่งให้อีกที หรือรับมรดกต่อ
เรา ก็ทำพินัยกรรมสิแม่ เด๋วเคลียร์งานได้ จะหาลู่ทาง อย่าให้เงินญาติรึใครยืมไปจนหมดเกลี้ยงบัญชีอีก ขายที่ แล้วให้พี่ของคนซื้อที่มายืมหมดอย่าสร้างหนี้ หน้าใหญ่เที่ยวกู้เงินให้คนอื่นทุกปี แล้วไม่รู้ด้วยเค้าให้เซ็นกู้เท่าไหร่ ให้ยืมกู้ให้ก็ญาติคนเดิมที่ไม่ยอมใช้หนี้สักที กู้ธนาคารก็ไม่ใช้หนี้ รีบโอนมรดกให้ลูกกลัวธนาคารมายึด ตอนมายืมก็รับส่งพาไปถอนถึงธนาคาร ลูกมันพึ่งไม่ไเบ้านช่องไม่อยู่ไปทำงานที่อื่นจ้างมันจะเหลียวแลหันมาดูแลต้องฉันนี่จะดูแลให้หมด ธนาคารไม่ดีดอกน้อยมาให้หลานยืมดีกว่าธนาคาร พอตอนเราจะใช้กว่าจะทวงได้ ไม่มี ให้บ้างไม่ให้บ้างให้มา1,000นึง ไปหาหมอแม่จะขอติดรถไปด้วยบอกชักช้าอืดอาดยืดยาดกว่าจะไปไหนได้ โทรให้ลูกวิ่งมารับเองฉัรไม่ใช่ลูก แม่กับน้าติดโควิด เราก็พาไป นิสัยแบบนี้ยังจะไปกู้ให้เค้าอีก ญาติก็เถอะ ต้องแยกแยะ ไม่ใช่เอ็นขาดกระดูกก็จะไม่เหลือ เค้าเอาแกงให้ถุงนึงคนดีมีบุญคุณ เอาแกงถึงแลกเงินครึ่งล้านได้ ขายมรดกได้เอาเงินให้คนอื่นหมดสิ้นใช้เงินอย่างไม่รุ้คุณ และเอาแต่ของเก่าออกมา ของใหม่ไม่เพิ่มร่อยหรอหมดลงไปทุกวันๆ แต่ลูกตัวเองหาเอง ญาติก็ลงความเห็นว่าแม่ใช้เงินมรดกสินสมรสแบบไม่มีประโยชน์กับตัวเองไม่เผื่อแผ่ถึงลูก ตัวใครตัวมัน มรดกต้องเอาไปหักหนี้ก่อนถึงจะได้รับ
แม่ ไปบอกญาติว่าเราให้ทำพินัยกรรม
ญาติ ก็ไปโอนให้เลย
เรา โอนเลย ต้องเดินทางไปโอน ต้องมีเงินเสียค่าธรรมเนียม ค่าประเมิน ภาษี ฯ ไม่แน่ใจเงินพอจ่ายไหมเก็บก่อน เก็บเงินได้สัก 50,000ก่อน ไม่อุ่นใจ
มี พินัยกรรม ไว้ไปขอรับมรดกมีคำสั่งศาลหรือพินัยกรรม แต่ก็เสียค่าธรรมเนียมเหมือนกันล่ะ แต่เสียทีหลัง
แม่อายุ70กว่าๆ มีโรคประจำตัว เพิ่งหายจากโควิด ไม่ขอรับมรดกจากทางตาสักชิ้น ให้น้องสาวคนที่ดูแลตายายหมด มีบุตรสาวเหลือเพียง1คน บุตรชายตาย
น้องชายแม่เพิ่งจะเกษียณ เตรียมการไว้ให้ลูก2คน และยังคงทำงานทุกวัน ไม่อยากรบกวนลูก บอกแม่ว่าถ้าไม่คิดจะทำอะไรเลย อยู่รอใช้เงินลูกไปวันๆก็ทำไม่ได้ เงินมีแต่ลดลงไม่ได้เพิ่มพูน ถ้าวันใดจากไปเงินในบัญชีลูกก็เอาออกมาไม่ได้ ลูกต้องเบิกเงินในบัญชีมาใช้จัดงานและใช้จ่ายได้ ต้องจัดการไว้ก่อน มีลูกต้องดูแล ไม่ใช่ตัวใครตัวมันปล่อยตามยถากรรม ตายไปก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
น้ายังบอกแม่อีกว่าตอนเราเรียนก็ไม่ค่อยให้เงินใช้ ส่วนหนึ่งจนด้วย พอได้มาก็เสียดาย เห็นลูกคนอื่นมาหลอกพ่อแม่เงินไม่ไปจ่ายค่าเทอม ก็ระแวงลูกคิดว่ากลัวลูกจะหลอกเปนผุ้หญิงไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เด๋วไปให้ผู้ชาย ลูกเรียนก็ไปกู้เรียน ทำงานก็ใช้หนี้ พ่อแม่ก็ไม่ทำงานแก่แล้วรอใช้เงินลูกจะไปพอกินอะไร ลูกไม่ได้มีต้นทุนที่ดีก็รู้ๆอยู่ อย่าคิดว่าผู้ชายรึคนคนอื่นก็ให้มันเองล่ะมันเป็นผู้หญิงคาดหวังอย่างคนรุ่นก่อนไม่ได้แล้วทรัพยากรมีวันลดหมดได้
แม่เลยมาบอกเรา สั้นๆ ว่าถ้าแม่จากไปลูกจะถอนเงินในบัญชีไม่ได้
คิดว่าทำพินัยกรรมไว้
หรือไปโอนให้เลยดี แต่เงินไม่พร้อมนะ ยังไม่ได้ดูละเอียดเสียค่าใช้จ่ายไรบ้าง
พิจารณาจาก ค่าใช้จ่าย การดำเนินการเสียเวลา สภาพร่างกายผู้ชรากับการเดินทาง ด้วยมอเตอไซด์มีน้อยก็ใช้น้อย เปรียบเทียบแล้วอย่างไหนดีกว่า
คือได้มาด้วยความฟลุครึไงไม่ทราบ พ่อทำโฉนดไม่ทั้งหมดทั้งที่เปนที่ดินแปลงติดกัน ทำโฉนดเฉพาะที่จะแบ่งให้น้องชาย14ไร่และน้องสาวคนเล็กของพ่อ8ไร่ ที่ไปอยู่ตจว. แทบไม่กลับบ้านเลย แปลงที่ทำให้น้องชายโอนไปแล้วน้องชายพ่อดันตาย พ่อไปโอนให้ลูกชายทายาทคนเดียว ก็ดันตายอีก พ่อโอนกลับมาที่พ่อ โฉนดใกล้จะเสร็จแล้ว พ่อก็ตายก่อนอีก เลยโอนมาที่แม่พี่ชายและเรา พี่ชายเราก็ตายอีก แต่เห็นว่าที่ดินเคยเป็นที่ฝังศพมีแต่หลุมผีมาก่อน มีคนบอกว่าเราจะได้ของที่มาจากความตาย ของที่เป็นของเรายังไงก็เป็นของเรา