เหตุการณ์ที่แพ้แบบเมื่อคืน โอกาสแทบจะหนึ่งในร้อยด้วยซ้ำ แต่เกิดขึ้นอีกแล้วกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ของเป๊บ มันเหมือนบทเรียนเดิมๆ ที่เค้าสอบไม่ผ่านสักที ลองวิเคราะห์ดูว่า ทำไมแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ประสบความสำเร็จใน Ucl สักที
1.ลักษณะทางกายภาพของนักฟุตบอล
สังเกตว่า นักฟุตบอลสเป็คที่เป็บชอบ จะมีร่างกายที่ไม่สูงใหญ่ ออกจะตัวเล็กแต่เน้นเทคนิค เช่น สเตอริ่ง เจซุส มาเรซ โฟลเด้น ฯลฯ ดูแล้วไม่มีความเกรี้ยวกราด (Agressive) หรือพูดหยาบๆ ว่า ไม่มีภาษากายของความเป็นผู้ชนะเลย เหมือนสเตอริ่ง เจซุส ผมมองว่า ไม่มีโหงวเฮ้งความเป็นแชมเปี้ยนเลย
แล้วในแนวรุกจะมีนักเตะลักษณะนี้เกือบหมดเลย แน่นอนว่า ในเกมลีกที่สามารถใช้ความสามารถนักเตะเหล่านี้ขึงทำประตูได้ แต่บางทีใน UCL ไม่มีหมูให้เขี้ยวง่ายๆ การบุกในรูปแบบบอลภาคพื้นดินอย่างเดียว มันไม่พอ แมนซิตี้ควรจะมีนักเตะแนวรุกที่มีความหลากหลายมากกว่านี้ เพื่อเป็นอาวุธหลายๆ แบบในเกมรุก เช่น ศูนย์หน้าเป้า กองหน้าตัวใหญ่ไว้เก็บบอล ฯลฯ
2.ความหลากหลายในแทคติก
สืบเนื่องจากข้อแรก การบุกในรูปแบบบอลภาคพื้นดินอย่างเดียว มันไม่พอ เอาง่ายๆ ตอนต่อเวลาตามหลังมาดริด 3 ต่อ 1 ยังเคาะบอลกันไปมา สเตอริ่งยังบ้าเลี้ยงอยู่เลย แทบไม่เห็นการโหมบุกกระหน่ำจากซิตี้เลย เป็นทีมอื่นต้องกระหน่ำบุก กระหน่ำโยนเข้าไปวัดดวงในกรอบเขตโทษแล้ว หรือโกลต้องขึ้นไปด้วยแล้ว แต่เหมือนเป๊บฝังโปรแกรมนักเตะให้เหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีพื้นที่ให้กับจินตนาการ หรือความเป็นไปได้ในปาฎิหาริย์เลย
3.ความสามารถในการแก้เกมส์ของเป๊บ
บางทีเป๊บซึ่งชอบความสมบูรณ์แบบเหมาะกับฟุตบอลลีคที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ แต่ Ucl นอกจากการเตรียมแผ่นก่อนเกมแล้ว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างเกมก็เป็นสิ่งสำคัญ อะไรที่เป็นไปตามแผน นักเตะแมนซิตี้ทำได้ดี แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากแผนการ หรือ เอาง่ายๆ การตกอยู่ในสถานการณ์ตามหลัง เชื่อได้เลยว่า โอกาสจะกลับมาพลิกชนะแทบไม่มีเลย บางครั้งเป๊บก็คิดมากเกินไปหรืออินดี้แบบไม่มีสาเหตุ แล้วดันมาเป็นในนัดสำคัญด้วย เลยตกรอบแบบงงๆ เช่น เมื่อคืนให้สเตอลิ่งลงคู่กับกรีลิซ การเปลี่ยนตัวเอา KDB มาเรซออก ผลออกมาไม่มีผลอะไรต่อเกมเลย
4.สภาพจิตใจของนักฟุตบอล
เรื่องความสามารถของผู้เล่นแมนซิตี้ไม่ต้องพูดถึง แต่บางทีอาจจะเก่งเฉพาะฟุตบอลลึค แต่พอเกมที่กดดันจริงๆ เหมือนใน UCL แพ้ตกรอบไม่มีโอกาสให้แก้ตัว สภาพจิตใจที่เข้มแข็ง ความเหี้ยมเกรียมแทบไม่มีเลย คงจะเหมือนนักเรียนที่สอบผ่านได้เกรดสี่ทั้งเทอม แต่ถ้าให้ไปสอบแข่งขันที่กดดัน ชี้เป็นชี้ตายในครั้งเดียว เช่น สอบเข้ามหาลัย กลับสอบตก เพราะไม่มีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจริงๆ
5.ผู้นำ/กัปตัน
ไม่มีผู้นำทีมที่ชัดเจน ไม่มีคนคอยปลุกเร้า ถกแขนเสื้อเพื่อลุกขึ้นสู้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ความเป็นผู้นำของแฟร์นานดินโญ่ กุนโดกัน เดอบรอย ยังห่างชั้นกับนักเตะผู้นำทีมอื่นพอสมควร เอาง่ายๆ รีลมาดริด แต่ละคนเกียรติประวัติโชกโชน คว้าแชมป์มาเยอะมาก แมนซิตี้คงต้องสร้างกลุ่มผู้นำใหม่ เช่น ดิอาส สร้างความกลมเกลียวในหมู่นักเตะ
6.มีข่าวนักเตะจะย้ายจากทีมก่อนการแข่งขันนัดสำคัญ
การมีข่าวว่า นักเตะตัวหลักจะถูกขายออกจากทีม ไม่เป็นผลดีเลย เรื่องแบบนี้ย่อมสร้างผลกระทบต่อจิตใจผู้เล่นพอสมควร
7.ขาดนักเตะตัวตัดสินเกม (Match Winner Player)
ฟุตบอลของเป๊บระบบทีมดีจริงๆ แต่บางทีในสถานการณ์ที่กดดันหรือต้องการประตู ต้องมีนักเตะที่สามารถทำประตูได้ หรือตัวสำรองที่ลงมาเปลี่ยนสถานการณ์ ผมว่า คนที่พอใกล้เคียงคือ เดอบรอย ส่วนคนอื่นๆ เช่น เจซุส โฟเด้น สเตอลิ่ง มาร์เรซ ยังขาดวิญญาณเพชรฆาตหรือสามารถลงโทษได้ในจังหวะสำคัญ
8.ประวัติศาสตร์สโมสร
ทีมอย่างรีลมาดริด แมนยู ลิเวอร์พูล ความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี มีประวัติศาสตร์พลิกนรกคว้าแชมป์ มันเหมือนฝังใน DNA ของผู้เล่นว่า ต่อให้สถานการณ์ตกต่ำยังไง เด่วจะกลับมาได้ อีกอย่างผมว่า แฟนบอลยังไม่สามารถส่งพลังให้นักเตะได้มากพอเท่าที่ควร
9.ประสบการณ์ ความเขี้ยว กระดูกบอล
สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาสั่งสม การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ชนะ บางทีไม่ใช่แค่เล่นฟุตบอลดีอย่างเดียว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มีผลทั้งสิ้น ถ้าเมื่อคืนแมนซิตี้ เล่นบอลละเอียดหรือเคี่ยวกว่านี้สักหน่อย เคาะบอลเผาเวลา ฟาวล์ตัดเกม ได้ลูกทุ่มไม่ต้องรีบทุ่ม เกมเมื่อคืนอาจจะไม่แพ้ก็ได้ แต่ที่เห็นยังตะบี้ตะบันบุกโดยไม่จำเป็น แมนซิตี้เก่งจริงๆ ต้องยอมรับ แต่บอล UCL แค่เก่งไม่พอ สภาพจิตใจสำคัญที่สุด ตรงนี้คือสิ่งที่นักเตะของแมนซิตี้ยังขาดหายไป สิ่งที่เรียกว่า "คลาส" ศาสตร์แห่งการเป็น "ผู้ชนะ" มันได้มาไม่ง่ายจริงๆ ต้องใช้เวลาเรียนรู้
********สุดท้าย ยังเอาใจช่วยให้เป๊บเอาชนะ UCL ให้ได้สักที *********
ทำไมแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ประสบความสำเร็จใน Ucl สักที
1.ลักษณะทางกายภาพของนักฟุตบอล
สังเกตว่า นักฟุตบอลสเป็คที่เป็บชอบ จะมีร่างกายที่ไม่สูงใหญ่ ออกจะตัวเล็กแต่เน้นเทคนิค เช่น สเตอริ่ง เจซุส มาเรซ โฟลเด้น ฯลฯ ดูแล้วไม่มีความเกรี้ยวกราด (Agressive) หรือพูดหยาบๆ ว่า ไม่มีภาษากายของความเป็นผู้ชนะเลย เหมือนสเตอริ่ง เจซุส ผมมองว่า ไม่มีโหงวเฮ้งความเป็นแชมเปี้ยนเลย
แล้วในแนวรุกจะมีนักเตะลักษณะนี้เกือบหมดเลย แน่นอนว่า ในเกมลีกที่สามารถใช้ความสามารถนักเตะเหล่านี้ขึงทำประตูได้ แต่บางทีใน UCL ไม่มีหมูให้เขี้ยวง่ายๆ การบุกในรูปแบบบอลภาคพื้นดินอย่างเดียว มันไม่พอ แมนซิตี้ควรจะมีนักเตะแนวรุกที่มีความหลากหลายมากกว่านี้ เพื่อเป็นอาวุธหลายๆ แบบในเกมรุก เช่น ศูนย์หน้าเป้า กองหน้าตัวใหญ่ไว้เก็บบอล ฯลฯ
2.ความหลากหลายในแทคติก
สืบเนื่องจากข้อแรก การบุกในรูปแบบบอลภาคพื้นดินอย่างเดียว มันไม่พอ เอาง่ายๆ ตอนต่อเวลาตามหลังมาดริด 3 ต่อ 1 ยังเคาะบอลกันไปมา สเตอริ่งยังบ้าเลี้ยงอยู่เลย แทบไม่เห็นการโหมบุกกระหน่ำจากซิตี้เลย เป็นทีมอื่นต้องกระหน่ำบุก กระหน่ำโยนเข้าไปวัดดวงในกรอบเขตโทษแล้ว หรือโกลต้องขึ้นไปด้วยแล้ว แต่เหมือนเป๊บฝังโปรแกรมนักเตะให้เหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีพื้นที่ให้กับจินตนาการ หรือความเป็นไปได้ในปาฎิหาริย์เลย
3.ความสามารถในการแก้เกมส์ของเป๊บ
บางทีเป๊บซึ่งชอบความสมบูรณ์แบบเหมาะกับฟุตบอลลีคที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ แต่ Ucl นอกจากการเตรียมแผ่นก่อนเกมแล้ว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างเกมก็เป็นสิ่งสำคัญ อะไรที่เป็นไปตามแผน นักเตะแมนซิตี้ทำได้ดี แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากแผนการ หรือ เอาง่ายๆ การตกอยู่ในสถานการณ์ตามหลัง เชื่อได้เลยว่า โอกาสจะกลับมาพลิกชนะแทบไม่มีเลย บางครั้งเป๊บก็คิดมากเกินไปหรืออินดี้แบบไม่มีสาเหตุ แล้วดันมาเป็นในนัดสำคัญด้วย เลยตกรอบแบบงงๆ เช่น เมื่อคืนให้สเตอลิ่งลงคู่กับกรีลิซ การเปลี่ยนตัวเอา KDB มาเรซออก ผลออกมาไม่มีผลอะไรต่อเกมเลย
4.สภาพจิตใจของนักฟุตบอล
เรื่องความสามารถของผู้เล่นแมนซิตี้ไม่ต้องพูดถึง แต่บางทีอาจจะเก่งเฉพาะฟุตบอลลึค แต่พอเกมที่กดดันจริงๆ เหมือนใน UCL แพ้ตกรอบไม่มีโอกาสให้แก้ตัว สภาพจิตใจที่เข้มแข็ง ความเหี้ยมเกรียมแทบไม่มีเลย คงจะเหมือนนักเรียนที่สอบผ่านได้เกรดสี่ทั้งเทอม แต่ถ้าให้ไปสอบแข่งขันที่กดดัน ชี้เป็นชี้ตายในครั้งเดียว เช่น สอบเข้ามหาลัย กลับสอบตก เพราะไม่มีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจริงๆ
5.ผู้นำ/กัปตัน
ไม่มีผู้นำทีมที่ชัดเจน ไม่มีคนคอยปลุกเร้า ถกแขนเสื้อเพื่อลุกขึ้นสู้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ความเป็นผู้นำของแฟร์นานดินโญ่ กุนโดกัน เดอบรอย ยังห่างชั้นกับนักเตะผู้นำทีมอื่นพอสมควร เอาง่ายๆ รีลมาดริด แต่ละคนเกียรติประวัติโชกโชน คว้าแชมป์มาเยอะมาก แมนซิตี้คงต้องสร้างกลุ่มผู้นำใหม่ เช่น ดิอาส สร้างความกลมเกลียวในหมู่นักเตะ
6.มีข่าวนักเตะจะย้ายจากทีมก่อนการแข่งขันนัดสำคัญ
การมีข่าวว่า นักเตะตัวหลักจะถูกขายออกจากทีม ไม่เป็นผลดีเลย เรื่องแบบนี้ย่อมสร้างผลกระทบต่อจิตใจผู้เล่นพอสมควร
7.ขาดนักเตะตัวตัดสินเกม (Match Winner Player)
ฟุตบอลของเป๊บระบบทีมดีจริงๆ แต่บางทีในสถานการณ์ที่กดดันหรือต้องการประตู ต้องมีนักเตะที่สามารถทำประตูได้ หรือตัวสำรองที่ลงมาเปลี่ยนสถานการณ์ ผมว่า คนที่พอใกล้เคียงคือ เดอบรอย ส่วนคนอื่นๆ เช่น เจซุส โฟเด้น สเตอลิ่ง มาร์เรซ ยังขาดวิญญาณเพชรฆาตหรือสามารถลงโทษได้ในจังหวะสำคัญ
8.ประวัติศาสตร์สโมสร
ทีมอย่างรีลมาดริด แมนยู ลิเวอร์พูล ความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี มีประวัติศาสตร์พลิกนรกคว้าแชมป์ มันเหมือนฝังใน DNA ของผู้เล่นว่า ต่อให้สถานการณ์ตกต่ำยังไง เด่วจะกลับมาได้ อีกอย่างผมว่า แฟนบอลยังไม่สามารถส่งพลังให้นักเตะได้มากพอเท่าที่ควร
9.ประสบการณ์ ความเขี้ยว กระดูกบอล
สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาสั่งสม การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ชนะ บางทีไม่ใช่แค่เล่นฟุตบอลดีอย่างเดียว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มีผลทั้งสิ้น ถ้าเมื่อคืนแมนซิตี้ เล่นบอลละเอียดหรือเคี่ยวกว่านี้สักหน่อย เคาะบอลเผาเวลา ฟาวล์ตัดเกม ได้ลูกทุ่มไม่ต้องรีบทุ่ม เกมเมื่อคืนอาจจะไม่แพ้ก็ได้ แต่ที่เห็นยังตะบี้ตะบันบุกโดยไม่จำเป็น แมนซิตี้เก่งจริงๆ ต้องยอมรับ แต่บอล UCL แค่เก่งไม่พอ สภาพจิตใจสำคัญที่สุด ตรงนี้คือสิ่งที่นักเตะของแมนซิตี้ยังขาดหายไป สิ่งที่เรียกว่า "คลาส" ศาสตร์แห่งการเป็น "ผู้ชนะ" มันได้มาไม่ง่ายจริงๆ ต้องใช้เวลาเรียนรู้
********สุดท้าย ยังเอาใจช่วยให้เป๊บเอาชนะ UCL ให้ได้สักที *********